xs
xsm
sm
md
lg

เกษตรกร ตอ. กำหนดทิศทางส่งเสริมการเกษตรสานยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - เกษตรกรภาคตะวันออก ร่วมสัมมนาระบบส่งเสริมการเกษตรปี 60-64 กำหนดทิศทางกรมส่งเสริมการเกษตรที่สอดคล้องต่อยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี

วันนี้ (21 ส.ค.) ที่ห้องสัมมนาริมบึง 2 สวนนงนุชพัทยา ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี นายโอฬาร พิทักษ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เป็นประธานเปิดการสัมมนาระบบส่งเสริมการเกษตร MRCF และแผนยุทธศาสตร์กรมส่งเสริมการเกษตร พ.ศ.2560-2564 โดยมีที่ปรึกษาอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร พร้อมด้วยรองอธิบดี ผู้เชี่ยวชาญ ผู้อำนวยการกอง/สำนัก เกษตรจังหวัด ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการ เกษตรอำเภอ และผู้เกี่ยวข้องจากกรมส่งเสริมการเกษตร เข้าร่วมสัมมนา

นายชาตรี บุญนาค ผอ.สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 3 จังหวัดระยอง ในนามคณะผู้จัดสัมมนา กล่าวว่า แผนยุทธศาสตร์กรมส่งเสริมการเกษตร พ.ศ.2560-2564 นั้น จัดทำขึ้นเพื่อเป็นกรอบ และทิศทางในการดำเนินงานต่างๆ ของกรมส่งเสริมการเกษตร ที่สอดคล้องต่อยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี การพัฒนาสู่ Thailand 4.0 การปฏิรูปภาคการเกษตร แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 และแผนพัฒนาการเกษตรของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องทำความเข้าใจต่อเจ้าหน้าที่ในระดับต่างๆ เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนการปฏิบัติงานในปีงบประมาณต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง และเป็นไปในทิศทางที่กำหนด

นายโอฬาร กล่าวว่า การบริหารจัดการงานส่งเสริมการเกษตรในแต่ละพื้นที่จะยึดตามการจัดพื้นที่เขตเกษตรเศรษฐกิจ หรือโซนนิ่งเป็นสำคัญ มีนักวิชาการส่งเสริมการเกษตรเป็นผู้ขับเคลื่อนกระบวนการทำงาน บริหารจัดการข้อมูลให้สมบูรณ์ถูกต้อง เป็นที่ยอมรับการนำระบบส่งเสริมการเกษตรมิติใหม่ (MRCF System) ไปปฏิบัติในพื้นที่นั้น เริ่มจากการบริหารจัดการข้อมูลแผนที่ (Mappimg) ในการทำงานเพื่อการวิเคราะห์ สังเคราะห์ และกำหนดเป้าหมายในการทำงาน และมีการจัดระบบการใช้ข้อมูลสื่อสารระยะไกล (Remote Sensing) มาประยุกต์ใช้ระหว่างนักส่งเสริมการเกษตรกับเกษตรกรให้สะดวกรวดเร็ว และทันต่อเหตุการณ์ รวมทั้งบูรณาการการทำงานในพื้นที่ให้ภาคีเครือข่ายเข้ามามีส่วนร่วมเกิดการเรียนรู้ร่วมกัน หรือ (Community Participation) และที่สำคัญนักวิชาการส่งเสริมจะต้องเข้าใจในการเตรียมข้อมูลให้พร้อมสำหรับการให้บริการแบบเจาะจง (Specific Field Service) เพื่อให้บริการตรงตามความต้องการ และใช้แก้ไขปัญหาของพื้นที่ และเกษตรกลุ่มเป้าหมายอย่างแท้จริง

และในโอกาสเดียวกันนี้ นายชาตรี และคณะทำงานได้นำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่เยี่ยมบ้าน นายบุญส่ง กมลวิจิตร อายุ 80 ปี อยู่บ้านเลขที่ 216/6 ม.7 ต.บางเสร่ ที่ทำการเกษตรแบบผสมผสานบนเนื้อที่กว่า 30 ไร่ โดยได้ปลูกผลไม้นานาชนิด และพืชผักสวนครัว ทำการเกษตรตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง จากนั้นได้ไปยังบ้าน นางจำเลียง รักธรรม อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 149 ม.9 ต.สัตหีบ ที่ทำการเกษตรบนเนื้อที่ 3 ไร่ โดยได้ปลูกผลไม้ เช่น ลองกอง ทุเรียน มังคุด และเงาะ ซึ่งผลผลิตของ นางจำเนียง นั้นเป็นผลผลิตที่ออกนอกฤดูกาล ทำให้รายได้ในการขายนั้นมีราคาที่สูงกว่าผลผลิตที่อยู่ในฤดูกาลอีกด้วย



กำลังโหลดความคิดเห็น