“น้องปลา” ด.ญ.กตัญญู-ยากจน ขอหยุดรับบริจาคหลังยอดพุ่ง 2 ล้าน-แบ่งตั้งกองทุนช่วยรุ่นน้อง

อุบลราชธานี - ยังจำกันได้ไหม!! “น้องปลา” นักเรียน ม.2 ชาวอุบลฯ เขียนเรียงความระบายความลำบากจนคิดอยากฆ่าตัวตาย หลังตกเป็นข่าวธารน้ำใจจากคนทั่วประเทศหลั่งไหลช่วยเหลือ จนตอนนี้ยอดบริจาคกว่า 2 ล้านบาท ล่าสุดขอยุติรับบริจาคเพราะเงินที่ได้มากพอที่จะดำเนินชีวิตได้แล้ว ทั้งยังได้แบ่งเงินให้เพื่อนที่มีชีวิตลำบากสามารถศึกษาต่อได้ และตั้งเป็นกองทุนใช้ช่วยรุ่นน้องที่จะเข้ามาศึกษาในปีต่อไปอีกด้วย

จากกรณีเด็กหญิงเกษมศรี บุญใส อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนวัดสวายน้อยวิทยา จ.อุบลราชธานี เจ้าของเรียงความเศร้าคิดฆ่าตัวตายหนีความลำบาก เมื่อเรื่องเผยแพร่ออกไปสู่สังคมภายนอกต่างส่งน้ำใจมาช่วยเหลือตามที่เสนอข่าวไปนั้น

วันนี้ (30 ส.ค.) นายกิจชัย สุภาพ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดสวายน้อยวิทยา ต.ยางใหญ่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เปิดเผยความคืบหน้าการช่วยเหลือที่ประชาชนทั่วประเทศส่งมาให้เด็กหญิงเกษมศรี บุญใส หรือน้องปลา อายุ 13 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนวัดสวายน้อยวิทยา มีเงินบริจาคเป็นทุนการศึกษา และใช้จ่ายในครอบครัวกว่า 2 ล้านบาท

ทำให้น้องปลามีกำลังใจเรียนอย่างมีสมาธิมากกว่าแต่ก่อน และเงินที่น้องปลาได้รับจะใช้เป็นทุนการศึกษาเรียนไปถึงปริญญาตรี ซึ่งน้องปลาตั้งใจอยากเป็นครูและเป็นนักร้อง ประกอบกับโรงเรียนมีวงดนตรีหมอลำซิ่ง ก็จะได้ให้น้องปลาฝึกร้องมาเป็นนักร้อง เพื่อหารายได้ระหว่างที่ศึกษาด้วย

นอกจากนี้ ได้มีการพูดคุยหารือกันระหว่างน้องปลา ครูที่ปรึกษา และตนเอง เห็นว่าเงินบริจาคจากประชาชนทั่วประเทศส่งเข้ามาอย่างมากมายล่าสุดมียอดบริจาคกว่า 2 ล้าน จึงตกลงจะหยุดขอรับบริจาคเพราะมีมากเพียงพอแก่น้องปลาและครอบครัวแล้ว ขณะเดียวกันน้องปลาก็มีความคิดตั้งแต่ที่ได้รับความช่วยเหลือจากคนในประเทศแล้วว่าจะแบ่งเงินบางส่วนช่วยเพื่อนนักเรียนอีก 3 คน ซึ่งมีชีวิตความเป็นอยู่ลำบากไม่ต่างไปจากน้องปลา

คณะครูที่ปรึกษาและผู้ปกครองของน้องปลาจึงได้ตกลงว่าเงินที่แบ่งให้เพื่อนทั้ง 3 คนจะถูกแบ่งไว้เป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่หนึ่งสามารถนำไปใช้จ่ายในครัวเรือน และใช้จ่ายเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของแต่ละคนระหว่างการเรียนหนังสือ ส่วนที่สองแบ่งออกมาเข้าบัญชีร่วมของผู้ปกครอง นักเรียน ครูที่ปรึกษา ผู้อำนวยการโรงเรียน

เงินส่วนนี้จะสามารถนำออกมาใช้ได้เมื่อเด็กทั้ง 3 คนเรียนจบชั้นมัธยมศึกษา แล้วต้องการไปเรียนต่อระดับอุดมศึกษา หรือสายอาชีพ ก็นำเงินไปใช้จ่ายทางการศึกษาได้ตามความต้องการของเด็ก เพราะที่ผ่านมามีเด็กที่จบการศึกษาจากโรงเรียนแห่งนี้ไม่มีโอกาสได้เรียนต่อเพราะขาดทุนทรัพย์ เนื่องจากนักเรียนบางส่วนเป็นนักเรียนยากจนจะได้ใช้เงินที่ได้รับบริจาคมาไปสร้างอนาคตให้ตนเองได้

ขณะที่เด็กหญิงเกษมศรี หรือน้องปลา กล่าวว่า หลังจากเป็นข่าวชีวิตได้เปลี่ยนไป มีคนรู้จักมากขึ้น มีผู้ใหญ่ใจดีจากทั่วประเทศติดต่อให้กำลังใจและให้ความช่วยเหลือ รวมทั้งสื่อมวลชนจากหลายสำนักนำชีวิตไปเผยแพร่และให้การช่วยเหลือ

“หนูขอกราบขอบพระคุณทุกท่านที่เป็นกำลังใจให้หนู และสัญญาว่าจะตั้งใจเรียน เป็นคนดีในสังคม”

สำหรับเงินบริจาค ซึ่งขณะนี้มียอดเงินมากถึง 2 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่มากมายมหาศาลในชีวิตหนูและครอบครัวไม่คิดว่าจะได้เห็นเงินมากขนาดนี้ หนูและเพื่อนที่มีความลำบากเคยสัญญากันไว้ หากใครมีโอกาสได้ดีเราจะไม่ทิ้งกัน

จึงขอทำตามสัญญา โดยแบ่งเงินให้กับเพื่อนทั้ง 3 คน และมอบเงินอีก 2 แสนบาทให้ทางโรงเรียนตั้งเป็นกองทุนช่วยเหลือรุ่นน้องที่มีความลำบากและจะเข้ามาเรียนต่อไปในอนาคต พร้อมขอหยุดรับบริจาคไว้เพียงเท่านี้เพราะเงินมีมากพอแล้ว