เชียงใหม่ - ตำรวจรวบโจรชาย-หญิงไฮเทค ใช้เครื่องจีพีเอสบวกกุญแจผี เข้า-ออกลัก จยย.นักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นว่าเล่นตั้งแต่ปลายปี 58 จนเดือดร้อนกันทั้งมหาวิทยาลัย สุดท้ายโดนสาวจากกล้องวงจรปิดตามจับได้พร้อมของกลางคาบ้านเช่า ก้มหน้าสารภาพหมดเปลือก
รายงานข่าวแจ้งว่า ตำรวจศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ตำรวจภูธรภาค 5 ได้เข้าจับกุม นายมุณี มณีวรรณ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 79 หมู่ 16 ตำบลบ้านแปะ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมกับ น.ส.พรพิมล อุ่นเสนีย์ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 155 หมู่ 1 ตำบลแม่เงา อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่เป็นแฟนสาว คาบ้านเช่าในหมู่บ้านเชียงใหม่แกรนด์วิว ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมืองเชียงใหม่ ก่อนนำตัวมาแถลงข่าวเย็นวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา
พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ที่โจรกรรมมา จำนวน 4 คัน ป้ายทะเบียนรถมากกว่า 20 คัน ลูกกุญแจผีกว่า 100 ดอก เครื่องมือทำกุญแจผี 1 ชุด รวมทั้งเสื้อผ้าชุดที่สวมใส่ในวันก่อเหตุโจรกรรมรถจักรยานยนต์
การจับกุมมีขึ้นหลังเกิดเหตุคนร้ายโจรกรรมรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี 59 เป็นต้นมา ทำให้มีรถจักรยานยนต์หายไปกว่า 50 คัน นักศึกษาเดือดร้อนกันทั่ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปจร.ภ.5 และชุดสืบสวน สภ.ภูพิงค์ฯ ได้ติดต่อสืบสวนสอบสวนอย่างต่อเนื่อง
กระทั่งเมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายเป็นคู่ชาย-หญิงก่อเหตุลักจักรยานยนต์ฮอนด้าคลิก สีดำ ไม่ติดป้ายทะเบียน ภายในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อีกครั้ง เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในมหาวิทยาลัยฯ และตามเส้นทางตามความร่วมมือของเอกชนภายใต้โครงการ Police Eye จนทราบชื่อชาย-หญิงดังกล่าว คือ นายมุณี และ น.ส.พรพิมล จึงตามเฝ้าสังเกตการณ์ก่อนจับกุมได้ขณะผู้ต้องหาจูงจักรยานยนต์ฮอนด้าคลิก สีน้ำเงิน ไม่ติดป้ายทะเบียน ที่สงสัยเป็นรถที่ขโมยมาออกจากบ้าน จึงเข้าจับกุม
สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า จะร่วมกันเข้าไปโจรกรรมรถจักรยานยนต์ในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงใหม่ มาตั้งแต่ปลายปี 58 รวมกว่า 20 คัน โดยเฉพาะรถของนักศึกษาที่จอดไว้ตามหน้าหอพัก และอาคารเรียนภายในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มากถึง 14 คัน ส่วนใหญ่จะเป็นรถจักรยานยนต์ฮอนด้า คลิก
โดยจะตระเวนไปดูรถจักรยานยต์เป้าหมายก่อนลอบติดเครื่องจีพีเอสไว้ที่รถ พร้อมแอบเอาเครื่องมือปั๊มกุญแจแล้วกลับไปทำกุญแจผี ก่อนกลับมาลงมือโจรกรรม จากนั้นนำไปประกาศขายตามเฟซบุ๊ก ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นแรงงานต่างด้าว ขายคันละ 2 หมื่นบาท ขายไปแล้วกว่า 20 คัน นำเงินมาใช้จ่ายซื้อเครื่องใช้ภายในบ้าน และเลี้ยงดูครอบครัว
พ.ต.ต.ประวิทย์ วงศ์โขง สารวัตรสืบสวน สภ.แม่เมาะ จังหวัดลำปาง ทำหน้าที่หัวหน้าชุดศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาสุดไฮเทค จะนำลูกกุญแจไปเสียบที่สวิตช์สตาร์ทรถจักรยานยนต์เพื่อปั๊มกุญแจผี โดยป้ายสีไว้ขอบลูกกุญแจ และเสียบเข้าไปที่รูกุญแจรถจักรยานยนต์ที่จะโจรกรรม เมื่อได้แบบมาก็จะใช้บล็อกกุญแจตัดแต่งให้เหมือนลูกกุญแจจริง ช่วงระหว่างที่นำกุญแจไปดัดแปลงคนร้ายก็จะใช้เครื่องจีพีเอสแอบติดตั้งไว้บริเวณใต้กระบังลม หรือใต้บังโคลนรถโดยที่เจ้าของรถไม่รู้ตัว
เมื่อทางคนร้ายดัดแปลงกุญแจได้ก็จะเปิดโทรศัพท์มือถือตามสัญญาณเครื่องจีพีเอส หาจุดที่รถจอดไว้ นำกุญแจไปสตาร์ทรถจักรยานยนต์ขี่หลบหนีไป และนำรถไปพักไว้ที่บ้านเช่า รอลูกค้ามาซื้อ ซึ่งถือว่าเป็นโจรรายแรกที่ใช้อุปกรณ์ไฮเทค
พ.ต.ต.ประวิทย์ เชื่อว่า จากหลักฐานคาดว่าผู้ต้องหาทั้งคู่ทำมาแล้วไม่ต่ำ 100 คัน โดยตอนนี้อยู่ระหว่างขยายผล พร้อมฝากเตือนเจ้าของรถหากจอดรถไว้เป็นเวลานานควรสำรวจที่รูกุญแจ หรืออุปกรณ์ส่วนควบต่างๆ ของรถด้วยว่ามีสิ่งแปลกปลอมมาติดตั้งไว้หรือไม่ หรือทางที่ดีควรล็อกขาตั้งรถด้วยทุกครั้งเพื่อความปลอดภัย