กาฬสินธุ์ - ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ นำสำนวนคดีฆ่า “เสี่ยตุ้ม” นักธุรกิจเมืองกรุง ส่งอัยการ มั่นใจหลักฐานพยานมัดแน่น พร้อมเร่งไล่ล่าอีก 1 ในแก๊งสังหาร เชื่อยังกบดานในประเทศไทย
จากกรณี นายภาสพล หรือตุ้ม รัตนยาคุณธิคุณ อายุ 45 ปี นักธุรกิจกรุงเทพฯ ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนสังหารทิ้งศพไว้ข้างถนนบริเวณผาเสวย อ.สมเด็จ ห่างจากถนนเพียง 10 เมตร เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 59 ที่ผ่านมา ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ร่วมขบวนการได้ 5 คน ประกอบด้วย นายมนูญ หรือสิทธิ์ฐิคมน์ ภัทรเมธาพร อายุ 49 ปี อดีตนายทหารบกยศพันเอก นายกิตติภพ หรือเฉลา เครือไย อายุ 54 ปี อดีตนายทหารบกยศร้อยเอก จ.ศ.อ.ชูชัย พิมพิทักษ์ อายุ 44 ปี นายนำชัย บัวพัฒน์ หรือนุติ อายุ 45 ปี ชาว จ.ร้อยเอ็ด และนายวิรัช หรือกอง รัตนตยาธิคุณพ่อแท้ๆ ของนายภาสพล หรือเสี่ยตุ้ม ผู้จ้างวานฆ่า ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด วันนี้ (19 ส.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่สำนักงานอัยการจังหวัดกาฬสินธุ์ พล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูล ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.วิเชียร พินดวง รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ในฐานะหัวหน้าทีมสอบสวน พ.ต.อ.ณัฐพล มิ่งพันธุ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.ทศพร จิเนราวัต ผกก.สภ.สมเด็จ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและสอบสวนที่รับผิดชอบคดีอุ้มฆ่า นายภาสพล ได้นำสำนวนคดีรวมแล้วกว่า 500 หน้า ส่งให้แก่อัยการจังหวัด โดยมีนายรัชดา จุฬารี อัยการจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมคณะอัยการฯ เจ้าของคดีได้รับมอบสำนวนเป็นที่เรียบร้อย
พล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูล ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ระบุว่า สำนวนฟ้องที่ส่งถึงมืออัยการจังหวัดกาฬสินธุ์นั้น มีหลักฐานแน่นหนาที่จะมัดตัวคนก่อเหตุที่ร่วมทำเป็นขบวนการระบุตัวละครได้ตามเหตุการณ์ต่างๆ นอกจากนี้ ยังมีในส่วนของการสอบสวน ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยเฉพาะ นายกิตติภพ หรือนายเฉลา เครือไย หนึ่งในทีมผู้ต้องหา
ขณะที่ นายมนูญ หรือนายสิทธิ์ฐิคมน์ ภัทรเมธาพร ไม่รับในข้อหาไตร่ตรองไว้ก่อน ส่วนนายวิรัช หรือกอง รัตนตยาธิคุณ พ่อแท้ๆ ของนายภาสพล ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาจ้างวานฆ่าลูกตัวเองยังยืนยันว่า ได้สั่งการให้นำตัวลูกชายไปปรับทัศนคติเท่านั้น
แต่ทั้งนี้ต้องดูหลักฐานแวดล้อม โดยเฉพาะเส้นทางการเงินตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้างถึงกรณีรับเงินจากผู้จ้างวาน
“ในส่วนของการสืบสวนยังต้องเร่งติดตามคนร้ายที่เหลืออีก 1 คน คาดว่ายังกบดานอยู่ในประเทศไทย ซึ่งจะไม่ให้หลบหนีอย่างแน่นอน จะต้องนำตัวมาดำเนินคดีให้ได้ หลังจากที่ได้ส่งสำนวนให้แก่ทางอัยการจังหวัด หน้าที่ต่อไปคือขั้นตอนการเร่งติดตามคนร้าย ส่วนหลักฐานที่มีอยู่มี ทั้งภาพจากกล้องวงจรปิด หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ผลตรวจดีเอ็นเอที่ถือว่าครบถ้วนสมบูรณ์ จึงมั่นใจในหลักฐานพยานที่ส่งถึงอัยการ และดำเนินคดีผู้ต้องหาทั้งหมดได้”
ด้านนายรัชดา จุฬารี อัยการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังจากตรวจสอบสำนวนคดีแล้วจะพิจารณาว่าจะต้องดำเนินการสอบปากคำเพิ่มเติมหรือไม่ หรือจะต้องหาพยานหลักฐานอื่นๆ มาประกอบ ขณะนี้มีผู้ต้องหาทั้งหมด 5 คน โดยฝากขัง 2 คน ประกันตัวออกไป 2 คน ส่วนอีก 1 คน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่พนักงานสอบสวนมีความเห็นให้สั่งฟ้อง ซึ่งผู้ต้องหายังเหลืออีก 1 คน จึงเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการเร่งติดตามผู้ต้องหาที่เหลือ
ขณะที่ผู้ต้องหาที่ประกันตัวออกไป 2 คน ทั้งนายนำชัย บัวพัฒน์ อายุ 45 ปี คนขับรถ และนายวิรัช หรือกอง รัตนตยาธิคุณ พ่อแท้ๆ ของนายภาสพล ก็จะต้องเดินทางมายื่นประกันตัวที่ชั้นอัยการจังหวัดอีกครั้ง
ทั้งนี้ รายงานจากสำนักงานอัยการจังหวัดกาฬสินธุ์ เมื่อเวลา 12.00 น.วันเดียวกันนี้ นายวิรัช หรือกอง รัตนตยาธิคุณ ได้เดินทางมายื่นขอประกันตัวในชั้นอัยการพร้อมกับญาติพี่น้อง โดยนำเงินสด 500,000 บาท วางประกันตัว
จากนั้นในเวลาไล่เลี่ยกัน นายนำชัย บัวพัฒน์ หรือนุติ ก็ได้เดินทางมาที่สำนักงานอัยการจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อยื่นประกันตัวเช่นกัน โดยได้วางหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดินมูลค่า 500,000 บาท เป็นหลักค้ำประกัน โดยอัยการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้อนุญาตประกันตัว และให้มารายงานตัวทุก 15 วัน