กาฬสินธุ์ - ตำรวจกาฬสินธุ์ค้านประกันตัวทีมฆาตกรรมโหดอุ้มฆ่ายิงหัว 2 สาวชาว สปป.ลาว แจ้งข้อหาหนักร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และซ่อนเร้น ย้าย ทำลายศพเพื่อปิดบังเหตุแห่งการตาย พร้อมส่งหนังสือประสานสถานกงสุลขอความร่วมมือทางการลาวล่าตัว “เจ้นาง” ขาใหญ่ในไซภูทอง แขวงสะหวันนะเขต
ความคืบหน้าพบศพ 2 สาวถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม ก่อนจะนำศพมาทิ้งไว้ภายในป่าละเมาะระหว่างหมู่บ้านกุดหว้า-หนองห้าง ในเขต ต.หนองห้าง อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ โดยจากการชันสูตรของเจ้าหน้าที่พบว่าถูกอาวุธปืนขนาด .38 ยิงเข้าที่ศีรษะเสียชีวิตทั้ง 2 ราย และมีญาติเดินทางเข้ามายืนยันกับตำรวจว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 2 รายมีชื่อจริงคือ นางกอง พมสาลี อายุ 40 ปี และนางจันสะหมอน เสนสักดา อายุ 26 ปี ซึ่งทั้งสองเป็นชาวเมืองไซภูทอง แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว กระทั่งตำรวจสามารถตามจับผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 5 คน ที่ร่วมกันลงมือฆ่าทั้ง 2 คน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (6 ก.ย.) พล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูล ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจับกุมตัวกลุ่มคนร้ายได้ทั้งหมด จำนวน 5 คน เป็นชาย 4 คน หญิง 1 คน ตามหมายจับของศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ รถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ 2 คัน อาวุธปืน 1 กระบอก พร้อมนำตัวผู้ต้องหา 3 คน ประกอบด้วย 1. นายเฉลิมพงษ์ ฉายไสว หรือเป้ อายุ 32 ปี 2. นายธงชัย ทีจันทร์มาตย์ หรือทน อายุ 24 ปี 3. นายปุณณภพ ภูศิลาแทน หรือสัน อายุ 53 ปี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
ตั้งแต่จุดที่ไปรับตัวผู้ตายทั้ง 2 บริเวณตลาดสดเทศบาล 1 จ.มุกดาหาร จุดที่ยิงผู้ตาย บริเวณถนนเลี่ยงเมืองมุกดาหาร-ดอนตาล และจุดที่นำศพมาทิ้งไว้บริเวณป่าละเมาะข้างโกดังเก็บปุ๋ย หมู่ 11 ต.กุดหว้า อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์
ทั้งนี้ นายโอกาศ ตั้งใจมั่นดีกุล หรือเอี้ยง อายุ 36 ปี ซึ่งถูกให้การซัดทอดว่าเป็นผู้ลงมือยิง และนางกุลนันท์ แสงโสภณ หรือ เอ อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของนายโอกาศ ยังคงให้การภาคเสธ จึงไม่ได้นำตัวไปทำแผน และล่าสุดพนักงานสอบสวนได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปฝากขังที่ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์แล้ว โดยดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และซ่อนเร้น ย้าย ทำลายศพเพื่อปิดบังเหตุแห่งการตาย
ส่วนนายโอกาศ เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาเพิ่มคือมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพกพาอาวุธปืนไปในเมืองทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันสมควร พร้อมคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทั้งหมด เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญ ผู้ต้องหามีพฤติกรรมหลบหนี และมีอัตราโทษหนักจึงเกรงว่าจะมีการข่มขู่พยาน
พล.ต.ต.อภิชิตกล่าวอีกว่า แม้นายโอกาศ และนางกุลนันท์ ซึ่งเป็นสามีภรรยากัน จะให้การภาคเสธแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็มั่นใจในพยานหลักฐานที่จะสามารถดำเนินคดีต่อผู้ต้องหาทั้งหมดได้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตำรวจได้ส่งหนังสือประสานไปยังสถานกงสุล สปป.ลาว ที่ จ.ขอนแก่น เพื่อขอความร่วมมือให้ทางการ สปป.ลาวติดตามจับตัวเจ้นาง ซึ่งเป็นผู้จ้างวานฆ่าและเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ และส่งตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป