ศูนย์ข่าวขอนแก่น - “ขอนแก่น ยูไนเต็ด” เปิดแถลงหลังถูกสมาคมฟุตบอลฯ ตัดสิทธิแข่งขัน ลั่นสู้เพื่อศักดิ์ศรี เตรียมส่งเรื่องร้องเรียนต่อ กกท.และสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย วันจันทร์นี้ ก่อนยื่นเรื่องถึงฟีฟ่า และศาลปกครองขอสิทธิคุ้มครอง
วันนี้ (19 ส.ค.) เมื่อเวลา 21.00 น. ที่สำนักงานสโมสรฟุตบอลขอนแก่น ยูไนเต็ด ถ.ศรีจันทร์ เขตเทศบาลนครขอนแก่น นายวัฒนา ช่างเหลา ประธานสโมสรฟุตบอลขอนแก่น ยูไนเต็ด พร้อมด้วยนายเอกราช ช่างเหลา ประธานที่ปรึกษาสโมสรฟุตบอลขอนแก่น ยูไนเต็ด ร่วมกันออกแถลงการณ์สโมสรฟุตบอลขอนแก่น ยูไนเต็ด หลังสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย มีคำสั่งตัดสิทธิการแข่งขันในทุกรายการของสโมสรฯ โดยมีผลทันที
ทั้งนี้ ช่วงแถลงการณ์มีนักเตะ สตาฟโค้ช รวมไปถึงกลุ่มผู้ฝึกสอน และแฟนบอลจำนวนมากต่างมาเกาะติดสถานการณ์รอการแถลงการณ์ของประธานสโมสรขอนแก่นอย่างเป็นทางการ แฟนบอลส่วนใหญ่อยู่ในอาการที่เศร้าซึม และไม่เห็นด้วยต่อคำสั่งดังกล่าวของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย
นายวัฒนา ช่างเหลา ประธานสโมสรฟุตบอลขอนแก่น ยูไนเต็ด กล่าวว่า ตามประกาศสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ได้มีคำสั่งให้เพิกถอนสิทธิสมาชิกสภาพของสโมสรขอนแก่น ยูไนเต็ด โดยสภากรรมการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย มีมติเป็นเอกฉันท์ อ้างเหตุผลว่าสโมสรฟุตบอลขอนแก่นฯ มีส่วนเกี่ยวข้องต่อการทำร้ายกรรมการ หลังการแข่งขันฟุตบอลรายการยามาฮ่า ลีก ดิวิชัน 1 เมื่อวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา ระหว่างสโมสรฟุตบอลขอนแก่น ยูไนเต็ด กับสโมสรอ่างทอง เอฟซี
ซึ่งสโมสรขอนแก่น ยูไนเต็ด ได้ชี้แจงว่า คดีกรรมการถูกทำร้ายในแมตช์ดังกล่าวนั้น จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือจากการเข้ามอบตัวของผู้ต้องหาไม่มีสิ่งใดที่กล่าวถึง หรือปรากฏหลักฐานว่า เชื่อมโยงกับสโมสรขอนแก่น ยูไนเต็ด แต่การเพิกถอนสิทธิดังกล่าวมีมติจากสภากรรมการสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ โดยไม่ให้โอกาสสโมสรขอนแก่น ยูไนเต็ดชี้แจง ทั้งที่มีหนังสือนัดวันชี้แจงแล้วไม่เกินวันที่ 23 ส.ค.59
“สโมสรฯเตรียมเอกสารหลักฐานเข้าไปชี้แจงข้อเท็จจริงในวันที่ 21ส.ค. แต่สภากรรมการสมาคมกีฬาฟุตบอลฯไม่รอฟังผลการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์โทษเสียก่อน ถือเป็นการตัดสินฝ่ายเดียว ขาดความเป็นธรรม ขาดความรอบคอบ ไม่แฟร์ ตามที่นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ใช้เป็นแนวทางการบริหาร ดังนั้น สโมสรขอนแก่น ยูไนเต็ด จะใช้สิทธิทางกฎหมายเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของสโมสรฯ แฟนบอล และชาวขอนแก่นจนถึงที่สุด” นายวัฒนา กล่าวและว่า
วันจันทร์ที่ 22ส.ค.นี้ จะส่งเรื่องร้องเรียนตามขั้นตอนระเบียบที่กำหนด เริ่มจากส่งเรื่องไปยังการกีฬาแห่งประเทศไทย และสภากรรมการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เพื่อให้ชี้แจงถึงเหตุผล และคำสั่งดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์ จากนั้นจะส่งเรื่อง และยื่นขออุทธรณ์ไปยังฟีฟ่า และศาลปกครอง เพื่อขอใช้สิทธิคุ้มครองชั่วคราวจนไปถึงการเพิกถอนคำสั่งดังกล่าวจากสภากรรมการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยต่อไป
เหตุการณ์ลักษณะนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในวงการฟุตบอลของไทย ซึ่งทันทีที่ทราบข่าวทุกสโมสร ทั้งในระดับไทยลีก ดิวิชัน 1 และดิวิชั่น 2 ต่างสอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น และพร้อมที่จะส่งทีมกฎหมายมาร่วมต่อสู้ในฐานะที่เป็นสโมสรฟุตบอลด้วยกัน ซึ่งเรื่องดังกล่าวนี้ยืนยันในการต่อสู้ตามขั้นตอนให้ถึงที่สุด