xs
xsm
sm
md
lg

ทหาร-ตร.บุกตรวจ-อายัดโรงงานปุ๋ยป่าซาง พบผสมสารต้องห้ามขายทั่วเหนือ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ลำพูน - ผู้ว่าฯ ลำพูน สั่ง กอ.รมน.สนธิกำลังทหาร พล.ร.7-ตำรวจ พร้อมฝ่ายปกครอง บุกตรวจอายัดโรงงานผลิตปุ๋ยปลอม พบผสมสารต้องห้ามบรรจุถัง-กระสอบตีตราส่งขายเกษตรกรทั่วภาคเหนือ

วันนี้ (8 ก.ย.) นายณรงค์ อ่อนสะอาด ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน สั่งการให้ พ.อ.จิตติวัศร์ ศรสุวรรณ์ รอง ผอ.รมน.จังหวัดลำพูน ร่วมกับ พ.อ.นพดล คามเกตุ รอง เสธ.บก.ควบคุม กกล.รส.จว.ลำพูน , พ.ต.ท.พิสันต์ ชัยสุริยะ รอง ผกก.สส.สภ.ป่าซาง นำทหารกองกำลัง พล.ร.7 - ตำรวจ - เจ้าหน้าที่เกษตรอำเภอป่าซาง - เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อส.รวม 25 นาย บุกเข้าตรวจค้นโรงงานปุ๋ยปลอม เขตบ้านหนองหมู ตำบลท่าตุ้ม อำเภอป่าซาง ที่ผลิตส่งขายทั่วภาคเหนือ

เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปตรวจสอบที่โรงงานเลขที่ 1 หมู่ที่ 6 ตำบลท่าตุ้ม อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน ตั้งบนเนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ มีการบ้านพัก โรงงานภายในบริเวณบ้านขนาดกว้าง 25 เมตร ยาว 30 เมตร สูง14 เมตร มีนายเดชา ลือชัย อายุ 51 ปี เป็นเจ้าของ ภายในโรงงานพบคนงาน ซึ่งเป็นชาวบ้านในหมู่บ้านมารับจ้างกำลังผสมปุ๋ยอยู่ 5 คน เจ้าหน้าที่จึงสั่งให้ยุติการผลิต

สอบสวนคนงานทั้งหมดให้การว่า มารับจ้างผสมปุ๋ยใส่ลำไยให้นายเดชา เจ้าของโรงงาน โดยนำสารปุ๋ยธันเดอร์เคล ผสมกับโซเดียมคลอไรด์ สารแมกนีเซียม และสีฝุ่น เพื่อบรรจุใส่ในถังบรรจุพลาสติกทึบความจุ 20 ลิตร น้ำหนักถังละประมาณ 52 กก. ใช้ชื่อสารเร่งว่า “premium gradedecha” ซึ่งเป็นสารเร่งช่อดอกลำไย และระบุว่าเป็นสารโปแตสเซียม พร้อมระบุชื่อเดชา ยี่ห้อดาวแดง ยี่ห้อตะวันแดง และยี่ห้อธันเดอร์เคล มีสัญลักษณ์เป็นรูปนกในดวงตะวัน

จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่เบื้องต้นทราบว่า มีการผสมสารต้องห้ามในปุ๋ยใส่ลำไยที่ทำการผลิตขายได้แกสารโปแตสเซียม ซึ่งต้องได้รับอนุญาตจากฝ่ายทหารเท่านั้น นอกจากนั้นยังมีการผสมสารแมกนีเซียม สารโซเดียม และเมื่อใบอนุญาตมีและครอบครอง พบว่า หมดอายุไปเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2557 ใบประกอบการค้าหมดอายุเดือน พค.2556

เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดสารเร่งผลิตลำไยด้อยคุณภาพ จำนวน 106 ถัง สารประกอบเร่งช่อดอกของลำไยจำนวน 942 ถุง กระสอบบรรจุโปแตสเซียมครอเรท หนัก 25 กก. ระบุผลิตที่จีนจำนวน 14 กระสอบ โดยนำสารบางส่วนไปตรวจสอบ และสั่งอายัดของกลางทั้งหมดนับพันกระสอบรวมมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้นายเดชา เจ้าของโรงงานทราบว่า เมื่อตรวจสอบเอกสารหลักฐาน และพิสูจน์สารต่างๆเสร็จแล้ว หากมีความผิด ก็จะแจ้งข้อหามีสารต้องห้ามไว้ครอบครองโดยไม่รับอนุญาต ผสมสารโดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหาหลอกลวงผู้บริโภคต่อไป







กำลังโหลดความคิดเห็น