ระยอง - นายกนครระยอง เตรียมจัดงานยิ่งใหญ่รำลึก “ปิดตำนานสะพานเปี่ยมพงศ์สานต์ เก่าแก่อายุ 65 ปี” ให้ประชาชนมาร่วมงานถ่ายรูปคู่สะพานเก็บไว้เป็นที่ระลึก
วันนี้ (20 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์ นายวรวิทย์ ศุภโชคชัย นายกเทศมนตรีนครระยอง อำเภอเมือง จังหวัดระยอง กรณีจะปิดสะพานเปี่ยมพงศ์สานต์ ถนนตากสินมหาราช ตำบลท่าประดู่ เพื่อทำการก่อสร้างใหม่ โดยจะประกาศปิดสะพานในวันที่ 10 ตุลาคมนี้ จากกรณีพิษลมมรสุมหว่ามก๋อ เมื่อเดือนกันยายน 2558 ที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำท่วมหนักในพื้นที่ตำบลทับมา และพื้นที่ใกล้เคียง จึงต้องมีการเร่งระบายน้ำจากคลองทับมา ไหลลงแม่น้ำระยอง ผ่านใต้สะพานเปี่ยมพงศ์สานต์ ออกสู่ทะเล ทำให้บริเวณคอสะพานทรุดมีรอยแตกร้าว จึงต้องประกาศห้ามรถบรรทุกใหญ่วิ่งผ่านสะพานจนถึงปัจจุบันนี้ เพื่อดำเนินการก่อสร้างใหม่
นายวรวิทย์ ศุภโชคชัย นายกเทศมนตรีนครระยอง กล่าวว่า หลังปิดสะพานเปี่ยมพงศ์สานต์ ในวันที่ 10 ตุลาคมนี้ เทศบาลนครระยอง จะจัดงานส่งท้ายเป็นการรำลึกในวันที่ 13-14 ตุลาคม โดยเทศบาลฯ จะดำเนินการเก็บสายไฟ โคมไฟบริเวณสะพานออกให้หมด คงเหลือแต่สะพานในสภาพเดิมเท่านั้น เพื่อให้ประชาชนได้มาร่วมงาน และถ่ายภาพคู่กับสะพานเก็บไว้เป็นที่ระลึก เนื่องจากสะพานเปี่ยมพงศ์สานต์ แห่งนี้สร้างในปี พ.ศ.2495 เป็นสะพานคอนกรีตแห่งแรกเชื่อมตลาดระยอง ข้ามไปยังตำบลปากน้ำ เป็นสะพานเก่าแก่มานาน 65 ปี
นายวรวิทย์ กล่าวว่าในอดีตเมื่อ 60-70 ปีที่ผ่านมาในตัวเมืองระยอง ไม่ค่อยมีรถยนต์ใช้ในการสัญจรไปมา ประชาชนที่จะเดินทางไปตำบลปากน้ำ ต้องใช้เส้นทางผ่านสะพานไม้เล็กๆ อยู่บริเวณถนนยมจินดา สมัยนั้นสะพานเปี่ยมพงศ์สานต์ ยังไม่มี ต่อมา ระยองเริ่มมีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ประชาชนเริ่มมีรถยนต์ใช้เป็นพาหนะเพิ่มมากขึ้น
ประกอบกับชาวประมงบ้านปากน้ำ ต้องใช้รถยนต์บรรทุก และขนถ่ายสินค้าประมง ทำให้ไม่สะดวกแก่ผู้ประกอบการอาชีพทำประมง นายเศวตร เปี่ยมพงศ์สานต์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดระยอง สมัยนั้น ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง จึงได้จัดหางบประมาณดำเนินการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำระยอง เชื่อมการจราจรระหว่างตลาดระยองกับบ้านปากน้ำ ทำให้ประชาชนได้ใช้ในการสัญจรไปมาจนถึงปัจจุบัน โดยใช้นามสกุลเปี่ยมพงศ์สานต์ จนชาวบ้านเรียกติดปากว่าสะพานเปี่ยมพงศ์สานต์
นายวรวิทย์ กล่าวต่อไปว่า การก่อสร้างสะพานใช้งบประมาณ 35 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 8 เดือน รถยนต์สามารถวิ่งผ่านไปมาได้ สำหรับสะพานจะกว้างกว่าเดิมข้างละเกือบ 2 เมตร พร้อมคงรูปราวสะพานของเดิมไว้เป็นเอกลักษณ์ แต่จะเปลี่ยนไปใช้โลหะอัลลอยไม่ใช้คอนกรีตทั้งสองฝั่ง บริเวณกลางสะพานทั้งสองฝั่งทำเป็นรูปครึ่งวงกลม เพื่อให้ประชาชนได้มายืนถ่ายภาพได้ พร้อมเสริมฟุตปาธทางเดิน
“การปิดสะพานเพื่อดำเนินการก่อสร้างนั้นได้ประสานวางแผนในการจัดการจราจร เนื่องจากในช่วงเช้า และเย็นซึ่งเป็นเวลาเร่งด่วนการจราจรหนาแน่นติดขัดมาก จะเปลี่ยนเส้นทางไปใช้ถนนภักดีบริรักษ์ ผ่านสะพานเทศบาล 1 (ต้นมะขามใหญ่) ข้ามไปโรงเรียนอนุบาลระยอง และสถานที่ราชการ ส่วนผู้ที่จะข้ามไปตำบลปากน้ำ ให้หลีกเลี่ยงไปใช้ถนนอดุลย์ธรรมประภาส (สะพานเทศบาล 11 และอีกเส้นทางหนึ่งให้ไปใช้ถนนสุขุมวิท (นครระยอง 80) (สองพี่น้อง) เข้าถนนริมน้ำไปออกหน้าสถานีตำรวจ โรงเรียนอนุบาล และสถานที่ราชการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ได้มีประชาชนที่ทราบข่าวว่าจะปิดสะพานก่อสร้างใหม่ จึงพากันมาถ่ายรูปคู่กับสะพานเก่าแก่เพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก ก่อนที่เทศบาลฯจะจัดงานรำลึกในวันที่ 13-14 ตุลาคมนี้