เชียงใหม่ - นักธุรกิจสาวเชียงใหม่หอบเอกสารทั้งใบแจ้งความ-หนังสือร้องทุกข์ เข้าร้องเรียน กอ.รมน. ครวญโดนสาวแสบตีสนิท เอาเช็ค-ที่ดิน บ้าน รถยนต์คนอื่นมาหลอกยืมเงิน 8 เดือนสูญไปแล้วร่วม 2 ล้านบาท ต้องแจ้งความแล้ว 7 คดี บอกเชียงใหม่-ลำพูนโดนกันอีกเพียบ แม่ค้าหน้ามอฯ ยังโดน แถมอาละวาดไม่หยุดล่าสุดคนพร้าว เจอตุ๋นอีกร่วม 3 ล้านบาท
นางสาวชาลี ฟูตระกูลชัย อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 71/8 หมู่ 1 ต.หนองป่าครั่ง อ.เมืองเชียงใหม่ นักธุรกิจสาวได้นำเอกสารจำนวนมากส่วนใหญ่เป็นใบแจ้งความ-สำเนาร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรม เข้าร้องเรียนต่อ พ.ท.พนม ศรีเผือด เจ้าหน้าที่กลุ่มงานกิจการมวลชน กอ.รมน.จว.เชียงใหม่ เมื่อเร็วๆ นี้ กรณีถูกนางสาววิกานดา เชษฐธง หรือ ตราทองแท้ หลอกลวงฉ้อโกงจำนวนมาก
นางสาวชาลี ผู้เสียหายเปิดเผยว่า ภายในระยะเวลาราว 8 เดือนเศษที่ผ่านมาตนถูกนางสาววิกานดาฉ้อโกงเสียหายไปแล้วร่วม 2 ล้านบาท ต้องตามไล่ฟ้องเป็นคดีความแล้วถึง 7 คดี และเท่าที่ทราบยังมีผู้เสียหายในท้องที่เชียงใหม่ และลำพูน รวมกันอีกหลายสิบราย เฉพาะที่มีคดีความขึ้นโรงขึ้นศาลแล้วติดต่อประสานงานกันผ่านกลุ่มไลน์ที่ตั้งขึ้นก็มีอยู่ 19 รายแล้ว
“ที่เข้ามาร้องเรียน กอ.รมน.ครั้งนี้เพราะอยากให้ทางส่วนราชการเข้ามาจัดการกรณีนี้อย่างเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นจะมีผู้เสียหายเพิ่มขึ้นแน่นอน ซึ่งล่าสุดก็มีคนทาง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ถูกหลอกเสียหายไปอีกร่วม 3 ล้านบาทแล้ว และเท่าที่ทราบ น.ส.วิกานดาก็ยังคงตระเวนไปตามพื้นที่ชนบท-พื้นที่สูง หลอกยืมที่ดิน เงินทองอยู่ต่อเนื่อง”
นางสาวชาลีกล่าวอีกว่า ถ้าเรื่องนี้เป็นข่าวเชื่อว่าจะมีผู้เสียหายเปิดเผยตัวเพิ่มขึ้นอีกมากแน่นอน ที่ผ่านมาหลายคนไม่กล้าที่จะแสดงตัวเพราะกลัว เนื่องจากระหว่างขึ้นโรงขึ้นศาล คู่กรณีคือ น.ส.วิกานดาจะมีชายฉกรรจ์ตามมาด้วยทุกครั้ง และบางครั้งก็อ้างว่าเป็นทหารด้วย จึงอยากให้มีการตรวจสอบจัดการอย่างเร่งด่วน
นางสาวชาลีเล่าถึงพฤติกรรมของ น.ส.วิกานดาว่า จะเข้ามาตีสนิท มาช่วยเหลือก่อน โดยจะดูจุดอ่อนของเหยื่อ เช่น ตน พอเห็นว่าเป็นคนใจบุญชอบช่วยเหลือคน เห็นใจคนง่าย ก็จะใช้จุดนี้หลอกลวง ส่วนแม่ค้าที่หน้ามหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง น.ส.วิกานดาก็จะเข้าไปตีสนิท ไปช่วยเปิดร้านบ้าง พอรู้ว่ามีเงินก็จะขอหยิบยืมเอาเช็คมาค้ำประกัน หรือเอาโฉนด เอารถมาวาง
แต่พอเอาเช็คไปขึ้นเงินเด้งหมด ขณะที่ น.ส.วิกานดาก็จะไปแจ้งเช็คหาย เช็คโดนขโมยบ้าง บางครั้งก็เอาโฉนดที่ดินของอีกคน หรือเอารถยนต์ที่บางคันไปหลอกคนอื่นให้ซื้อ แล้วอ้างว่าจะเอาไปให้ชาวต่างชาติเช่าต่อ มาวางค้ำประกันในการยืมเงิน บางครั้งก็เอาที่ดินชาวบ้านไปหลอกขายบ้าง พอตรวจสอบกลับพบว่าทรัพย์สินที่นำมาค้ำนั้นเป็นของคนอื่นแทบทั้งหมด
ด้านเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.จว.เชียงใหม่บอกว่า จะรับเรื่องไว้เพื่อรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
