xs
xsm
sm
md
lg

เร่งค้นหา! นักท่องเที่ยวต่างชาติหายเข้าไปถ้ำแม่สายลึกลับ ทีมค้นหาเข้าสำรวจยังไร้วี่แวว(ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เชียงราย - ชาวบ้านแจ้งนักท่องเที่ยวหายเข้าไปในถ้ำทรายทองเชียงรายตั้งแต่วันแม่ กว่า 7 วันยังไม่ออกมาหวั่นเกิดอันตราย เจ้าหน้าที่เร่งค้นหาพร้อมหน่วยกู้ภัยแต่ยังไร้วี่แวว



วันนี้ (18 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ทรงกริช ออนตระไคร้ ผกก.สภ.แม่สาย จ.เชียงราย มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบกรณีมีผู้แจ้งว่ามีนักท่องเที่ยวหายไปภายในถ้ำขุนน้ำนางนอนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของถ้ำหลายแห่งที่เรียงรายใกล้กันอยู่ภายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ตั้งอยู่ ม.9 ต.โป่งผา อ.แม่สาย ห่างจากถนนพหลโยธินแม่สาย-เชียงราย เพียงเล็กน้อย

โดยชาวบ้านและพ่อค้าแม่ค้าที่จำหน่ายสินค้าอยู่บริเวณสถานที่ท่องเที่ยวถ้ำดังกล่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมาได้มีนักท่องเที่ยวที่มีรูปพรรณสัณฐานเป็นชาวจีนหรือญี่ปุ่น ซึ่งเป็นชายอายุประมาณ 50-60 ปี เดินทางมาด้วยการปั่นรถจักรยานไปยังปากถ้ำหลวงดังกล่าว

จากนั้นนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวได้นำรถจักรยานแบบผู้หญิงสีฟ้าเข้มไปจอดพิงต้นไม้ใกล้กับร้านจำหน่ายอาหารตามสั่งของชาวบ้าน ทำนองว่าต้องการจะฝากรถจักรยานเอาไว้เพราะจะเดินทางไปท่องเที่ยวภายในถ้ำ เพราะสามารถใช้ภาษาไทยได้เพียงเล็กน้อยและไม่ชัดเจนนัก สามารถจับใจความได้ว่าจะเข้าไปภายในถ้ำเพื่อนั่งสมาธิราว 2-3 วันจึงขอฝากให้ดูจักรยานให้ด้วย ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าก็รับปากจะดูให้ ทำให้ชายต่างชาติคนดังกล่าวแบกกระเป๋าเป้ซึ่งนำไปด้วยเพียงใบเดียวใส่หลังเดินหายไปในถ้ำ กระทั่งผ่านไป 7 วันแล้วก็ไม่ยอมกลับออกมาจึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ได้รับทราบดังกล่าว

จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบที่ปากถ้ำมีรกจักรยานคันดังกล่าวจอดอยู่จริง และพบขนม น้ำ และผลไม้จำนวนหนึ่งซึ่งทราบว่านักท่องเที่ยวคนดังกล่าวได้นำไปเซ่นไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เอาไว้บริเวณปากถ้ำก่อนที่จะเดินเข้าถ้ำไป ส่วนภายในถ้ำพบว่าเป็นถ้ำที่มีลำธารน้ำไหลเชี่ยวออกมาจากตาน้ำอยู่ตลอดเวลา ซึ่งแม้ว่าช่วงแรกของถ้ำจะเป็นลักษณะคล้ายห้องโถงใหญ่ แต่เมื่อเดินลึกเข้าไปก็มีความมืดจนมองเห็นไม่ชัดเจนในช่วงต้นๆ และเมื่อลึกเข้าไปก็มืดสนิท ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่เดินสำรวจเข้าไปได้ประมาณ 800 เมตรแล้วไม่พบบุคคลใดอยู่เลย

โดยพบเพียงผนังถ้ำช่วงหนึ่งเขียนข้อความ 2 ภาษา คือ ภาษาจีน เขียนว่า “เห่อยิง” และภาษาอังกฤษอ่านได้ว่า “อาเหว่ย” อยู่ภายในแต่ไม่สามารถระบุชัดได้ว่าเป็นฝีมือของนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวหรือไม่ ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้แจ้งหน่วยกู้ภัยให้เดินสำรวจลึกเข้าไปในถ้ำ ซึ่งทางหน่วยกู้ภัยได้เดินเข้าไปภายในถ้ำลึกประมาณ 2 กิโลเมตรพบว่าน้ำภายในลำธารไหลเชี่ยวในฤดูฝนและผนังน้ำเต็มไปด้วยหยดน้ำรวมทั้งมีความมืด ขณะนี้ยังไม่พบตัวนักท่องเที่ยวตามที่ได้รับแจ้งแต่อย่างใด





กำลังโหลดความคิดเห็น