xs
xsm
sm
md
lg

ทำไปก็ไม่เหลือ! ชาวนาอุทัยฯ ทุกข์หนัก พ้นแล้งเจอราคาพันธุ์ข้าวแพงมหาโหดซ้ำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


อุทัยธานี - ชาวนาอุทัยธานี เคราะห์ซ้ำ กรรมซัด เพิ่งพ้นแล้งนึกว่าจะได้ทำนา กลับเจอวิกฤตราคาพันธุ์ข้าวแพงลิ่ว บางรายสู้ราคาไม่ไหว บอก “ทำไปก็ไม่เหลือ หนำซ้ำอาจขาดทุนย่อยยับ” ต้องหยุดทำนาไปก่อน วอนรัฐตรวจสอบ ควบคุมด่วน

วันนี้ (31 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ท่ามกลางฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผืนนาทั่วทั้งจังหวัดอุทัยธานี ที่เคยแล้งแบบสาหัสสากรรจ์มาไม่นาน มีน้ำเจิ่งนองพอที่จะทำนาแล้ว ชาวนาในทุกพื้นที่จึงได้แห่กันลงมือไถนานาหว่านข้าวกันอย่างคึกคักนั้น

แต่ปรากฏว่า ยังมีชาวนาอีกจำนวนมากที่ทำนาปีที่ผ่านมาแล้วไม่ได้ผลผลิต ไม่มีเมล็ดพันธุ์ข้าวเก็บไว้ กลับต้องผจญต่อปัญหาราคาเมล็ดพันธุ์ข้าวที่ปรับราคาแพงขึ้นเกือบเท่าตัว เช่น พันธุ์ขอมหอมประทุม จากจากราคาถังล่ะ 160 บาท ขึ้นเป็นถังละ 250 บาท พันธุ์ข้าว 57 จากราคาถังละ 160 บาท ขึ้นเป็นถังละ 230 บาท พันธุ์ข้าว 41 จากราคาถังละ 160 บาท ขึ้นเป็นถังละ 220 บาท และพันธุ์ข้าว 61 จากราคา 150 บาท ขึ้นเป็นถังละ 180 ซึ่งพันธุ์ข้าว 61 เป็นพันธุ์ข้าวอายุสั้นถือว่าขึ้นน้อยที่สุด

ชาวนาบอกว่า ราคาพันธุ์ข้าวขึ้นสูงมากเกินไปทำให้ต้นทุนในการทำนาสูงขึ้น และไม่รู้ว่าพอถึงฤดูเก็บเกี่ยวแล้วราคาข้าวจะเป็นอย่างไร หากราคายังเป็นเช่นปัจจุบัน คือ ตันละ 5,000-6,000 บาท ต้องขาดทุนอย่างแน่นอน โดยเฉพาะชาวนาที่ต้องเช่านาทำ จนหลายรายไม่กล้าเสี่ยงทำ บอกเลิกเช่านา หันไปรับจ้างไถนาหว่านข้าวแทน พอให้มีรายได้ไปเลี้ยงครอบครัวในช่วงที่ไม่ได้ทำนา

“เราอยากเรียกร้องไปยังภาครัฐ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ไปตรวจสอบ และให้มีการควบคุมราคาพันธุ์ข้าวอย่างเร่งด่วน ป้องกันร้านค้าฉวยโอกาสโดยเร็ว”

ทางด้านเถ้าแก่ร้านค้าจำหน่ายพันธุ์ข้าว รายหนึ่งในอุทัยธานี บอกว่า ขณะนี้พันธุ์ข้าวชนิดต่างๆขาดตลาดหมด และยังมีค่าขนส่งที่ต้องไปรับพันธุ์ข้าวจากจังหวัดอื่นมาขาย จึงทำให้ราคาพันธุ์ข้าวสูงตามไปด้วย แต่ก็พยามขายให้ได้ราคาต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้




กำลังโหลดความคิดเห็น