พิษณุโลก/กำแพงเพชร - ผู้ใช้สิทธิออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ฉีกบัตรกลางคูหาโผล่เพิ่มอีก พบที่พิษณุโลก เป็นชายวัย 67 ปี หย่อนบัตรไปแล้วกลับบ้านถามเมียได้ฉีกบัตรหรือไม่ พอรู้ว่าไม่ต้องฉีก รีบกลับมาแจ้ง จนท.ประจำหน่วย ขณะที่เมืองกล้วยไข่ มีชาวบ้านอ่านเขียนไม่ออก ฉีกบัตรตามสีอีกราย
เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (7 ส.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำหน่วยเลือกตั้งที่ 8 หมู่ที่ 8 ต.มะขามสูง อ.เมืองพิษณุโลก ได้นำตัว นายชะลอ บุญสืบ อายุ 67 ปี ชาวบ้านบ้านมะขามสูง ผู้ที่ไปใช้สิทธิออกเสียงประชามติ แล้วเข้าใจผิดว่าต้องฉีกบัตรเป็น 2 ชิ้น มาทำการสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก โดยมี พ.ต.อ.ทรงพล สังข์เกษม ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก ร่วมกับ นายสยามรัฐ สุทธรินทร์ รอง ผอ.กกต.พิษณุโลก ทำการสอบสวนเพื่อดูเจตนา ก่อนที่ดำเนินคดีทางกฎหมาย
เบื้องต้น ทราบว่า นายชะลอ ได้ใช้สิทธิ และกลับไปที่บ้านแล้วนึกขึ้นมาได้จึงถามภรรยา ปรากฏว่า ภรรยาบอกว่าไม่ต้องฉีกบัตร นายชะลอ จึงย้อนกลับมาที่หน่วยออกเสียงเพื่อแจ้งเจ้าหน้าที่ จึงถูกคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองพิษณุโลก
เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่จะดูที่เจตตนาของ นายชะลอ ว่า ทำไปเพราะเหตุใด แต่ดูแล้วน่าจะมาจากการเข้าใจผิดเพราะไม่เช่นนั้นคงไม่ย้อนกลับมาแจ้งที่หน่วยเลือกตั้ง แต่ก็ต้องรอให้มีการนับคะแนนก่อน เพราะบัตรที่ถูกฉีกขณะนี้ได้ถูกหย่อนลงในหีบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งต้องตรวจดูว่าบัตรได้ถูกฉีกจริงหรือไม่ จึงจะได้ดำเนินการแจ้งความทางคดีที่ สภ.เมืองพิษณุโลก ต่อไป
ในเวลาไล่เลี่ยกัน พ.ต.อ.สมบูรณ์ พวงมาลัย ผกก.สภ.โกสัมพีนคร พ.ต.ท.บุญยัง บุญเอี่ยม พงส.สภ.โกสัมพีนคร จ.กำแพงเพชร ได้รับแจ้งมีเหตุฉีกบัตรขึ้นที่หน่วยออกเสียงประชามติหน่วยที่ 25 หมู่ที่ 20 บ้านคลองแตงโม ต.โกสัมพี จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงพบ นายยศญ์ นาคสังข์ อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/1 หมู่ที่ 20 ต.โกสัมพี อ.โกสัมพีนคร จ.กำแพงเพชร ได้ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไว้ พร้อมของกลางบัตรออกเสียงประชามติที่มีร่องรอยฉีกขาดเป็น 2 ส่วน จึงได้นำตัวมาสอบสวนที่ สภ.โกสัมพีนคร
เบื้องต้น นายยศญ์ ให้การว่า เกิดมาไม่เคยใช้สิทธิในการเลือกตั้ง วันนี้ได้เดินทางไปใช้สิทธิออกเสียงประชามติเนื่องจากผู้ใหญ่บ้านได้ประชาสัมพันธ์ขอให้ไปใช้สิทธิออกเสียงในการลงประชามติ พอไปถึงก็ได้ยื่นบัตรประชาชนให้แก่เจ้าหน้าที่ประจำหน่วย และพิมพ์ลายนิ้วมือเสร็จแล้วก็รับบัตรออกเสียงประชามติเข้าคูหา
นายยศญ์ ให้การอีกว่า หลังจากเข้าคูหาก็เห็นว่าบัตรออกเสียงประชามติ เป็น 2 สี จึงคิดว่า มี 2 ส่วน ดังนั้น เมื่อกาใช้สิทธิแล้วก็ได้จับบัตรฉีกแยกเป็น 2 ส่วน เพื่อที่จะนำบัตรไปหย่อน หรือใส่ที่กล่องรับบัตรอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เห็นว่า เป็นผู้ที่ทำบัตรชำรุด จึงได้ควบคุมตัวส่งให้พนักงานสอบสวนไปดำเนินคดี
อย่างไรก็ตาม นายยศญ์ ได้ให้การว่า เป็นคนที่ไม่รู้หนังสืออ่านเขียนไม่ออก จนเพียงชั้น ป.2 จึงไม่ทราบว่าในใบลงประชามตินั้นแค่กาใช้สิทธิเท่านั้น
ด้าน นายณัฐภูมิ สุภาวิทย์ พนักงานสืบสวนสอบสวน กกต.กำแพงเพชร ได้รับแจ้งจากหน่วยออกเสียงประชามติ และได้เดินทางมาตรวจสอบข้อเท็จจริง เบื้องต้นมองว่า การฉีกบัตรครั้งนี้เกิดขึ้นจากรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่จะรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้แก่ กกต.กลางทราบต่อไป