กาญจนบุรี - “วัว” วัดป่าหลวงตาบัวญาณสัมปันโน หรือวัดเสือ เหยื่อคนใจร้ายใช้ลูกซองยิง 7 รู อาการเริ่มทรุด เจ้าหน้าที่เร่งนำส่ง รพ.ปศุสัตว์และสัตว์ป่า ม.มหิดล ยื้อชีวิตแล้ว ไวยาวัจกรวัดเสือประณามคนใจบาปทำได้แม้กระทั่งกับสัตว์ที่ไถ่ชีวิตออกมา ด้าน ผอ.รพ.ปศุสัตว์ ม.มหิดล วิทยาเขตกาญจนบุรี ยันวัวปลอดภัย โชดคดีถูกยิงห่างปอดแค่ 1 ฟุต
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีพบเฟซบุ๊กของผู้ที่ใช้นามว่า แสน อินนาค โพสต์รูปวัวเพศผู้รูปร่างสันทัด ตัวสีขาว จำนวน 2 ภาพลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมกับเขียนข้อความระบายในภาพว่า “สัตว์ในวัดยังไม่เว้น ใครแอบมายิงวัว” ซึ่งภาพดังกล่าวโพสต์เมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 9 ก.ย.59 จากสภาพพบว่า วัวตัวดังกล่าวถูกคนใจบาปยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองเข้าที่บริเวณโคนขาหน้าด้านซ้าย จำนวน 7 รูและยังมีคราบเลือดที่แห้งเกรอะกรังติดอยู่
จากภาพด้านหลังพบว่า มีป้ายปูนเขียนเป็นภาษาอังกฤษว่า Tiger canyon จึงทราบว่า วัวตัวที่ถูกยิงเป็นวัวที่อาศัยอยู่ภายในวัดป่าหลวงตาบัวญาณสัมปันโน หรือวัดเสือ หมู่ 5 ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี และหลังจากผู้ที่ใช้นามว่า แสน อินนาค โพสต์ภาพดังกล่าวลงไปก็พบว่า มีสมาชิกเข้าไปแสดงความคิดเห็นไปในทางสาปแช่ง และมีการแชร์ต่อๆ กันจำนวนมาก
ล่าสุด เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (12 ก.ย.) นายศิริ หวังบุญเกิด ไวยาวัจกร วัดป่าหลวงตาบัวญาณสัมปันโน เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า สำหรับวัวตัวดังกล่าวเป็นวัวพันธุ์บราห์มัน เพศผู้ อายุประมาณ 8 ปี ก่อนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา คนงานที่อยู่ภายในวัดจำเป็นต้องต้อนฝูงวัวออกไปกินหญ้าที่บริเวณพระวิหาร เพราะมีหญ้าเยอะ ซึ่งฝูงวัวทุกตัวก็กินหญ้าอยู่บริเวณนั้นตามปกติโดยที่คนงานที่ต้อนฝูงวัวออกไปต้องกลับมาดูแลสัตว์ชนิดอื่นที่อยู่ภายในวัดอีกเป็นจำนวนมาก
จนกระทั่งเวลาประมาณ 17.00 น. ก็ไปต้อนวัวให้กลับเข้าคอกที่อยู่ภายในวัด แต่ปรากฏว่า คนงานสังเกตเห็นวัวตัวดังกล่าวเดินท่าทางลักษณะคล้ายบาดเจ็บ จึงเข้าไปดูใกล้ๆ พบว่า วัวถูกคนใจร้ายใช้อาวุธปืนลูกซองยิงเข้าที่โคนต้นขาขวาด้านซ้าย 7 รู มีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก จากนั้น นายแสน อดีตคนงานที่เคยเลี้ยงดูเสือโคร่ง จึงถ่ายภาพไปลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว เพื่อประจานคนที่ก่อเหตุดังกล่าว
แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากยังไม่มีเงินพอที่จะนำไปรักษาจึงจำเป็นจะต้องหายาที่พอมีอยู่ไปทาเพื่อบรรเทาอาการบาดเจ็บ แต่สุดท้ายอาการก็ไม่ดีขึ้น และเริ่มทรุดลง ด้วยความเป็นห่วง จึงตัดสินใจนำวัวไปรักษาที่โรงพยาบาลปศุสัตว์และสัตว์ป่า มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตกาญจนบุรี ตั้งแต่วันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา เพื่อขอให้คณะสัตวแพทย์ช่วยเหลือในการผ่าตัดเพื่อเอาหัวกระสุนที่ฝังอยู่ออก ซึ่งก็ได้รับความช่วยเหลือจากคณะสัตวแพทย์ของโรงพยาบาลเป็นอย่างดี
“ส่วนตัวก็ขอประณาม และสาปแช่งผู้ที่กระทำ เพราะวัวตัวดังกล่าวถือว่าเป็นวัวที่มีประชาชนไถ่ชีวิตออกมาจากโรงฆ่าสัตว์ แล้วนำมามอบให้แก่ทางวัดเลี้ยงดู เพื่อที่จะทำให้ผู้ไถ่ชีวิตวัวออกมาจะได้บุญกุศล ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวถือว่าเป็นเขตอภัยทาน ที่ผู้กระทำดังกล่าวเป็นผู้ที่มีใจเป็นบาปมาก” ไวยาวัจกรวัดเสือ กล่าว
อ.ดร.น.สพ.มาโนชญ์ ยินดี ผอ.โรงพยาบาลปศุสัตว์และสัตว์ป่า ปศุปาลัน คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตกาญจนบุรี เปิดเผยว่า หลังจากที่ทางวัดนำวัวตัวดังกล่าวมาให้ทางโรงพยาบาลทำการรักษา ซึ่งช่วงเช้าที่ผ่านมา คณะสัตวแพทย์ได้ทำการเอกซเรย์ ปรากฏว่า พบจุดสีดำเพียง 2 จุด ซึ่งไม่ชัดเจนว่าใช่หัวกระสุนหรือไม่ จนกระทั่งช่วงบ่ายที่ผ่านมา จึงทำการอัลตราซาวนด์ตรวจหาหัวกระสุนอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งปรากฏว่า วัตถุที่ฝังอยู่ใต้ผิวหนัง 2 จุด จุดแรกลึกจากผิวหนังประมาณ 1.2 เซนติเมตร จุดที่ 2 ลึกประมาณ 1.5 เซนติเมตร วัตถุที่พบทั้ง 2 จุดมีลักษณะสีดำ แต่ก็ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเป็นหัวกระสุนชนิดใด
“คาดว่าวัวตัวดังกล่าวน่าจะถูกอาวุธปืนลูกซองยิงในระยะประมาณ 10 เมตร เพราะรูกระสุน และแผลจับกันเป็นกลุ่ม หากยิงในระยะไกลบาดแผลคงจะกระจายไปทั่ว แต่ก็นับว่ายังโชคดีที่กระสุนถูกยิงเข้าที่บริเวณต้นขา ซึ่งหากถูกยิงห่างออกไปทางด้านหลังระยะประมาณ 1 ฟุต กระสุนอาจจะโดนเข้าที่ปอด และทำให้วัวเสียชีวิตได้ และขณะนี้อาการของวัวนั้นปลอดภัยแล้ว ซึ่งวันพรุ่งนี้ (13 ก.ย.) คณะสัตวแพทย์จะเริมทำการผ่าตัดเอาวัตถุที่พบทั้ง 2 จุดออกอีกครั้งหนึ่งต่อไป”