เชียงราย - ผู้ประกอบการธุรกิจชายแดนเชียงแสนรวมตัวยื่นเรื่องถึงผู้ว่าฯ เชียงราย รุมต้าน “โยธาธิการและผังเมือง” ผุดตึกยาว 70 เมตรริมน้ำโขง เขตเมืองประวัติศาสตร์ ชี้ก่อทัศนะอุจาด บังทิวทัศน์ริมน้ำโขง
วันนี้ (13 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มประชาชนชาว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่งชายแดนไทย-สปป.ลาว ประมาณ 30 คน ได้รวมตัวกันยื่นหนังสือเรียกร้องต่อนายบุญส่ง เตชะมณีสถิตย์ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ที่ศาลากลางจังหวัดฯ
เพื่อขอให้ระงับโครงการก่อสร้างของกรมโยธาธิการและผังเมือง ในเขตเทศบาล ต.เวียงเชียงแสน เขตเมืองประวัติศาสตร์เชียงแสน ตามโครงการพัฒนาผังเมืองรวมเมืองเชียงแสน ที่มีระยะเวลาดำเนินการ 2 ปี โดยจะมีการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างหลายอย่าง ซึ่งชาวบ้านไม่เห็นด้วย โดยเฉพาะการสร้างอาคาร 4 หลัง ยาว 70 เมตร ตั้งแต่สามแยก สภ.เชียงแสน-หน้าวัดปงสนุก อันเป็นทางเท้าริมถนนเลียบแม่น้ำโขง
เพราะตัวอาคารจะบดบังทิวทัศน์แม่น้ำโขง และเมื่อแล้วเสร็จจะใช้เป็นสถานที่จำหน่ายสินค้าที่ก่อให้เกิดความสกปรก ไม่เป็นระเบียบ กีดขวางการจราจร รวมทั้งอาจเอื้อประโยชน์ต่อคนกลุ่มเดียว
กลุ่มผู้ประกอบการฯ ยังระบุด้วยว่า นอกจากไม่ควรสร้างอาคารใหม่แล้ว ยังควรรื้อถอนอาคารจำหน่ายสินค้าชายแดนที่มีอยู่แล้วออกเพื่อปรับทิวทัศน์ริมแม่น้ำโขงให้ดีขึ้นด้วย รวมทั้งไม่เห็นด้วยกับการปรับปรุงถนนรอบกำแพงเมืองด้วยการทำเหล็กกั้นสำหรับช่องทางรถจักรยาน เพราะถนนคับแคบ ขณะที่การจราจรก็ไม่ได้คับคั่งหากไม่ก่อสร้างจะลดงบประมาณได้ต่อไป
นายสุรพล สีโท อายุ 54 ปี บ้านเลขที่ 457/1 ม.3 ต.เวียง อ.เชียงแสน ตัวแทนกลุ่มชาวบ้าน กล่าวว่า ทางเท้าริมแม่น้ำโขงนั้นไม่ควรให้มีอาคาร หรือร้านค้าต่างๆ บดบังทัศนียภาพ หรือหาประโยชน์ค่าเช่าใดๆ จากร้านค้าต่างๆ แต่ควรพัฒนาให้เป็นทางเท้า ที่นั่ง และเดินพักผ่อน หรือสวนสาธารณะ เพื่อความโล่ง และเป็นสง่า ร่มรื่นของเมืองชายแดน
แต่ปัจจุบันนอกจากจะเปิดให้ตั้งเป็นร้านสินค้าอยู่เต็มแล้ว ทางกรมโยธาธิการและผังเมืองยังจะเข้าไปสร้างอาคารขึ้นมาแทนร้านค้าเก่าอีก และโครงการนี้ไม่ได้มีการสอบถามความคิดเห็นจากประชาชน จึงขอให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ระงับโครงการดังกล่าวก่อนที่จะสายเกินไปด้วย
ต่อมานายประจญ ปรัชญ์สกุล รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ได้เป็นตัวแทนผู้ว่าราชการจังหวัดฯ เข้ารับเรื่อง พร้อมรับปากจะนำไปพิจารณา และเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามขั้นตอนต่อไป ทำให้กลุ่มชาวบ้านแยกย้ายกันกลับ
สำหรับโครงการดังกล่าวใช้งบประมาณปี 59 จากกรมโยธาธิการและผังเมืองจำนวน 87,838,000 บาท เพื่อดำเนินการก่อสร้างตามโครงการพัฒนาตามผังเมืองรวมเมืองเชียงแสน โดยแยกเป็นโครงการย่อยต่างๆ เช่น งานก่อสร้างอาคาร จำนวน 39,562,569 บาท ปรับปรุงทางจักรยาน และทางเท้าจำนวน 48,720,000 บาท ระยะเวลาดำเนินการ 700 วัน ตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย.นี้ ถึงวันที่ 8 มี.ค. 2561