สุรินทร์ - ดรามาแกงจืดเต้าหู้ไข่ ยังไม่จบ! หลังโลกโซเชียลรุมด่า ล่าสุด ผอ.สพป.สุรินทร์ เขต 3 สั่ง ผอ.โรงเรียนตั้ง กก.สอบขอเท็จจริง ครูสาวสั่งเด็ก นร.หญิงกราบขอขมาหน้าเสาธง หลังรุดลงพื้นที่ตรวจสอบ ชี้มุ่ง 2 ประเด็น ให้เด็กกินเต้าหู้ซ้ำอีกเพื่อพิสูจน์สุ่มเสี่ยงอันตราย และการให้ขอขมาหน้าเสาธง ขณะผู้ปกครองเด็กไม่ติดใจกล่าวโทษครู พร้อมเต้นเร่งรายงาน สพฐ.
วันนี้ (2 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีคลิปเหตุการณ์ นางชื่นกมล จรดรัมย์ ตำแหน่งครูวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ สอนวิชาวิทยาศาสตร์ และรับผิดชอบงานฝ่ายปกครอง โรงเรียนลำหาด ต.ทับทัน อ.สังขะ จ.สุรินทร์ สั่งให้เด็กนักเรียนหญิงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 (ป.6) ที่มีอาการป่วยมีผดผื่นขึ้นตามร่างกายแล้วไปรักษาที่โรงพยาบาลสังขะ แพทย์วินิจฉัยว่าแพ้อาหาร หลังรับประทานแกงจืดเต้าหู้ไข่ซึ่งเป็นอาหารกลางวันของโรงเรียน กราบขอขมาที่บริเวณหน้าเสาธงต่อหน้านักเรียนหลายร้อยคน เพราะเห็นว่า เด็กโกหกและนำเรื่องไปพูดทำให้โรงเรียนเสียหาย
จนครูออกมาชี้แจงว่าได้ให้นักเรียนกินซ้ำพิสูจน์ต่อหน้าผู้ปกครองและครูแล้วไม่พบอาการแพ้อาหารจริง จึงให้กราบขอขมาตามที่ตกลงกันไว้แต่ต้น จนกลายเป็นข่าวโด่งดังและถูกสังคมโลกออนไลน์รุมกระหน่ำวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปติดตามความคืบหน้ากรณีดังกล่าวที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) สุรินทร์ เขต 3 หน่วยงานกำกับดูแลโรงเรียนบ้านลำหาด ต.ทับทัน อ.สังขะ จ.สุรินทร์
นายคำปุ่น บุญเชิญ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 (ผอ.สพป.สร.3 ) เปิดเผยว่า ขอบคุณสื่อและสังคมที่ห่วงใยลูกหลานเราร่วมกัน ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 พยายามทำให้ดีที่สุด และครูบาอาจารย์เองต้องมีการปรับตัวในการทำงาน ตนได้มีการกำชับให้ทำให้ดีที่สุด ตอนนี้ได้สั่งการให้ทางผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านลำหาดตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว
สำหรับตนได้เดินทางลงพื้นที่เมื่อวานนี้ (1 ก.ย.) ไปสอบถามทั้งเด็กนักเรียน ผู้ปกครอง ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านลำหาด และครูผู้สอน ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันคืออะไร ใน 2 ประเด็นหลัก คือ เรื่องมีการให้นักเรียนกินเต้าหู้ไข่ซ้ำอีกเพื่อพิสูจน์ดูว่าแพ้หรือไม่แพ้ ซึ่งเป็นการสุ่มเสี่ยงมากต่อสุขอนามัยของเด็ก ซึ่งครูบอกว่าได้ทำบนพื้นฐานของความระมัดระวังและมีผู้ปกครองอยู่ด้วย รวมทั้งอ้างว่าต้องทำเพื่อสร้างความเชื่อมั่น เพราะจะส่งผลต่อเด็กนักเรียนทั้งหลายจะไม่รับประทานอาหาร ซึ่งหมิ่นแหม่มากในประเด็นนี้
ส่วนประเด็นกราบขอขมาที่บริเวณหน้าเสาธงนั้น ปกติเป็นการฝึกระเบียบวินัยนักเรียนอยู่แล้ว พวกเราสมัยเป็นเด็กก็ทราบดี ต้องเข้าแถวและครูมีอะไรต้องแก้ไขจะได้ทำตรงนั้น เป็นกิจกรรมภายในของการจัดการเรียนการสอน ซึ่งกิจกรรมหน้าเสาธงเหมือนห้องเรียนใหญ่ ตนคิดว่าเป็นเรื่องปกติทั่วไป หากมีกิจกรรมอะไรที่ต้องมีการปรับปรุงแก้ไขก็ทำกันที่หน้าเสาธง
นายคำปุ่นกล่าวต่อว่า ส่วนผู้ปกครองจากการสอบถามพบว่าแม่ของเด็กนักเรียนไม่ติดใจกล่าวโทษคุณครู แต่ตนมองว่าครูเขาประมาทเกินไปที่ให้เด็กกินเต้าหู้ซ้ำอีก ตนได้ต่อว่าไปว่าทีหลังอย่าทำแบบนี้อีก ทางผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านลำหาดได้มีการว่ากล่าวตักเตือนไปแล้ว และตนจะทำหนังสือสั่งการไปอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเมื่อวานนี้ (1 ก.ย.) ทางโรงเรียนทำหนังสือรายงานเข้ามา ตนได้สรุปและทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง และได้รายงานเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขึ้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขึ้นพื้นฐาน (สพฐ.) ไปเรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ โครงการอาหารกลางวันของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 สุรินทร์ ใช้โปรแกรมไทย สกูล ลันช์ (Thai School Lunch) เน้นเครื่องความสะอาด ปลอดภัย ของกระทรวงศึกษาธิการ เด็กบางคนแพ้เราต้องเข้าใจ ตนก็แพ้เหมือนกันโดยรับประทานผักชีฝรั่งไม่ได้
“เมื่อวานนี้ได้โพสต์ไลน์กลุ่มผู้บริหารว่า เรื่องละเมิดสิทธิเด็ก การปฏิบัติหน้าที่ราชการใดๆ ที่กระทบต่อสวัสดิการของเด็กต้องระมัดระวัง ตามจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการ โดยเฉพาะเรื่องโภชนาการ” นายคำปุ่นกล่าวในตอนท้าย
