กาฬสินธุ์ - ครอบครัวสุดอาลัยสูญเสีย “หมอส้ม” พญ.สุพัตรา ผาระกัน หมอชนบทโรงพยาบาลหนองกุงศรี กาฬสินธุ์ เสียชีวิตอย่างสงบ เป็นผู้ป่วยในพระอนุเคราะห์สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เผยชีวิตเกิดในครอบครัวฐานะยากจน แต่มุ่งมั่นตั้งใจเรียนจบแพทย์ ทั้งเป็นหมอใจดี มุ่งมั่นทำงานทดแทนคุณพ่อแม่ แต่ต้องมาจากไปด้วยโรคมะเร็งร้ายคุกคาม
วันนี้ (7 ก.ย. 59) ที่บ้านเลขที่ 97 หมู่ 10 บ้านกุงเก่า ต.กุงเก่า อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นบ้านของ “หมอส้ม” พญ.สุพัตรา ผาระกัน อายุ 30 ปี ผู้ป่วยโรคมะเร็งปอด ในพระอนุเคราะห์สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี โดยได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา กระทั่งได้เสียชีวิตลงอย่างสงบเมื่อวันที่ 5 ก.ย. 59 ที่ผ่านมา ญาติได้นำร่างกลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดตามประเพณี
ท่ามกลางความเศร้าเสียใจของนางบุญเพ็ง-นายสันติชัย ผาระกัน แม่และพ่อที่จะต้องสูญเสียเสาหลักของครอบครัวไป โดยบรรยากาศในงานมีญาติพี่น้อง เพื่อนบ้าน และคนในแวดวงกระทรวงสาธารณสุขเดินทางมาแสดงความเสียใจกับครอบครัวตลอดทั้งวัน รวมถึงนายพลานุภาพ ธพรคำแพทย์ นายอำเภอท่าคันโท ที่เดินทางไปแสดงความเสียใจกับครอบครัว รวมถึงคอยอำนวยความสะดวกในการจัดงานบำเพ็ญกุศลศพเป็นอย่างดี
นางบุญเพ็ง ผาระกัน กล่าวทั้งน้ำตาว่า ครอบครัวและญาติต่างซาบซึ้งในพระกรุณาธิคุณที่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงรับลูกสาวไว้เป็นคนไข้ในพระอนุเคราะห์ รวมถึงความช่วยเหลือจากส่วนอื่นๆ ทั้งอาจารย์และเพื่อนๆ ทำให้ครอบครัวมีหวังมากขึ้นว่าหมอส้มจะหาย แต่เมื่อมาถึงวันที่หมอส้มจากไปต่อจากนี้คงต้องทำใจ ก่อนหน้านี้ 7 ปีที่แล้วเพิ่งสูญเสียลูกชายซึ่งเป็นน้องชายหมอส้มไป จากนี้เหลือเพียง 2 สามีภรรยาคงต้องดูแลกันไป
ส่วนงานอื่นๆ ที่เคยทำตอนส่งหมอส้มเรียนหมอ ทั้งรับจ้างต่างๆ เลี้ยงหม่อนไหม และทอผ้าไหม คงไม่ทำแล้วหยุดไว้ ส่วนบ้านที่สร้างให้ใหม่เป็นเงินที่กู้มากว่า 3 ล้านบาท สร้างเสร็จได้เข้าอยู่แค่ปีเดียวเจ้าของบ้านก็ป่วย ส่วนบ้านหลังเดิมเป็นกระต๊อบมุงหญ้าคายังคงไว้ ไม่ให้รื้อออกแม้มีบ้านหลังใหม่สวยงาม เพราะมีความผูกพัน และให้เป็นอนุสรณ์ว่าเด็กยากจนก็เรียนจนจบเป็นหมอได้
นอกจากนี้หมอส้มยังเริ่มเปิดคลินิกเพื่อรักษาคนไข้ ซื้อเครื่องมือแพทย์ทันสมัยมากมาย แต่ช่วงที่ป่วยก็เริ่มทยอยขายเพื่อนำเงินมารักษาตัว เพราะระหว่างนั้นมีค่าใช้จ่ายมากกว่า 70,000 บาทต่อเดือน ส่วนเรื่องหนี้สินยังไม่ทราบว่ามีอยู่เท่าไหร่ เพราะไม่เคยบอกทางครอบครัวให้รับรู้เลย
“หมอส้มเกิดเป็นลูกชาวไร่ชาวนา พ่อแม่ยากจนอาศัยอยู่กระต๊อบหลังคาหญ้าคา ตั้งใจจะเป็นหมอมาตั้งแต่เด็ก เมื่อสอบเรียนหมอได้พ่อแม่ครอบครัวก็ดีใจและกัดฟันทำงานรับจ้างทุกอย่างเพื่อหาเงินส่งลูกสาวเรียนให้จบแพทย์ดั่งที่หวัง มีญาติคอยช่วยจุนเจือ โดยเฉพาะนางประไพศรี ภูเนตร อาแท้ๆ ที่คอยรับส่งหลานสาวช่วงเรียนหนังสืออยู่และส่งเสียดูแลจนวินาทีสุดท้ายของหมอส้ม อีกอย่างถือว่าครอบครอบโชคดีเขาเป็นคนเรียนหนังสือเก่ง ได้รับทุนสนับสนุนจากหลายหน่วยงาน” นางบุญเพ็งกล่าว และว่า
และที่หมอส้มเรียนแพทย์ก็เป็นโครงการผลิตแพทย์เพื่อชาวชนบท กระทรวงสาธารณสุข ศูนย์แพทยศึกษาชั้นคลินิก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งหมอส้มใช้เงินที่พ่อแม่ส่งเสียไปอย่างประหยัด กระทั่งจบก็มาอยู่ที่โรงพยาบาลหนองกุงศรีที่ไม่ไกลจากบ้านมากนัก จนวันที่เขาป่วยจึงรู้ว่าเขาดูแลคนไข้อย่างดี คนไข้ที่เคยรักษาก็มาเยี่ยม มีแต่คนชื่นชมหมอส้ม รวมถึงเพื่อนๆ ต่างชื่นชม ก็รู้สึกดีใจที่ลูกเป็นคนดี ทำดีตามที่พ่อแม่ได้สอนไว้
ด้านนายแพทย์ พุทธรักษ์ ดีสิน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เคยทาบทามหมอส้มให้ย้ายกลับมาช่วยที่ รพ.ท่าคันโท ซึ่งอยู่ในขั้นตอนขอย้ายที่หมอส้มหวังจะกลับมารักษาคนไข้ที่บ้านเกิดตัวเอง แต่ระหว่างนั้นทราบว่าเริ่มมีปัญหาสุขภาพแล้ว โดยที่ อ.หนองกุงศรี ชาวบ้านต่างรักและชื่นชมหมอส้มมาก เพราะเป็นคนดี เป็นหมอใจดี ตั้งใจทำงาน ส่วนตัวก็ติดตามหมอส้มมาตั้งแต่ทราบว่าสอบติดแพทย์ชนบทแล้ว และคิดว่าหมอส้มน่าจะเป็นกำลังสำคัญ เพราะตอนนี้ จ.กาฬสินธุ์ยังขาดแพทย์อีกมาก โดยเฉพาะพื้นที่ห่างไกลอย่าง อ.ท่าคันโท เรื่องราวของหมอส้มยิ่งทำให้รู้สึกเสียดายมาก ชาวบ้านที่รู้ข่าวก็มีความรู้สึกไม่ต่างกัน
สำหรับพิธีบำเพ็ญกุศลศพ “หมอส้ม” พญ.สุพัตรา ผาระกัน แพทย์ประจำโรงพยาบาลหนองกุงศรี จะมีพิธีสวดพระอภิธรรมเวลา 18.00 น. ที่บ้านเลขที่ 97 หมู่ 10 บ้านกุงเก่า ต.กุงเก่า อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ จนถึงวันที่ 11 ก.ย. 2559 และในวันที่ 12 ก.ย.จะเป็นพิธีฌาปนกิจศพ ที่วัดป่าบ้านกุดขอนแก่น ต.กุงเก่า อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์