ยะลา - สลด!! ชีวิตนักเรียนสาวฝาแฝดสองพี่น้อง เรียนดีแต่ฐานะทางบ้านยากจน แม่ป่วยโรคลิ่มเลือดทำงานไม่ได้ พ่อสภาพร่างกายไม่แข็งแรงรับภาระกรีดยางเลี้ยงดูครอบครัว ขัดสนจนขนาดบางวันไม่มีเงินมาโรงเรียน แต่ใฝ่ฝันอยากเรียนแพทย์-พยาบาล
วันนี้ (1 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวในจังหวัดยะลา ได้สอบถามไปยังคุณครูพูลทรัพย์ หลวงเทพ ซึ่งเป็นครูประจำโรงเรียนนิคมพัฒนวิทย์ ตั้งอยู่ ม.6 ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา จ.ยะลา หลังจากที่คุณครูได้โพสต์รูปนักเรียนหญิงฝาแฝดสองพี่น้องคู่หนึ่งที่มีความขยัน และเรียนดี เป็นตัวแทนของโรงเรียนในการร่วมทำกิจกรรมต่างๆ แต่ฐานะสภาพทางครอบครัวยากจน
สืบเนื่องจากผู้เป็นมารดานั้นมีโรคประจำตัวป่วยด้วยโรคเม็ดเลือดจาง และมีอาการหืดหอบ ความดันโลหิตสูง จนไม่สามารถทำงานหนักได้ ภาระการดูแลจึงตกอยู่ที่ผู้เป็นพ่อ ซึ่งเลี้ยงดู 4 ชีวิตในครอบครัว ด้วยการกรีดยางพาราที่มีเพียง 100 ต้น รายได้ไม่แน่นอน หลังจากที่ราคายางพาราตกต่ำ จึงอยากให้นักเรียนหญิงฝาแฝดทั้ง 2 คน ได้มีโอกาสที่ดีในการศึกษาต่อ
หลังประสานคุณครูของนักเรียนคนดังกล่าวได้ ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปยังโรงเรียน เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง ก็ทราบว่า นักเรียนทั้ง 2 คนทราบชื่อคือ น.ส.นันทัชพร พูลสวัสดิ์ อายุ 17 ปี ผู้เป็นพี่ และ น.ส.นันณภัส พูลสวัสดิ์ อายุ 17 ปีเท่ากัน ผู้เป็นน้อง ซึ่งได้เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ของโรงเรียนนิคมพัฒนวิทย์
โดยคุณครูพูลทรัพย์ หลวงเทพ ครูที่ดูแล และให้ความเอื้อเฟื้อนักเรียนทั้ง 2 คน เล่าให้ฟังว่า สืบเนื่องจากเด็กทั้ง 2 คนนั้นมีความขยัน และเรียนดี ตั้งใจในการศึกษาเล่าเรียน หากคนหนึ่งคนใดไม่ได้มาโรงเรียนเพราะต้องเฝ้าแม่ที่ป่วย คนหนึ่งที่มาโรงเรียนก็จะต้องนำเอาสิ่งที่ได้เรียนรู้ในวันนั้นไปสอนอีกคนที่อยู่ที่บ้าน ซึ่งเด็กทั้ง 2 คนนั้นเป็นเด็กดี อีกทั้งเป็นนักเรียนที่ร่วมกิจกรรมสร้างชื่อเสียงให้แก่ทางเรียนอยู่บ่อยครั้ง
โดยเด็กทั้ง 2 คนจะรำในงานพิธีต่างๆ หรือมีใครว่าจ้างให้ไปรำในงานต่างๆ ก็จะไป เงินที่ได้มาหากเจ้าของงานให้ก็จะนำไปให้พ่อกับแม่เพื่อช่วยเหลือครอบครัว นอกจากนี้ ทั้ง 2 คนก็เป็นคนวาดภาพเก่ง หากมีการประกวดวาดภาพที่ไหนก็จะเข้าร่วม และเมื่อได้รางวัลมาก็จะนำกลับไปให้พ่อแม่อยู่เป็นประจำ
“ครอบครัวของเด็กค่อนข้างยากไร้ พ่อก็ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง ต้องทำงานกรีดยางเลี้ยงครอบครัวคนเดียว ส่วนแม่ก็ป่วยเป็นโรคประจำตัว ทั้งโรคความดันโลหิตสูง เม็ดเลือดจาง และหอบหืด ทำให้ไม่สามารถทำงานหนักได้ ในการเดินทางมาโรงเรียน ตอนเช้าพ่อก็จะต้องขี่รถจักรยานยนต์มาส่งทั้ง 2 คน ตอนเย็นพ่อก็มารอรับ เนื่องจากบ้านกับโรงเรียนอยู่ไกลกันเกือบ 10 กิโลเมตร แต่เด็กทั้ง 2 ก็ยังขยัน และน้อยครั้งที่จะขาดเรียน เพราะเค้าตั้งใจอยากเรียนให้สูงๆ ทางครูก็ได้ช่วยเหลือเท่าที่จะช่วยได้ เช่น อาหารกลางวัน ก็ให้มาร่วมรับประทานกับคุณครู และเด็กทั้ง 2 คน ก็จะเก็บกวาดล้างจานเป็นที่เรียบร้อยเสมอทุกครั้ง” คุณครูพูลทรัพย์ กล่าว
จากนั้น คุณครูพูลทรัพย์ จึงได้พาไปดูความเป็นอยู่ที่บ้านของนักเรียนหญิงฝาแฝดทั้ง 2 คน ซึ่งอยู่ที่บ้านลูโบ๊ะ ม.2 ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา จ.ยะลา โดยสภาพเส้นทางจากโรงเรียนไปที่บ้านนั้น เป็นถนนชนบทในหมู่บ้าน สภาพก็มีหลุมมีบ่อ บางช่วงก็มีถนนที่พังเสียหายเป็นจุดๆ
โดยเมื่อถึงที่บ้านซึ่งต้องข้ามลำธารขนาดเล็กที่อยู่หน้าบ้าน ทางเข้าบ้านมีหญ้ารกปกคลุมทั่วทางเดินประมาณ 10 กว่าเมตร ก็ถึงบ้านที่ น.ส.นันทัชพร พูลสวัสดิ์ และ น.ส.นันณภัส พูลสวัสดิ์ อาศัยอยู่กับพ่อและแม่ โดยผู้เป็นพ่อคือ นายศิริศักดิ์ พูลสวัสดิ์ อายุ 44 ปี มีอาชีพทำสวนและกรีดยางพารา ส่วนผู้เป็นแม่คือ นางสลักจิต รัศมี อายุ 37 ปี ป่วยด้วยโรคประจำตัว ไม่สามารถประกอบอาชีพ หรือทำงานได้ เนื่องจากสุขภาพร่างกายอ่อนแอด้วยโรคประจำตัว ได้เพียงแต่อยู่เฝ้าบ้านรักษาตัว ซึ่งสภาพบ้านที่อยู่อาศัยนั้นเป็นบ้านไม้ยกพื้น สภาพเก่า มีเพียงห้องเดียวที่อยู่อาศัยด้วยกัน โดยทั้ง น.ส.นันทัชพร พูลสวัสดิ์ และ น.ส.นันณภัส พูลสวัสดิ์ สองพี่น้องจะเป็นผู้กลับมาดูแลแม่ และทำกับข้าวหลังจากเลิกเรียนแล้ว
นางสลักจิต รัศมี ผู้เป็นแม่ เล่าให้ฟังว่า ตนเองป่วยเป็นโรคประจำตัว ทั้งหอบหืด โรคลิ่มเลือดจาง ทำให้ร่างกายไม่แข็งแรง ไม่สามารถทำงานหนักได้ ก็ได้ลูกทั้ง 2 คน ที่คอยช่วยเหลือ จัดการทุกอย่างภายในบ้าน ซึ่งทั้ง 2 คนเป็นเด็กที่มีความรับผิดชอบ มีกิจกรรม หรืองานอะไรก็ตามที่ทางโรงเรียนจัดหาให้ แล้วได้เงินมาก็จะนำเงินเข้ามาจุนเจือช่วยเหลือครอบครัวอยู่ตลอด ไม่เคยที่จะรบเร้าเอาอะไร เพราะรู้ถึงสถานะที่เป็นอยู่ของที่บ้าน ซึ่งตนเองก็หวังอยากให้ลูกได้เรียนสูงๆ อย่างที่เค้าตั้งใจ แต่อนาคตก็ยังไม่รู้ว่าจะสามารถส่งเสียได้ขนาดไหน เพราะสภาพที่เป็นอยู่ หากเรียนสูงก็คงจะมีค่าใช้จ่ายที่มากอยู่พอควร
ขณะที่เด็กทั้ง 2 คน ได้เล่าให้ฟังว่า ตั้งใจที่จะเรียนต่อโดยการสอบคณะแพทย์ และน้องสาวสอบเรียนพยาบาล เพื่อหวังว่าจะได้นำความรู้ที่ได้ไปประกอบวิชาชีพช่วยเหลือครอบครัวให้ดีขึ้น และสามารถช่วยรักษาแม่ให้หายได้ แต่ด้วยสภาพครอบครัวที่พ่อต้องทำงานคนเดียว ต้องกรีดยางพารา 1-2 วัน ถึงจะได้เงินมาใช้จ่ายก็ประมาณ 100 กว่าบาท บางวันก็ไม่มีเงินติดกระเป๋าต้องมาอาศัยกินข้าวเที่ยงกับคุณครูที่โรงเรียน
ซึ่งความหวังในการเรียนต่อแพทย์ และพยาบาลนั้นก็ได้วางแผนกันไว้ว่า จะทำงานไปด้วยและเรียนไปด้วย แต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำได้อย่างที่ตั้งใจหรือไม่ เพราะทราบว่าการเรียนแพทย์ และพยาบาลต้องใช้เงินเป็นจำนวนมากในการเข้าศึกษา แต่ก็จะพยายามให้ถึงที่สุดเพื่อครอบครัว
โดยทั้ง น.ส.นันทัชพร พูลสวัสดิ์ และ น.ส.นันณภัส พูลสวัสดิ์ ยังเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 และมีระดับผลการเรียนอยู่ในเกรดเฉลี่ย 3 กว่า ซึ่งทั้ง 2 คนตั้งใจที่จะศึกษาให้สูงที่สุดเท่าที่จะมีความสามารถ หากผู้ใดมีจิตศรัทธา หรือต้องการจะให้ความช่วยเหลือก็สามารถที่จะช่วยเหลือด้วยการสนับสนุนทุนการศึกษาผ่านบัญชี ธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชี น.ส.นันทัชพร พูลสวัสดิ์ เลขที่บัญชี 924-0-28714-0