หนองคาย - น้ำโขงที่หนองคายขยับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังฝนตกหลายพื้นที่ น้ำไหลเชี่ยวกราก จนแพสูบน้ำของเทศบาลหลุดจากสมอไปติดกับแพร้านอาหาร ขณะที่ระดับน้ำโขง ที่นครพนมจ่อวิกฤติ สูง เกือบ 9 เมตร ปภ.สั่งนระวังเข้มเรือข้ามฟากไทย – ลาว ทั้งเรือโดยสารและเรือขนส่งสินค้า
วันนี้ (16 ส.ค. 59) ระดับน้ำโขงที่จังหวัดหนองคาย วัดที่ส่วนอุทกวิทยาหนองคาย วัดได้ 8.75 เมตร เพิ่มขึ้นจากวานนี้ 0.27 เมตร ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากฝนที่ตกลงมาในหลายพื้นที่ตามลุ่มน้ำโขง ไหลมาสมทบรวมกัน และมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นในวันพรุ่งนี้อีกประมาณ 1 เมตรเศษ กระแสน้ำโขงไหลเชี่ยวกรากจนทำให้แพสูบน้ำของเทศบาลเมืองหนองคายที่ปกติทอดสมอผูกเชือกไว้ที่บริเวณหน้าสำนักงานอุทกวิทยาหนองคาย เชือกหลุดแพไหลมาตามแม่น้ำโขงไปติดกับแพของร้านอาหารวังเวียง ระยะทางประมาณ 700 เมตร โดยแพสูบน้ำเครื่องนี้ไม่ได้ใช้เดินเครื่องสูบน้ำโขง เพียงติดตั้งไว้เนื่องจากมีการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งจึงไม่สะดวกต่อการปฏิบัติงาน ทางเทศบาลกำลังหาทางนำแพกลับไปไว้ที่เดิม
ทั้งนี้ ทางอุทกวิทยาหนองคายได้แจ้งเตือนประชาชนตามริมฝั่งแม่น้ำโขงให้ติดตามสถานการณ์น้ำโขงอย่างใกล้ชิด เพราะช่วงนี้ระดับน้ำโขงจะขยับสูงขึ้นตามรอบของน้ำโขง แต่ยังไม่ถึงกับต้องตื่นตระหนก เนื่องจากยังต่ำกว่าตลิ่ง 3.45 เมตร ขอให้ประชาชนและเกษตรกรที่มีการเลี้ยงปลากระชังหมั่นตรวจเช็กความมั่นคงของกระชังปลา และสิ่งที่ผูกมัดอยู่ตามลำน้ำไม่ให้ถูกกระแสน้ำโขงพัดพาไป
ปภ.นครพนมสั่งระวังเข้มเรือข้ามฟาก
ขณะเดียวกัน ที่จังหวัดนครพนม ระดับน้ำโขงยังเพิ่มต่อเนื่อง วันละ 30-40 เซนติเมตร หลังจากมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ทำให้ระดับน้ำโขงในพื้นที่ ล่าสุด 8.70 เมตร ห่างจากจุดวิกฤติ ประมาณ 4 เมตร เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาน้ำเอ่อท่วมหากน้ำโขงเพิ่มใกล้ถึงจุดวิกฤติ จะทำให้น้ำโขงหนุนลำน้ำสาขา ไหลระบายลงสู่แม่น้ำโขงช้าลง
โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง ติดกับน้ำโขง 5 อำเภอ ธาตุพนม อำเภอเมือง อำเภอท่าอุเทน อำเภอบ้านแพง นอกจากนี้ยังมี อำเภอศรีสงคราม ที่ติดกับลำน้ำสงคราม
เบื้องต้นทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.นครพนม ได้ประกาศเดือนให้ประชาชนในพื้นที่ เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำ เตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก และประสานไปยังหน่วยงานเกี่ยวข้องทั้ง 12 อำเภอ เพื่อเตรียมความพร้อมในการดูแลช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เสี่ยงเมื่อเกิดปัญหา
อีกทั้งยังเพิ่มมาตรการเข้ม กำชับผู้ประกอบการเดินเรือข้ามฟากไทย-ลาว ที่บริการประชาชนและบรรทุกสินค้าระหว่างชายแดนไทย-ลาว ให้จัดเตรียมอุปกรณ์ชูชีพให้กับผู้โดยสารและควบคุมน้ำหนักห้ามบรรทุกเกินปริมาณ เนื่องจากช่วงนี้น้ำโขงสูงไหลเชี่ยว เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุจึงได้มีการเข้มงวด