ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ผู้ว่าฯ เชียงใหม่เผยชะลอการจัดระเบียบและอนุญาตให้ผู้ค้าตั้งจำหน่ายสินค้าบนลานท่าแพไว้ก่อนอย่างไม่มีกำหนดเพื่อพิจารณาข้อดีข้อเสียอย่างละเอียด โดยยกเลิกการขออนุญาตใช้พื้นที่จากกรมศิลปากรไปแล้วเพื่อให้ทำการทบทวนอย่างรอบคอบหากจะอนุญาต เนื่องจากเป็นการขออำนาจบริหารจัดการพื้นที่อย่างเบ็ดเสร็จทั้งหมด ขณะที่การตรวจสอบคุณสมบัติผู้ค้าที่ยื่นขอรับการจัดสรรพื้นที่พบหลายรายเสียภาษีหลักแสนต่อปี ส่อเป็นผู้มีอันจะกินมากกว่าฐานะยากจน
นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยความคืบหน้าการจัดระเบียบการใช้ประโยชน์พื้นที่ลานประตูท่าแพ ที่จะมีการอนุญาตให้ผู้ค้าสามารถตั้งจำหน่ายสินค้าว่า ในส่วนเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การจัดสรรพื้นที่และคัดเลือกผู้ค้าเป็นที่เข้าใจตรงกันแล้ว อย่างไรก็ตาม เวลานี้การดำเนินการทุกอย่างต้องชะลอไว้ก่อนเพื่อพิจารณาข้อดีข้อเสียอย่างละเอียด โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการขออนุญาตใช้พื้นที่จากกรมศิลปากร ที่เคยมีการยื่นขอไปแต่ขณะนี้ได้ยกเลิกไปแล้ว
ทั้งนี้ เพื่อให้กรมศิลปากรได้พิจารณาอย่างรอบคอบ เนื่องจากการขอใช้พื้นที่ดังกล่าวเพื่อดำเนินการจัดระเบียบและอนุญาตให้ผู้ค้าสามารถตั้งจำหน่ายสินค้านั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่การขอใช้พื้นที่เท่านั้น แต่เป็นการขออำนาจในการบริหารจัดการพื้นที่แทนกรมศิลปากรเลย ซึ่งการดำเนินการในเรื่องการจัดระเบียบการใช้ประโยชน์พื้นที่ลานประตูท่าแพ และอนุญาตให้ตั้งจำหน่ายสินค้าได้นั้น เบื้องต้นคงจะเลื่อนออกไปก่อนอย่างไม่มีกำหนด
ขณะที่รายงานข่าวแจ้งว่า ในการจัดระเบียบการใช้ประโยชน์พื้นที่ลานประตูท่าแพดังกล่าวนี้ เจตนารมณ์อย่างหนึ่งเพื่อช่วยเหลือผู้มีฐานะยากจนให้มีอาชีพ และมีรายได้เลี้ยงดูครอบครัว ทั้งนี้มีการกำหนดคุณสมบัติหนึ่งของผู้ค้าว่าต้องมีหลักฐานการเสียภาษี ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นของสรรพากรพื้นที่เชียงใหม่ พบว่ามีผู้ค้าจำนวนมากที่ลงทะเบียนขอรับการจัดสรรพื้นที่ค้าขายบนลานประตูท่าแพ ที่ตรวจพบว่าต้องเสียภาษีในแต่ละปีเป็นจำนวนเงินหลักแสนบาท ซึ่งทำให้เชื่อได้ว่าน่าจะเป็นผู้ที่มีรายได้และมีฐานะดีมากกว่าจะเป็นผู้มีฐานะยากจน
สำหรับรายละเอียดเบื้องต้นเกี่ยวกับการจัดระเบียบการใช้ประโยชน์และการอนุญาตให้จำหน่ายสินค้าบนลานประตูท่าแพนั้น ทางเทศบาลนครเชียงใหม่ได้ทำการออกแบบวางผังการใช้ประโยชน์พื้นที่ในเบื้องต้นโดยกำหนดจะจัดสรรพื้นที่ 40% ให้เป็นที่สาธารณะ และ 60% จะอนุญาตให้ทำการค้าขายได้ ซึ่งพื้นที่สาธารณะ 40% จะเป็นบริเวณลานตรงกลางหน้าประตูท่าแพที่จะปล่อยให้เปิดโล่ง ขณะที่การขายนั้นจะมีการอนุญาตเฉพาะวันอาทิตย์เพียงวันเดียวเท่านั้น ระหว่างเวลา 18.00-23.00 น. จะเป็นพื้นที่ด้านข้างที่จัดสรรให้รองรับผู้ค้าได้ 264 ราย ซึ่งลดลงจากเดิมในช่วงที่ยังไม่มีการจัดระเบียบที่มีประมาณ 1,000 ราย
ส่วนคุณสมบัติและเงื่อนไขต่างๆ ของผู้ค้าที่ต้องการรับการจัดสรรพื้นที่ค้าขายนั้น เบื้องต้นกำหนดว่าจะต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทยที่มีบัตรประจำตัวประชาชน, มีทะเบียนบ้านอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่, มีหลักฐานการเสียภาษี และต้องเป็นผู้ค้าถนนคนเดินที่ลงทะเบียนไว้กับทางเทศบาลนครเชียงใหม่จึงจะมีสิทธิในการยื่นคำร้องขอรับการจัดสรรพื้นที่ค้าขายในครั้งนี้