พะเยา/ลำปาง - ฤทธิ์น้ำป่าถล่มเมืองก๊วนพะเยา แม้สำรวจยังไม่ครบแต่พบพื้นที่การเกษตรทั้งนาข้าว-ไร่ข้าวโพด-ไร่มันฯ เสียหายราบพนาสูญกว่าแสนไร่ ทรัพย์สินเสียหายอีกอื้อ เกษตรกรเดือดร้อนกว่าครึ่งหมื่นครัวเรือน ขณะที่ร่างหนุ่มตกน้ำโผล่แล้ว ห่างจุดเกิดร่วม 200 เมตร เผยมีเด็กขวบเศษตกน้ำอีกราย ล่าสุดอาการโคม่า
วันนี้ (16 ส.ค.) นายกร มหาวงค์นันท์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพะเยา (ปภ.พะเยา) ได้สรุปสถานการณ์ความเสียหาย เหตุน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่จังหวัดพะเยา เมื่อวานที่ผ่านมา พบว่า มีความเสียหายเป็นบริเวณกว้างในพื้นที่ อ.ปง และ อ.เชียงคำ รวม 12 ตำบล 75 หมู่บ้าน
ที่อำเภอปง มีพื้นที่ได้รับผลกระทบรวม 5 ตำบล ได้แก่ ต.งิม ต.ออย ต.ปง ต.นาปรัง และ ต.ควร รวมเสียหาย 28 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน ประมาณ 2,500 ครัวเรือน, อำเภอเชียงคำ ได้รับผลกระทบจำนวน 7 ตำบล ได้แก่ ต.แม่ลาว ต.เจดีย์คำ ต.เวียง ต.ฝายกวาง ต.ร่มเย็น ต.เวียง และ ต.เชียงบาน ได้รับความเสียหาย 47 หมู่บ้าน 405 ครัวเรือน (พื้นที่ทางการเกษตรอยู่ระหว่าง สำรวจความเสียหาย) ขณะที่ อำเภอเชียงม่วนพื้นที่ประสบภัย 1 ตำบล และอำเภอภูซาง 3 ตำบล (อยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหายทั้ง 2 อำเภอ)
เบื้องต้นพบพื้นที่ทางการเกษตรเสียหายดังนี้ อ.ปง กว่า 1 แสนไร่ ประกอบด้วย นาข้าว จำนวน 35,000 ไร่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 50,000 ไร่ มันสำปะหลัง 5,000 ไร่ เกษตรกรได้รับผลกระทบ 5,000 ราย รวมถึงสัตว์เลี้ยงของเกษตรกรในพื้นที่อำเภอปงตาย ประกอบด้วย โค 16 ตัว กระบือ 1 ตัว ทรัพย์สินของราษฎรได้รับความเสียหายจำนวนมาก ส่วนอำเภอเชียงคำ อ.เชียงม่วน และอ.ภูซาง อยู่ระหว่างการสำรวจ ขณะที่ชาวบ้านต่างเร่งเข้าทำความสะอาดภายในบริเวณบ้านของตนเองแล้วหลังจากปริมาณน้ำเริ่มลดระดับลง แต่บางพื้นที่ยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง
ด้านนายอนุราช เทศทอง ปลัดเทศบาลตำบล (ทต.) ปง อ.ปง จ.พะเยา เปิดเผยถึงความคืบหน้า กรณีนายนพรัตน์ คันทะเรศร์ อายุ 39 ปี หมู่ 1 ต.นาปรัง อ.ปง ที่ถูกกระแสน้ำพัดหายไปตั้งแต่เวลาประมาณ 03.00 น. ของวันที่ 15 สิงหาคม 2559 ว่าหลังจากเจ้าหน้าที่ใช้เวลาค้นหาผ่านไปกว่า 1 วัน กระทั่งเวลาประมาณ 10.00 น.วันนี้ (16 ส.ค.) ชุดค้นหาแจ้งว่าพบร่างของผู้สูญหายแล้วบริเวณร่องน้ำข้างร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ เลยวัดนาปรังไปทางอำเภอปงประมาณ 200 เมตร เป็นร่องน้ำที่จะไหลลงแม่น้ำยม ซึ่งจะได้มอบศพผู้เสียชีวิตให้ญาติเพื่อนำไปประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป
นางชิน ใจเย็น อดีตรองประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ขุนควร อ.ปง จ.พะเยา เปิดเผยว่า ระหว่างน้ำป่าไหลหลากวานนี้ยังทำให้เด็กเล็กอายุขวบเศษตกน้ำ 1 ราย คือ ด.ช.ณัฐภูมิ ปาส่วน หรือน้องผักกาด อาศัยอยู่กับแม่ชื่อนางชญานิชย์ ธงสัตย์ บ้านเลขที่ 219 หมู่ 6 ต.ขุนควร อ.ปง จ.พะเยา
เหตุเกิดเมื่อเวลา 13.15 น. ด.ช.ณัฐภูมิได้เดินตาม ด.ช.ภูริรัฐ ธงสัตย์ พี่ชาย ไปดูลุงกับป่าที่ถอนต้นกล้าข้าวเพื่อเตรียมนำไปปลูกในแปลงนา โดยระหว่างทางเดินไปหาลุงกับป้าจะต้องเดินผ่านสะพานไม้ข้ามลำเหมืองสาขาของแม่น้ำขามกว้าง 2 เมตร แต่ตอนเดินกลับน้องผักกาดเดินด้วยตนเองและไม่ได้เดินตามสะพาน ลุงของเด็กเห็นรอยเท้าของเด็กเดินลงน้ำ พอทราบว่าเด็กตกน้ำจึงตามหาในลำเหมืองที่มีท่อวางอยู่ 8 เมตร จนพบน้องผักกาดติดอยู่กับหลัก ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 800 เมตร สภาพเด็กนอนนิ่ง ลำตัวเขียว หายใจอยู่ จึงได้นำส่ง รพ.สต.ขุนควร และส่งต่อ รพ.ปง-รพ.พะเยา ทราบว่าตอนนี้เด็กไม่ไหวแล้ว แพทย์ให้นำกลับบ้านที่ ต.ขุนควรแล้ว
ด้านนายคมสัน สุวรรณอัมพา ผอ.ศูนย์ ปภ.เขต 10 ลำปาง ได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ซึ่งได้ออกปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ก่อนหน้านี้ และสถานการณ์กลับสู่สภาวะปกติแล้ว ให้กระจายกำลังพร้อมเครื่องมืออุปกรณ์ รถกู้ภัยเล็ก เรือท้องแบน เลื่อยยนต์ ไปช่วยเหลือพื้นที่ประสบอุทกภัยทั้งจังหวัดพะเยา และจังหวัดน่านอีกทอดหนึ่งแล้ว เนื่องจากทั้งสองจังหวัดในขณะนี้ยังคงขาดแคลนทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ อุปกรณ์ในการช่วยเหลือต่างๆ อีกจำนวนมาก
