ศูนย์ข่าวขอนแก่น - “เจ๊เบียบ” พร้อมพยานในคดีสมาคมสื่อฯ ขอนแก่น แจ้งเอาผิด “หมอเปรม” หมิ่นประมาทหารับเงินร่วมโค่นล้มตนเข้าให้ปากคำ พนง.สอบสวน ย้ำเป็นเงินสมาคมสื่อฯ มอบช่วยเหลือผู้ป่วยเอดส์ ชี้กรณีปัญหาที่เกิดขึ้นกับหมอเปรมต้องไม่เงียบหาย ข้อเท็จจริงต้องปรากฏต่อสังคม หากเงียบพร้อมตามจี้เพราะทำงานด้านสิทธิเด็กและสตรีมานาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ (5 ส.ค.) ที่ศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า (ศปก.) สภ.เมืองขอนแก่น นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช อดีต ส.ว.ขอนแก่น ในฐานะนายกสมาคมส่งเสริมครอบครัวให้เป็นสุขและอบอุ่น พร้อมด้วยนางดารุณี พาลุสุข อดีตนายกเหล่ากาชาด จ.พังงา, พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมสื่อมวลชนขอนแก่น และนายสุทน นิลหุต ช่างภาพสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีขอนแก่น กรมประชาสัมพันธ์ ได้เข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ตามหมายเรียกของพนักงานสอบสวน โดยมี พล.ต.ต.จิตรจรูญ ศรีวนิชย์ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น, พ.ต.อ.นพดล เพ็ชรสุทธิ์ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น และ พ.ต.ท.ถวัลย์ สุทธาวรัตน์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองขอนแก่น ร่วมสอบปากคำ
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา สมาคมสื่อมวลชนขอนแก่นเข้าแจงความดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาทและกระทำผิดต่อ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ต่อ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองบ้านไผ่ ที่โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่านางระเบียบรัตน์มอบเงิน 5,000 บาทให้แก่สื่อมวลชนเพื่อหวังผลทางการเมืองโค่นล่มตน เป็นความพยายามกระทำการเป็นขบวนการ
นางระเบียบรัตน์กล่าวว่า ภาพที่ปรากฏผ่านสื่อมวลชนที่ถูกนำมาโพสต์ในข้อความส่วนตัวของ นพ.เปรมศักดิ์ เป็นการจัดงานทอดผ้าป่าการกุศลเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วย H.I.V. เป็นการจัดงานบุญที่ได้ดำเนินการต่อเนื่องทุกปี มีหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนร่วมให้การสนับสนุนและช่วยเหลือผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก ซึ่งการให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจวันนี้เป็นการพูดตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ยืนยันว่าภาพดังกล่าวเป็นภาพที่สมาคมสื่อมวลชนขอนแก่นร่วมทำบุญเป็นจำนวนเงิน 5,000 บาทไม่ได้เป็นการให้เงินตามที่ นพ.เปรมศักดิ์กล่าวอ้างแต่อย่างใด โดยส่วนตัวก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงคิดแบบนั้นกับงานบุญงานกุศล ดังนั้นเรื่องนี้ก็ต้องว่ากันไปตามความจริงและโดยส่วนตัวแล้วจะขอติดตามเรื่องนี้อย่างถึงที่สุด
นางระเบียบรัตน์กล่าวอีกว่า การเป็นคนสาธารณะทำอะไรก็ต้องระวังตัวเองให้มาก เรื่องนี้ได้คุยกับครอบครัวแล้วว่าจะไม่มีการฟ้องกลับเพื่อดำเนินคดีต่อ นพ.เปรมศักดิ์ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นก็หนักพออยู่แล้ว ทั้งการต้องตอบกับครอบครัวและสังคม คนทำอะไรดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว คนอย่างระเบียบรัตน์ทำงานการเมืองมานาน การมาบอกว่าเป็นการทำเป็นขบวนการเพื่อหวังผลทางการเมืองนั้นจะทำเพื่ออะไร
“สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นกับ นพ.เปรมศักดิ์และสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางนั้น จำเป็นต้องทำความจริงให้ปรากฏ เพราะเป็นคดีและเหตุการณ์ที่ประชาชนให้ความสนใจและติดตามอย่างมาก เชื่อว่าเรื่องนี้จะไม่เงียบ หากเงียบเฉยหรือไม่มีความคืบหน้าทางคดี โดยส่วนตัวจะขอตามเรื่องเองเพราะทำงานด้านสิทธิของเด็กและสตรีมาโดยตลอด เรื่องนี้ต้องมีคำตอบและความจริงเท่านั้น” นางระเบียบรัตน์กล่าว