ศูนย์ข่าวศรีราชา - บรรยากาศลงประชามติจังหวัดภาคตะวันออกมีสีสันตั้งแต่เช้า ชลบุรี-พัทยาเปิดหีบคึกคัก ตราด-จันทบุรี มีฝนตกแต่ประชาชนยังทยอยใช้สิทธิ ด้านปราจีนบุรี นำร่องใช้เครื่องสมาร์ทการ์ดสำหรับผู้ที่ใช้สิทธิออกเสียงนอกเขตจังหวัด สระแก้วคนไม่นอนหลับทับสิทธิ
วันนี้ (7 ส.ค.) “MGR Online” รายงานบรรยากาศการลงประชามติที่หน่วยเลือกบริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดชลบุรี อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ได้มีการเปิดหีบการลงคะแนนออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ เมื่อช่วงเช้าเวลา 08.00 น. ได้มีประชาชนเดินทางเพื่อไปใช้สิทธิลงคะแนนออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญกันอย่างคึกคัก
โดยมีทหาร ตำรวจ และประชาชนเข้าแถวรอการลงคะแนนยาวเหยียดกันอย่างคึกคัก สำหรับประชาชนจากต่างจังหวัดขอใช้สิทธิลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ โดยผ่านสำนักงานทะเบียน 13,696 คน ผ่านอินเทอร์เน็ต 13,158 คน รวมผู้มาลงทะเบียนใช้สิทธินอกเขต จำนวน 26,854 คน มากเป็นอันดับ 2 ของประเทศ รองจากกรุงเทพมหานคร
ส่วนประชาชนชาวจังหวัดชลบุรี สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดชลบุรี ได้จัดหน่วยลงคะแนนออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ในเขตจังหวัดชลบุรี จำนวน 1,408 หน่วย ซึ่งประกอบไปด้วย อำเภอเมืองชลบุรี จำนวน 325 หน่วย อำเภอสัตหีบ จำนวน 144 หน่วย อำเภอบางละมุง จำนวน 231 หน่วย อำเภอบ้านบึง จำนวน 113 หน่วย อำเภอพานทอง จำนวน 71 หน่วย อำเภอพนัส จำนวน 147 หน่วย
อำเภอศรีราชา จำนวน 245 หน่วย อำเภอหนองใหญ่ จำนวน 28 หน่วย อำเภอเกาะจันทร์ จำนวน 39 หน่วย อำเภอเกาะสีชัง จำนวน 7 หน่วย และอำเภอบ่อทอง จำนวน 58 หน่วย โดยมีผู้มีสิทธิลงคะแนนออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญในเขตจังหวัดชลบุรี จำนวน 1,101,917 คน แยกเป็นชาย 117,718 คน เป็นหญิง 131,389 คน ในการลงคะแนนออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ มีประชาชนให้ความสนใจในการใช้สิทธิของตนเองอย่างคึกคัก บรรยากาศเต็มไปด้วยความเรียบร้อย
สำหรับบรรยากาศของการลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญช่วงก่อนเปิดหีบลงคะแนนในเวลา 08.00 น. ที่โรงเรียนเมืองพัทยา 5 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พบว่า เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง ได้ประจำความพร้อมของสถานที่ และอุปกรณ์เลือกตั้งทั้งหมดไว้เพื่อรอรับประชาชนที่จะเดินทางมาลงคะแนน โดยได้มีการตรวจสอบบัญชีรายชื่อของผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมใช้
ขณะที่การดูแลรักษาความปลอดภัยบริเวณรอบหน่วยก็เป็นไปด้วยความเข้มข้น โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี คอยควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ประชาชนโดยทั่วไปก็ได้ทยอยเดินทางมาตรวจสอบรายชื่อบริเวณบอร์ดด้านหน้าหน่วย เพื่อรอใช้สิทธิกันอย่างคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้า ซึ่งคาดว่าคงจะมีปริมาณหนาแน่นมากขึ้นในช่วงสาย โดยเฉพาะโรงเรียนแห่งนี้ซึ่งถือเป็นแหล่งชุมชนใหญ่ในพื้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี
ทั้งนี้ สำหรับโรงเรียนเมืองพัทยา 5 มีหน่วยลงคะแนนจำนวน 4 หน่วย ได้แก่ หน่วยที่ 8-12 ในพื้นที่ของบ้านเลขที่ 60/51-206/27 ครอบคลุมในเขตหมู่ที่ 9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยมีจำนวนผู้มีสิทธิทั้ง 4 หน่วยเลือกตั้งนี้ จำนวน 3,674 คน
สำหรับพื้นที่ศรีราชา-หนองมน ประชาชนทยอยเดินทางไปออกเสียงประชามติอย่างต่อเนื่อง ทำให้พื้นที่แออัดไปด้วยรถจักรยานยนต์ และรถยนต์
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการออกเสียงประชามติที่บริเวณโรงอาหารศูนย์พัฒนาเด็กเล็กวัดพิบูลสัณหธรรม ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี หน่วยออกเสียงที่ 20-25 มีประชาชนทยอยเดินทางมาออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญในครั้งนี้อย่างต่อเนื่อง หลังเปิดหีบบัตรออกเสียงตั้งแต่เวลา 08.00 น. ทำให้บริเวณพื้นที่ลานจอดรถออกเสียงประชามติเนืองแน่นไปด้วยรถจักรยานยนต์ และรถยนต์ผู้ที่เดินทางมาครั้งนี้ ส่วนปัญหาต่างๆ ในพื้นที่ออกเสียงประชามติ เป็นไปด้วยความสงบและเรียบร้อย โดยมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำผู้มาออกเสียงประชามติในครั้งนี้
ด้าน น.ส.ณัฐรัตน์ เกียรติขจรพันธุ์ ผู้ออกเสียงประชามติที่โรงอาหารศูนย์พัฒนาเด็กเล็กวัดพิบูลสัณหธรรม กล่าวว่า การออกมาออกเสียงประชามติในครั้งนี้เพื่อต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลง หรือปรับปรุงการบริหารงานของรัฐบาล หรือของประเทศใหม่ เพราะที่ผ่านมา มีปัญหาเรื่องการคอร์รัปชัน การเห็นแก่ตัว ทำให้ประเทศชาติได้รับความเสียหาย และล้าหลังประเทศอื่นๆ ในขณะนี้
“ประชาชนทุกคนทราบปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น แต่ไม่รู้จะแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้อย่างไร แต่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขกฎหมาย หรือกฎระเบียบต่างๆ ให้มีความรัดกุม และเข้มงวดขึ้น ก็พร้อมให้การสนับสนุนเพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น โดยเฉพาะการปฏิรูปการปกครองของรัฐบาล” น.ส.ณัฐรัตน์ กล่าว
ส่วนที่ตลาดหนองมน อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี บรรดาพ่อค้าแม่ค้ามายืนรอเพื่อตรวจรายชื่อผู้มีสิทธิลงประชามติกันตั้งแต่ยังไม่เปิดหีบ เนื่องจากจะต้องรีบไปประกอบการอาชีพ แต่ก็ยังให้ความสำคัญต่อการออกเสียงประชามติในครั้งนี้ เพราะหวังที่จะให้บ้านเมืองอยู่อย่างปกติสุข
ในส่วนของจังหวัดตราด บรรยากาศก่อนการเปิดหีบเลือกตั้งมีฝนตกลงมาในช่วงเช้ามืด และต่อเนื่องถึงการเปิดหน่วยลงประชามติ ทำให้หน่วยลงประชามติบางหน่วยยังไม่มีประชาชนมาใช้สิทธิ แต่บางหน่วยกลับมีผู้มาใช้สิทธิคึกคัก
ที่หน่วยลงประชามติหน่วยที่ 3 วัดไผ่ล้อม ต.บางพระ อ.เมือง จ.ตราด ในเวลา 07.45 น. นายประธาน สุรกิจบวร รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด นายวิสิษฐ์ พงษ์เพชร ปลัดจังหวัด และ พ.ต.อ.บุญส่ง ปีกขุนทด ผกก.เมืองตราด ได้เดินทางมาที่หน่วยเลือกตั้ง และมาใช้สิทธิลงประชามติ มีนายมนตรี เทอดธีระกุล ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดตราด นายชาญ กุมภะ หัวหน้าฝ่ายจัดการเลือกตั้ง คอยต้อนรับ และอำนวยความสะดวก
หลังการใช้สิทธิลงประชามติแล้ว นายประธาน กล่าวว่า บรรยากาศการเดินทางมาใช้สิทธิในการลงประชามติวันนี้ แม้จะมีอุปสรรคจากฝนที่ตกลงมาตั้งเมื่อคืน แต่ตราดถือว่าเป็นเรื่องปกติ และเชื่อว่าประชาชนจะเดินทางมาใช้สิทธิลงประชามติตามเป้าหมาย ซึ่งทางจังหวัดตราด ได้เข้มงวดในเรื่องการกระทำผิดกฎหมายของการลงประชามติ ทั้งนี้ ได้มอบหมายงานให้ผู้รับผิดชอบในแต่ละส่วนได้ดูแลในเรื่องความเรียบร้อยอย่างเต็มที่ ซึ่งที่ผ่านมา ยังไม่มีรายงานถึงปัญหาที่จะเกิดขึ้น
และในเวลา 08.00 น. ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 2 ลานค้าหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ตำบลวัดใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี หลังเปิดหีบบัตรลงคะแนน นายวิทูรัช ศรีนาม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ผู้มีสิทธิในการเลือกตั้ง ลำดับที่ 355 ได้เดินทางมาลงคะแนนเป็นคนแรก โดยมี พล.ต.ต.จรัล จิตเจือจุน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี และนายพจน์ รักความสุข ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดจันทบุรี คณะกรรมการการการเลือกตั้งจังหวัดจันทบุรี และเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งให้การต้อนรับ
บรรยากาศการออกมาใช้สิทธิออกเสียงประชามติในช่วงเช้า ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 2 มีประขาชนทยอยออกมาใช้สิทธิอย่างบางตา เนื่องจากเมื่อคืน และต่อด้วยเช้าวันนี้ได้มีฝนตกลงมา ทำให้บรรยากาศการออกมาใช้สิทธิออกเสียงประชามติยังคงมีประชาชนออกมาใช้สิทธิการออกเสียงประชามติน้อย
แต่ถึงอย่างไรคาดว่าเมื่อฝนหยุดตกก็จะมีประชาชนออกมาใช้สิทธิกันเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ จากการตรวจสอบตามหน่วยเลือกตั้งในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ยังไม่พบปัญหาอุปสรรคแต่อย่างใด สถานการณ์ยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ประจำหน่วยเลือกตั้ง ได้มีการดูแลรักษาความสงบอย่างเข้มข้น ทั้งนี้ หลังจากที่ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้ใช้สิทธิการออกเสียงประชามติเป็นที่เรียบร้อย ก็ได้ออกไปตรวจเยี่ยมตามหน่วยเลือกตั้งต่างๆ ใน 10 อำเภอ
สำหรับจังหวัดจันทบุรี มีหน่วยเลือกตั้งการออกเสียงประชามติ จำนวน 816 หน่วย เป็นหน่วยเลือกตั้งออกเสียงประชามตินอกเขต 3 หน่วย และมีประชากรผู้มีสิทธิในการออกเสียงประชามติ จำนวน 415,220 คน
และที่บริเวณหอประชุมโรงเรียนปราจินราษฎรอำรุง อำเภอเมืองปราจีนบุรี เป็นหนึ่งในหน่วยออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ นอกเขตจังหวัดปราจีนบุรี แบบสมาร์ทการ์ด โดยการใช้เครื่องอ่านบัตรประจำตัวประชาชน และต้องเป็นผู้ที่ลงทะเบียนใช้สิทธิออกเสียงนอกเขตจังหวัด สำหรับผู้ที่มาทำงาน หรืออยู่ในจังหวัดปราจีนบุรี แต่ไม่ได้ย้ายทะเบียนบ้านเข้ามาจังหวัดปราจีนบุรี หรือย้ายทะเบียนบ้านเข้าเขตจังหวัดปราจีนบุรียังไม่ครบ 90 วัน นับถึงวันออกเสียง การลงทะเบียนขอใช้สิทธิออกเสียงนอกเขตจังหวัดครั้งนี้ เป็นการลงทะเบียนใหม่ทั้งหมด มีจำนวนผู้ลงทะเบียนนอกเขตทั้งสิ้น 5,591 คน
โดยวันนี้ นายอุกริช พึ่งโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ได้เดินทางมาร่วมออกเสียงประชามติที่หน่วยนี้เช่นเดียวกัน เนื่องจากได้ลงทะเบียนในการใช้สิทธินอกเขตจังหวัดไว้แล้ว และในช่วงบ่ายของวันนี้ จะมีผู้นำประเทศภูฏาน เดินทางมาร่วมดูงานการออกเสียงประชามติที่โรงเรียนศรีมหาโพธิ อำเภอศรีมหาโพธิอีกด้วย
สำหรับบรรยากาศในช่วงเช้าวันนี้ มีผู้มาใช้สิทธิต่างทยอยเดินทางมาร่วมออกเสียงประชามติกันอย่างต่อเนื่อง คาดว่าในช่วงสายของวันนี้จะมีผู้ใช้สิทธิเดินทางมาร่วมออกเสียงประชามติเพิ่มมากขึ้น
ในจังหวัดปราจีนบุรี ได้จัดให้มีสถานที่ออกเสียงนอกเขตจังหวัด จำนวน 3 แห่ง คือ 1.โรงเรียนปราจิณราษฎรอำรุง อำเภอเมืองปราจีนบุรี 2.โรงเรียนศรีมหาโพธิ อำเภอศรีมหาโพธิ 3.โรงเรียนกบินทร์วิทยา อำเภอกบินทร์บุรี และในประเทศไทยได้จัดให้จังหวัดปราจีนบุรี และจังหวัดลพบุรี เป็นจังหวัดนำร่องในการใช้เครื่องอ่านบัตรประจำตัวประชาชน หรือสมาร์ทการ์ด เพียง 2 จังหวัดในประเทศเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่หอประชุมปางสีดา ชั้นล่าง ศาลากลางจังหวัดสระแก้ว นายธรรมศักดิ์ รัตนธัญญา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้มาตรวจเยี่ยมการออกเสียงประชามติ ณ หน่วยออกเสียงนอกเขตจังหวัด พบว่า ประชาชนได้เดินทางทยอยออกมาใช้สิทธิออกเสียงลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งผู้มีสิทธิออกเสียงที่ลงทะเบียนไว้ออกมาใช้สิทธิอย่างคึกคัก
บรรยากาศทางด้านอาคารอเนกประสงค์ ร.ร.บ้านใหม่ถาวร หน่วยออกเสียงที่ 2 หมู่ 2 ตำบลสระขวัญ และอำเภอวังน้ำเย็นก็เช่นกัน ได้มีประชาชนทยอยออกมาใช้สิทธิ โดยมีลูกเสืออาสา กกต.อำนวยความสะดวกในการช่วยเหลือตรวจประชาวชนในการตรวจสอบหารายชื่ออีกด้วย
สำหรับข้อมูลจังหวัดสระแก้ว มีผู้มีสิทธิออกเสียงลงประชามติในพื้นที่ 9 อำเภอ ทั้งสิ้น 554,064 คน ผู้มีสิทธิในการเลือกตั้ง จำนวน 419,322 คน ส่วนผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิออกเสียงนอกเขต 1,447 คน มีจำนวนหน่วยออกเสียงประชามติรวมทั้งสิ้น 808 หน่วย
สำหรับ นางไข่ มนทะรักษา อายุ 104 ปี กล่าวว่า ถึงแม้ว่าตนจะมีอายุเยอะแล้ว ร่างกายก็ยังแข็งแรงอยู่ ยังเดินออกไปใช้สิทธิทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง และในวันนี้ตนก็ยังจะออกไปใช้สิทธิอย่างแน่นอนถึงแม้ว่าจะเขียนหนังสือไม่ได้ เพื่อประชาธิปไตย คนไทยจะไม่มีคนโกงอีกต่อไป