กาญจนบุรี - ธรรมชาติเสริมแต่งจนดูแปลก! พบต้นกร่างยักษ์วัดรอบได้ 22 เมตร ขนาด 17 คนโอบ อายุหลายร้อยปีที่ขึ้นปกคลุม “ศาลเจ้าตึกในโพรงไม้” สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวตำบลหวายเหนียว กาญจนบุรี มีรากงอกออกมาลักษณะคล้าย “หัวลูกช้างน้อย” มีงวง มีตา มีปากครบ สมาชิกสภาเทศบาลตำบลหวายเหนียว ผู้ดูแลเผยเพิ่งสังเกตเห็นได้ไม่นาน พร้อมดันเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ แนะรัฐเพื่อหนุนสร้างรายได้ให้ชุมชน
วันนี้ (21 ส.ค.) นายสมศักดิ์ วงษ์ศีล อายุ 57 ปี สมาชิกสภาเทศบาลตำบลหวายเหนียว หมู่ 1 ต.หวายเหนียว อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี แจ้งว่า พบรากของต้นกร่างยักษ์อายุหลายร้อยปีที่ขึ้นปกคลุมศาลเจ้าตึกในโพรงไม้ มีลักษณะคล้ายหัวลูกช้างน้อย มีงวง มีตา มีปากครบ
จึงเดินทางไปตรวจสอบ ไปถึงพบต้นกร่างดังกล่าวมีลำต้นขนาดใหญ่วัดรอบได้ 22 เมตร ประมาณ 17 คนโอบ ลำต้นสูงประมาณ 3 เมตร มีกิ่งก้านสาขาขนาดใหญ่แผ่คลุมพื้นที่กว้างประมาณ 1 ไร่ ใต้ฐานของรากต้นกร่างเป็นศาลเจ้าตึก สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวตำบลหวายเหนียว และจังหวัดกาญจนบุรี โครงสร้างทำด้วยอิฐมอญ คาดว่าสร้างขึ้นมาจากฝีมือของพ่อค้าชาวจีนในยุคสมัยก่อน
ชาวบ้านเชื่อว่ามีอายุไม่น้อยกว่า 300 ปี โดยรากของต้นกร่างหล่อหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกันกับศาลเจ้าตึกในโพรงไม้ จนแยกออกจากกันไม่ได้
สำหรับศาลเจ้าหน้าที่ถูกสร้างขึ้นหันหน้าไปทางทิศเหนือ ติดกับแม่น้ำแม่กลอง บรรยากาศโดยรอบร่มรื่น เหมาะสำหรับการมาไหว้ศาลเจ้า และนั่งพักผ่อนริมแม่น้ำแม่กลองเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังพบว่ามีบรรดาพ่อค้าแม่ค้านำอาหาร และผักผลไม้มากราบไหว้บนบานศาลเจ้าตึกอย่างต่อเนื่อง
สำหรับศาลเจ้าตึกในโพรงไม้แห่งนี้ ถือว่าเป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่ง ที่ผ่านมา มีสื่อมวลชนทั้งทีวีและหนังสือพิมพ์มานำเสนอข่าวความเป็นมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเกี่ยวกับการที่ชาวบ้านมาขอพรเพื่อให้ตนเอง และครอบครัวมีโชคลาภ ซึ่งก็สมหวังกันแทบทุกราย จากการที่หลายคนถูกหวยรวยเบอร์ ยิ่งทำให้ศาลเจ้าตึกในโพรงไม้มีชื่อเสียงโด่งดังมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
แต่สิ่งที่ชาวบ้านไม่เคยสังเกตเห็นมาก่อน คือ รากของต้นกร่างยักษ์ที่ขึ้นปกคลุมศาลเจ้าตึกที่อยู่ทางทิศใต้ หรือด้านหลังศาลเจ้าตึก มีอยู่หลายรากด้วยกัน ซึ่ง 1 ในนั้นมีลักษณะคล้ายกับหัวของลูกช้างน้อยที่โผล่ออกมาให้เห็นได้อย่างเด่นชัด โดยมีทั้งส่วนของหัว ส่วนของงวงที่ยื่นออกมารวมทั้งดวงตาขนาดเล็ก และปาก ยิ่งใช้สายตาจ้องนานเท่าไหร่ รากดังกล่าวก็ยิ่งเหมือนช้างมากขึ้นไปทุกที
นายสมศักดิ์ วงษ์ศีล สมาชิกสภาเทศบาลตำบลหวายเหนียว หมู่ 11 ต.หวายเหนียว อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี และเป็นผู้ดูแลศาลเจ้าตึกในโพรงไม้ กล่าวด้วยความตื่นเต้นว่า ตนดูแลศาลเจ้าตึกแห่งนี้มานานหลายปี แต่ไม่เคยสังเกตดูรากของต้นกร่างมาก่อนเลย และเมื่อไม่นานมานี้เองขณะที่ตนกำลังเดินเล่นอยู่นั้นสายตาก็ได้ไปสะดุดกับรากต้นกร่างลักษณะแปลกตา จึงหยุดนิ่งแล้วมองจ้องเข้าไปที่รากแบบไม่กะพริบตา จึงรู้ว่ามีลักษณะเหมือนหัวของลูกช้างน้อยที่โผล่ออกมาจากศาลเจ้าตึก
หลังจากชาวบ้านทราบข่าวก็ได้เดินทางมาดูกันเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังมีนักท่องเที่ยวจากพื้นที่อื่นได้ถ่ายภาพเอาไว้เป็นที่ระลึกอีกด้วย จุดนี้ตนมองว่า จะสามารถพัฒนาพื้นที่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี และหากหน่วยงานภาครัฐเข้ามาสนับสนุนจะทำให้ชาวบ้านในพื้นที่มีรายได้จากการขายพืชผลทางการเกษตรได้อีกทางหนึ่งด้วย