“สมาน ศรีงาม” ยื่นศาล จ.อุบลฯ ปล่อยสมาชิกจากคุก ค้านร่าง รธน.แบบไร้เงื่อนไข

อุบลราชธานี-หัวหน้าพรรคการนำใหม่ประชาชนปฏิวัติสันติ ยื่นหนังสือเรียกร้องให้ศาลจังหวัดอุบลราชธานี และหน่วยงานความมั่นคง สั่งปล่อยตัวสมาชิกที่ถูกจับดำเนินคดีขัดต่อ พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ เมื่อปลายเดือนกรกฎาคมอย่างไม่มีเงื่อนไข อ้างไม่ได้ทำผิดกฎหมายใดๆ

วันนี้ (19 ส.ค. 59) ที่เรือนจำกลางจังหวัดอุบลราชธานี นายสมาน ศรีงาม หัวหน้าพรรคการนำใหม่ประชาชนปฏิวัติสันติ และเป็นประธานคณะธรรมยาตรากอบกู้รักษาผืนแผ่นดินไทยกรณีเขาพระวิหาร พร้อมสมาชิกประมาณ 10 คน เดินทางมาเยี่ยมนายวิชาญ ภูวิหาร อายุ 48 ปี สมาชิกซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พิบูลมังสาหาร จับกุมข้อหาก่อความวุ่นวายโดยมุ่งหวังไม่ให้ผู้มีสิทธิออกเสียงไปใช้สิทธิออกเสียง หรือออกเสียงอย่างใดอย่างหนึ่ง ทำให้การออกเสียงไม่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย หลังยืนตะโกนและแจกเอกสารเชิญชวนประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อสินค้าในตลาดสดเทศบาลเมืองพิบูลมังสาหารไม่ให้ออกไปลงประชามติ เมื่อเช้าวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา

นายสมานกล่าวว่า หลังเข้าเยี่ยมนายวิชาญจะนำหนังสือเรียกร้องให้ปล่อยตัวนายวิชาญโดยปราศจากเงื่อนไขไปยื่นต่อศาลจังหวัดอุบลราชธานี กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี และ คสช.ประจำจังหวัดอุบลราชธานี เนื่องจากนายวิชาญไม่ได้กระทำผิดกฎหมายตามที่ตำรวจจับกุม เพราะการรณรงค์ของนายวิชาญไม่ได้ทำผิด พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ แต่ต้องการสร้างประชาธิปไตยที่แท้จริง เนื่องจากร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นเผด็จการ นายวิชาญทำตามมติพรรคที่ไม่เห็นด้วยให้นำร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มาประกาศใช้ และเมื่อนายวิชาญไม่ทำผิดกฎหมายจึงไปขอให้ศาลมีคำสั่งปล่อยตัวโดยปราศจากเงื่อนไขเพื่อรักษาระบบยุติธรรมของประเทศ พร้อมทั้งจะไม่ยื่นประกันตัวนายวิชาญ เนื่องจากไม่มีเงินและเชื่อว่านายวิชาญไม่ได้ทำผิดตามข้อกล่าวหาของตำรวจ

หลังจากเข้าเยี่ยมนายวิชาญที่ห้องเยี่ยมผู้ต้องขังเรือนจำกลางจังหวัดอุบลราชธานีแล้ว นายสมานได้นำสมาชิกนั่งเจริญภาวนาหน้าเรือนจำกลางอุบลราชธานีเป็นเวลา 2 นาที ก่อนพากันเดินทางไปยื่นหนังสือต่อศาลจังหวัดอุบลราชธานีในบ่ายวันเดียวกัน

สำหรับนายวิชาญ ศรีงาม มีชื่อเสียงเรื่องการเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยเมื่อปี 2556 ได้ร่วมกับกลุ่มธรรมยาตราที่มีนายสมานเป็นหัวหน้า ปีนรั้วข้ามเข้าไปในเขตทหารกัมพูชาที่เขาพระวิหารเพื่ออดข้าวประท้วงกรณีศาลโลกตัดสินให้กัมพูชามีสิทธิเหนือพื้นที่ 4.6 ตร.กม.รอบตัวปราสาทเขาพระวิหารมาแล้วด้วย