ข่าวขอนแก่น - พร้อมรับมือพายุโซนร้อน “ราอี” บรรดานักเรียน-ครูในโรงเรียนพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมช่วยกันขนกระสอบทรายทำแนวกั้นน้ำป้องกันทะลักเข้าห้องเรียน ขณะที่เทศบาลนครขอนแก่นเตรียมกระสอบทรายกว่า 3,000 ใบแจกจ่ายตามจุดเสี่ยงน้ำท่วม ด้านอุตุฯ เตือนประชาชนระวังภัยจากพายุลมแรงที่จะเข้ามาพร้อมกับห่าฝนด้วย
วันนี้ (13 ก.ย.) เจ้าหน้าที่ อปพร. เทศบาลนครขอนแก่น และเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครขอนแก่น ช่วยกันนำกระสอบมาบรรจุทรายเพื่อใส่กระสอบรอการแจกให้แก่ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมในเขตเทศบาลนครขอนแก่น หลังจากกรมอุตินิยมวิทยาได้เตือนว่าจังหวัดขอนแก่นจะได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อนราอี จะทำให้มีฝนตกหนัก
นายธวัชชัย รื่นรมย์สิริ รองนายกเทศมนตรีนครขอนแก่น เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางเทศบาลฯ ได้ติดตามผลกระทบจากพายุโซนร้อนราอีอย่างใกล้ชิด โดยมีการเตรียมกระสอบทรายกว่า 3,000 กระสอบไว้สำหรับป้องกันน้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงทั้ง 11 จุด และติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่จำนวน 8 จุด
พร้อมทั้งจัดชุดเคลื่อนที่เร็วเตรียมออกปฏิบัติการตลอด 24 ชั่วโมง หากเกิดน้ำท่วมขัง คาดว่าในค่ำคืนนี้จังหวัดขอนแก่นจะได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อนดังกล่าว
ขณะที่ครูและนักเรียนจากโรงเรียนเทศบาลคุ้มหนองคูได้มาขนกระสอบทรายกว่า 200 กระสอบเพื่อนำไปกั้นไม่ให้น้ำไหลเข้าภายในห้องเรียนของนักเรียนชั้นอนุบาล หลังพบว่าหลังจากที่วันที่ 6 กันยายน และวันที่ 11 กันยายน 2559 ที่ผ่านมามีฝนตกลงมาหนักจนทำให้น้ำได้ล้นออกจากท่อระบายน้ำไหลเข้าท่วมสนามหน้าโรงเรียนและห้องเรียนของนักเรียนชั้นอนุบาลมาแล้ว คาดว่ากระสอบทรายที่นำมากั้นในครั้งนี้ จะไม่ทำให้น้ำไหลเข้าห้องเรียนได้อีก
รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า วันเดียวกันนี้ ที่ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน จ.ขอนแก่น นายธนาวุฒิ ปัญจพรอุดมลาภ ผู้อำนวยการศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ได้สั่งตั้งวอร์รูมเฝ้าจับตาดูการเคลื่อนตัวของพายุราอีขึ้นที่บริเวณชั้น 2 ของอาคารที่ทำการ โดยได้ระดมนักวิชาการที่ชำนาญการเข้ามานั่งประจำในห้องวอร์รูม เพื่อประชุมและประสานงานทางวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับศูนย์อุตุนิยมวิทยาจังหวัดต่างๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อประเมินสถานการณ์และเตรียมรับมือพายุราอี ซึ่งขณะนี้ได้เข้าสู่ประเทศไทยแล้ว
นายธนาวุฒิกล่าวว่า จากอิทธิพลของพายุราอีส่งผลให้จังหวัดที่ได้รับผลกระทบ ประกอบด้วย นครพนม สกลนคร ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม หนองบัวลำภู ชัยภูมิ รวมทั้งอีสานตอนล่าง เช่น มุกดาหาร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี นครราชสีมา และ จ.เลย อย่างไรก็ตาม หลังจากที่พายุลูกนี้เข้าถึงฝั่งไทยแล้ว โอกาสที่จะกลายเป็นดีเปรสชันมีสูงมาก แต่ก็ไม่ควรประมาท เพราะอาจจะมีลมพายุพัดแรงตามมาด้วย
จึงขอฝากเตือนประชาชนที่อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้เฝ้าติดตามรายงานของอุตุนิยมวิทยาตลอด 24 ชม. เพราะอาจจะเกิดฝนตกหนักมีน้ำป่าไหลหลากจนเกิดน้ำท่วมฉับพลันขึ้นได้ และขอให้ระวังพายุที่จะมากับฝนตกหนักในครั้งนี้ด้วยเพื่อความปลอดภัย
