เลย - จับได้แล้วคนร้ายกระชากสร้อยทองคำขณะผู้เสียหายขับขี่จักรยานยนต์บนทางเปลี่ยว ล่าสุดก่อเหตุใน อ.หนองหิน สารภาพตระเวนกระชากสร้อยมาแล้วถึง 9 ครั้ง มุ่งเลือกแต่เหยื่อที่เป็นผู้หญิง และคนชรา
หลังมีการแชร์โพสต์ในโลกโซเซียลมีเดียจากผู้โพสต์ในชื่อ กิ๊ก บิวตี้ ในพื้นที่ อ.หนองหิน จ.เลย เหตุการณ์กระชากสร้อยคอทองคำผู้ขับขี่จักรยานยนต์ ได้ทองคำไป 1 สลึง ทำให้ผู้เสียหายตกลงจากรถ บาดเจ็บสาหัส เหตุการณ์ผ่านมาแล้วร่วม 1 อาทิตย์ ล่าสุดขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว
นางอุไรวรรณ บรรพศรี บ้านเลขที่ 389 หมู่ 1 ต.หนองหิน อ.หนองหิน จ.เลย เล่าว่า เมื่อวานนี้ (4 ส.ค.) เวลา 10.10 นาที ขณะที่ตนขับขี่จักรยานยนต์ออกจากปั๊มน้ำมันในตัวอำเภอหนองหินเพื่อเดินทางกลับบ้าน เมื่อผ่านมาถึงถนนหน้าตลาดได้มีมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งขี่เบียดเข้ามาพร้อมใช้มือกระชากมาที่คอเพื่อจะดึงสร้อยคอทองคำหนัก 50 สตางค์ แต่ในช่วงที่ถูกกระชากสร้อยนั้นตนก็กำสร้อยไว้จึงทำให้คนร้ายได้สร้อยไปเพียงครึ่งหนึ่ง
หลังเกิดเหตุได้ไปแจ้งความต่อร้อยเวร สภ.หนองหิน จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาดูกล้องวงจรปิดในบริเวณที่เกิดเหตุ และได้นำสร้อยคอทองคำที่เหลือไปชั่ง ทราบว่าได้หายไป 1 สลึง โดยรูปพรรณคนร้ายอายุน่าจะประมาณ 25-30 ปี ผอม สูง ผิวขาว ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน ขับขี่จักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า มีโอ สีน้ำเงิน ไม่มีป้ายทะเบียน
ด้าน พ.ต.อ.สุจินต์ นาวาเรือน ผกก.สภ.วังสะพุง วันนี้ (5 ส.ค.) ได้นำตัวผู้ต้องหามาแถลงข่าวที่หน้า สภ.วังสะพุง และกล่าวว่าหลังเกิดเหตุเจ้าทุกข์ได้มาแจ้งความไว้ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังสะพุง จึงได้ออกติดตามไปที่เกิดเหตุพบนายพนม ยอดกระโหม ทราบชื่อที่อยู่ภายหลัง อายุ 46 ปี อยู่ 232 หมู่ 14 ต.โนนเพิ่ม อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ขับขี่จักรยานยนต์หลบหนีมาตามถนนสายบ้านโนนวังแท่นจึงสกัดจับกุมตัวไว้ได้
จากการสอบสวนนายพนมรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์และชิงทรัพย์จริง โดยได้กระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวมาแล้ว 9 ครั้ง ทั้งในพื้นที่ สภ.วังสะพุง จำนวน 4 ครั้ง, พื้นที่ สภ.เมืองเลย จำนวน 4 ครั้งและภายในพื้นที่ สภ.หนองหิน จำนวน 1 ครั้ง ใช้จักรยานยนต์ดังกล่าวเป็นพาหนะ หลังก่อเหตุแต่ละครั้งก็จะนำจักรยานยนต์ไปพ่นสีรถใหม่ เช่น สีแดง น้ำเงิน ม่วง ฟ้า แล้วนำไปก่อเหตุในพื้นที่อื่นต่อ ตระเวนเลือกเยื่อที่เป็นผู้หญิง คนแก่เป็นหลัก