ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เชียงใหม่ประชุมทุกหน่วยงานเกี่ยวข้องพิจารณาการใช้พื้นที่บนลานประตูท่าแพเพื่อจำหน่ายสินค้า ได้บทสรุปเป็นที่ยุติว่าจะไม่มีการอนุญาตให้ตั้งจำหน่ายสินค้าบนลานประตูท่าแพแล้ว รวมทั้งจะไม่มีการขยายพื้นที่ขายสินค้าถนนคนเดินวันอาทิตย์ให้ตามที่กลุ่มผู้ค้าเรียกร้องขอการเยียวยา ขณะที่เครือข่ายชุมชนเมืองเชียงใหม่ระบุเป็นสิ่งดีที่สามารถรักษาพื้นที่ “ข่วงเมือง” ไว้ให้เป็นหน้าเป็นตาของบ้านเมือง แทนที่จะถูกปล่อยนำไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า วานนี้ (17 ส.ค. 59) ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่มีการประชุมพิจารณาเรื่องการใช้พื้นที่บนลานประตูท่าแพเพื่อจำหน่ายสินค้า โดยมีนายประจวบ กันธิยะ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่เป็นประธานการประชุม ร่วมกับผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งมณฑลทหารบกที่ 33, ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่, เทศบาลนครเชียงใหม่, กรมศิลปากร, ธนารักษ์ และกลุ่มผู้ค้าบนลานประตูท่าแพ รวมทั้งผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งเบื้องต้นได้ข้อสรุปว่าจะไม่มีการอนุญาตให้ตั้งจำหน่ายสินค้าบนลานประตูท่าแพแล้ว ตลอดจนจะไม่มีการจัดหาพื้นที่จำหน่ายสินค้าทดแทนให้ ตามที่ทางกลุ่มผู้ค้าบนลานประตูท่าแพเสนอขอให้มีการปิดถนนในพื้นที่ติดต่อกับถนนคนเดินวันอาทิตย์เพื่อตั้งร้านจำหน่ายสินค้า
โดยวันนี้ (18 ส.ค. 59) นายณัฐฐ์ชูเดช วิริยดิลกธรรม รองนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ เปิดเผยว่า วานนี้ได้เป็นตัวแทนเทศบาลนครเชียงใหม่เข้าร่วมการประชุมดังกล่าวด้วย ซึ่งจากการประชุมได้ข้อสรุปเป็นที่ยุติร่วมกันว่าจะไม่มีการอนุญาตให้ตั้งจำหน่ายสินค้าบนลานประตูท่าแพแล้ว ส่วนข้อเสนอของกลุ่มผู้ค้าบนลานประตูท่าแพที่เสนอให้มีการเยียวยาด้วยการจัดสรรพื้นที่ผ่อนผันให้ตั้งจำหน่ายสินค้าได้บนถนนที่เชื่อมต่อกับถนนคนเดินวันอาทิตย์ที่ยังมีพื้นที่ว่างอยู่นั้น ที่ประชุมได้มีมติปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าวเช่นกัน เนื่องจากหวั่นเกรงว่าจะเป็นการสร้างปัญหาและความเดือดร้อน ให้แก่ผู้ที่มีบ้านเรือนอยู่อาศัยในย่านดังกล่าว ที่ปัจจุบันเสียสละรับผลกระทบจากการปิดถนนเพื่อจัดกิจกรรมอยู่ไม่น้อยแล้ว
ขณะที่นางเสาวคนธ์ ศรีบุญเรือง ผู้ประสานงานเครือข่ายชุมชนเมืองรักษ์เชียงใหม่ แสดงความเห็นว่า หากที่ประชุมของจังหวัดเชียงใหม่ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีมติร่วมกันที่จะไม่อนุญาตให้ตั้งจำหน่ายสินค้าบนลานประตูท่าแพแล้ว ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่สามารถรักษาพื้นที่สาธารณประโยชน์เอาไว้ได้ ให้เป็น “ข่วงเมือง” ที่เป็นหน้าเป็นตาของเมืองเชียงใหม่ โดยไม่ถูกนำไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์
สำหรับการจะอนุรักษ์และพัฒนาพื้นที่ลานประตูท่าแพให้สง่างาม และมีความเหมาะสมในอนาคตนั้น เห็นว่าควรจะต้องเก็บรักษาไว้ให้เป็นพื้นที่สาธารณประโยชน์ที่ทุกคนใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ รวมทั้งเป็นสถานที่ที่เป็นสัญลักษณ์ที่ดีงามและงดงามของเชียงใหม่ด้วย
ส่วนรูปแบบการพัฒนานั้นเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งหน่วยงานรัฐ ท้องถิ่น ชุมชนและคนเชียงใหม่ จะต้องมาพูดคุยหารือกัน เพื่อนำไปสู่ข้อสรุปและแนวทางที่เหมาะสม และเป็นที่พอใจของทุกฝ่าย โดยเฉพาะคนเชียงใหม่
อนึ่ง สำหรับตามแนวคิดเกี่ยวกับการจัดระเบียบและอนุญาตให้ผู้ค้าสามารถตั้งจำหน่ายสินค้าบนลานประตูท่าแพนั้น ที่ผ่านมาเทศบาลนครเชียงใหม่ได้ทำการออกแบบวางผังการใช้ประโยชน์พื้นที่ในเบื้องต้น โดยกำหนดจะจัดสรรพื้นที่ 40% ให้เป็นที่สาธารณะ และ 60% จะอนุญาตให้ทำการค้าขายได้ ซึ่งพื้นที่สาธารณะ 40% จะเป็นบริเวณลานตรงกลางหน้าประตูท่าแพที่จะปล่อยให้เปิดโล่ง ขณะที่การขายนั้นจะมีการอนุญาตเฉพาะวันอาทิตย์เพียงวันเดียวเท่านั้น ระหว่างเวลา 18.00-23.00 น. จะเป็นพื้นที่ด้านข้างที่จัดสรรให้รองรับผู้ค้าได้ 264 ราย ซึ่งลดลงจากเดิมในช่วงที่ยังไม่มีการจัดระเบียบที่มีประมาณ 1,000 ราย
ส่วนคุณสมบัติและเงื่อนไขต่างๆ ของผู้ค้าที่ต้องการรับการจัดสรรพื้นที่ค้าขาย เบื้องต้นกำหนดว่าจะต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทยที่มีบัตรประจำตัวประชาชน, มีทะเบียนบ้านอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่, มีหลักฐานการเสียภาษี และต้องเป็นผู้ค้าถนนคนเดินที่ลงทะเบียนไว้กับทางเทศบาลนครเชียงใหม่ จึงจะมีสิทธิในการยื่นคำร้องขอรับการจัดสรรพื้นที่ค้าขายในครั้งนี้