xs
xsm
sm
md
lg

2 คนร้ายอ้างเป็น นศ.ม.ดังเมืองหาดใหญ่ วางแผนแยบยลฉกทองกลางร้านหนีลอยนวล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - 2 คนร้ายชายหญิงอ้างเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดัง ก่อเหตุลักทรัพย์ในร้านทองกลางเมืองหาดใหญ่ ได้สร้อยข้อมือทองคำ 3 เส้น น้ำหนัก 1 บาท 50 สตางค์ มูลค่า 35,100 บาท หลบหนีไปอย่างลอยนวล

วันนี้ (20 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.กิตติชัย สังขถาวร ผกก.สภ.หาดใหญ่ พ.ต.ท.รณน สุระวิทย์ รอง ผกก.ป. รับแจ้งเกิดเหตุลักทรัพย์ขึ้นที่ร้านทอง “ห้างทองไทยโชคชัย” ตั้งอยู่เลขที่ 17 ถนนธรรมนูญวิถี ย่านหน้าสถานีรถไฟหาดใหญ่ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา หลังจากไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ทราบว่า คนร้ายได้ทองรูปพรรณหนักไป 1 บาท 50 สตางค์ มูลค่า 35,100 บาท เป็นสร้อยข้อมือ 3 เส้น หนักเส้นละ 50 สตางค์
 

 
จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่า คนร้ายมี 2 คน เป็นชายและหญิง อายุประมาณ 20-25 ปี โดยผู้หญิงทำทีเข้ามาขอดูทอง ส่วนผู้ชายนั่งคร่อมรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ 110 ไอ สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน สตาร์ทเครื่องรออยู่หน้าร้าน แต่ระหว่างที่เจ้าของร้านเผลอคนร้ายได้หยิบทองรูปพรรณเดินออกจากร้านอย่างใจเย็นไปขึ้นรถจักรยานยนต์ และได้รีบขับขี่ออกไปอย่างรวดเร็ว

นายเอกพล เชียรวิจิตรพันธ์ อายุ 57 ปี เจ้าของร้านเผยว่า คนร้ายทั้ง 2 คนได้มาทำทีขอดูทองรูปทองพรรณน้ำหนัก 50 สตางค์ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ โดยอ้างว่าเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งใน อ.หาดใหญ่ โดยบอกว่า อาจารย์ให้มาซื้อ และได้สำรวจราคามาแล้วหลายร้าน และร้านนี้ราคาถูกที่สุดจึงได้ตกลงราคากันเรียบร้อย พร้อมกับนัดมาซื้อทองในวันนี้
 

 
โดยระหว่างที่ดูทองกันอยู่ในร้านคนร้ายยังได้เขียนชื่ออาจารย์ระบุชื่อ อาจารย์สุนิสา จันทร์มาลา พร้อมเบอร์โทรศัพท์ และชื่อของตัวเอง คือ น.ส.สุภาพร นวลจันทร์ พร้อมเบอร์โทรศัพท์ของตัวเองเอาไว้ด้วย โดยอ้างว่า อาจารย์จะมาตรวจสอบว่าซื้อมาในราคาเท่าไหร่ และซื้อจากร้านนี้จริงหรือไม่ แต่ปรากฏว่า ระหว่างที่หันไปคุยกับลูกค้าอีกคน คนร้ายได้หยิบทองรูปพรรณทั้ง 3 เส้น เดินออกไปจากร้าน และขึ้นรถจักรยานยนต์ขี่หลบหนีไปอย่างลอยนวล

แต่หลังจากที่ตำรวจได้ตรวจเช็กชื่ออาจารย์พร้อมกับเบอร์โทรศัพท์ที่ให้ไว้ ปรากฏว่า ทั้งเบอร์ และชื่อไม่มีตัวตน และไม่สามารถติดต่อได้ ส่วนชื่อ และเบอร์โทรศัพท์ของหญิงสาวคนนี้ก็ไม่มีเช่นกัน โดยเชื่อว่าเป็นเพียงกลอุบายที่หลอกเจ้าของร้านเท่านั้น หลังเกิดเหตุทั้งตำรวจสายตรวจ และชุดสืบสวนพยายามวิทยุสกัดจับคนร้ายตามเส้นทางที่คาดว่าจะหลบหนีแต่ยังไร้วี่แวว
 

 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น