ศูนย์ข่าวขอนแก่น - “เจ๊เบียบ” รับไม่ได้ข่าวฉาวปมปัญหาแต่งงานเด็ก ม.5 ระหว่าง “สื่อ-หมอเปรม” เหตุทำภาพลักษณ์เมืองหมอแคนเสียหาย เชื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโกหกคำโตไม่ยอมรับความจริง ชี้ “ความล่าช้าของความยุติธรรมคือความอยุติธรรม” ส่วนกรณีหมอเปรมตระเวนยื่นหนังสือ กสทช.-นายกฯ สั่งปิดสื่อเป็นสิทธิ เพราะข่าวเน่าที่เกิดขึ้นกระทบอนาคตการเมือง
วันนี้ (29 ก.ค.) ที่หอประประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ขอนแก่น นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช นายกสมาคมเสริมสร้างครอบครัวให้อบอุ่นและเป็นสุขได้แสดงความเห็นกรณีเหตุการณ์อื้อฉาว นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองบ้านไผ่ อ.บ้านไผ่ คุกคามกักขังหน่วงเหนี่ยวสื่อมวลชนถึงขั้นสั่งลูกน้องจับผู้สื่อข่าวถอดกางเกงและถ่ายรูป
นางระเบียบรัตน์กล่าวว่า หลังเกิดเหตุและมีข่าวแพร่สะพัดออกไป ตนรู้สึกไม่สบายใจที่เกิดเรื่องราวดังกล่าวขึ้นทำให้จังหวัดขอนแก่นเสียชื่อเสียงเสียภาพลักษณ์ ที่สำคัญคู่กรณีทั้งฝ่ายผู้สื่อข่าวและ นพ.เปรมศักดิ์ต่างก็เป็นบุคคลสาธารณะ หากจังหวัดขอนแก่นจะเป็นข่าวตามสื่อต่างๆ ก็อยากให้เป็นเรื่องราวดีๆ มากกว่า ไม่อยากให้มีปมประเด็นเกี่ยวกับพฤติกรรมผิดศีลธรรมเข้ามาเกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นบทเรียนอันล้ำค่าที่จะทำให้บุคคลสาธารณะโดยเฉพาะผู้บริหารท้องถิ่นมีจิตสำนึกในการวางตัวให้เหมาะสมมากขึ้น
“จากการติดตามข่าวดังกล่าวเชื่อว่าจะต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่โกหกไม่ยอมรับความจริง ต้องให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินการค้นหาความจริงออกมาว่าเรื่องจริงมันคืออะไร อีกไม่นานความจริงต้องปรากฏออกมาแน่นอน แต่เชื่อว่าฝ่ายที่ผิดเขารู้แก่ใจตัวเองอยู่แล้ว” นางระเบียบรัตน์กล่าว และว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกฝ่ายได้รับผลกระทบทางสังคมกันหมด ทั้งฝ่ายผู้สื่อข่าว ฝ่าย นพ.เปรมศักดิ์ และฝ่ายเด็กนักเรียนผู้หญิง ชั้น ม.5 ที่ถูกพาดพิง และเป็นปมประเด็นที่ทำให้ผู้สื่อข่าวต้องตามขอสัมภาษณ์ขอคำอธิบายข้อเท็จจริงจากปาก นพ.เปรมศักดิ์ ดังนั้นในตอนนี้จึงไม่สามารถบอกได้ว่าฝ่ายใดถูกฝ่ายใดผิดเพราะต้องรอผลการสอบสวนหาข้อเท็จจริงให้ชัดเจนก่อน
ต่อข้อถามที่ว่า หากกระบวนการสอบสวนหาข้อเท็จจริงทั้งในส่วนของคณะกรรมการฯ ที่ทางจังหวัดตั้งขึ้นมีปลัดจังหวัดเป็นประธาน และในส่วนของคดีความที่ฝ่ายสื่อมวลชนในฐานะเผู้เสียหายแจ้งความเอาไว้ที่ สภ.บ้านไผ่ เป็นไปด้วยความล่าช้าและหวั่นว่าในที่สุดเรื่องจะเงียบหายไป นางระเบียบรัตน์กล่าวว่า เรื่องนี้จะปล่อยให้เงียบไม่ได้ ต้องทำความจริงให้ปรากฏเร็วที่สุด แต่หากเรื่องล่าช้าหรือเงียบหายไป ทั้งสื่อมวลชนและสังคมต้องช่วยกันติดตาม ในส่วนของตนในฐานะนายกสมาคมเสริมสร้างความครัวให้อบอุ่นฯ ก็จะขอติดตามความคืบหน้าด้วยเช่นกัน อย่าลืมว่าความล่าช้าของความยุติธรรมคือความอยุติธรรม
นางระเบียบรัตน์ได้แสดงความเห็นต่อกรณีที่ นพ.เปรมศักดิ์ตระเวนยื่นหนังสือถึงหลายหน่วยงานในส่วนกลาง ทั้ง กสทช. และสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อให้สอบสวนกรณีที่เกิดขึ้น อ้างว่าถูกสื่อคุกคามการทำงานของเจ้าหน้าที่ และต้องการให้สั่งปิดสื่อ ว่าเป็นสิทธิของ นพ.เปรมศักดิ์ เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบความผิดทางวินัยในตำแหน่งหน้าที่การทำงาน ก็ว่ากันไปตามกระบวนการของกฎระเบียบ กฎหมาย