ศูนย์ข่าวภาคเหนือ - เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารประจำด่านตรวจสบปราบ รวบ 3 หนุ่มชาวเขา 1 สาวพม่า ใช้เทปกาวพันยาบ้า-ไอซ์ รอบเอวนั่งรถทัวร์จากเชียงใหม่ เตรียมส่งลูกค้าเมืองกรุง อ้างมีคนจ้างขน แถมโอนเงินให้ก่อนคนละหมื่น
วันนี้ (28 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก พล.ต.ต.นิยม ด้วงสี ผบก.ภ.ลำปาง กำชับสั่งการให้เจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจยาเสพติด ตรวจเข้มยานพาหนะที่สัญจรผ่านไปมาที่ด่านตรวจ เนื่องจากหลังเทศกาลวันหยุดยาวมักจะมีผู้แอบลักลอบลำเลียงยาเสพติดผ่านพื้นที่
ล่าสุด เมื่อคืนที่ผ่านมา (27 ก.ค.) ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สบปราบ และเจ้าหน้าที่ทหาร ร.17 พัน 2 ค่ายสุรศักดิ์มนตรี ประจำด่านตรวจยาเสพติด บริเวณถนนพหลโยธินขาล่อง ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 654-655 หมู่ 15 ต.สบปราบ อ.สบปราบ จ.ลำปาง ได้เข้าตรวจคนรถบัสโดยสารของบริษัทนิววิริยะยานยนต์ทัวร์ กรุงเทพฯ-ท่าตอน (จ.เชียงใหม่) หมายเลขทะเบียน 10-2903 ลำปาง หมายเลขข้างรถ 13-3 ที่ขับเข้ามาบริเวณด่านตรวจ
ขณะเจ้าหน้าที่ได้ขึ้นตรวจค้นผู้โดยสาร สัมภาระคนบนรถ พลทหารธีรพงษ์ วงศ์ษา สังกัด ร.17 พัน.2 เดินตรวจบนรถพบว่า มีชายหญิงจำนวนทั้งสิ้น 4 คน ซึ่งเป็นชาวไทยภูเขา และชาวพม่า คือ
1.นายประสงค์ จารุจรรยาวงศ์ อายุ 66 ปี (เผ่าลีซอ) 2.นายประเสริฐ จารุจรรยาวงศ์ อายุ 58 ปี (เผ่าลีซอ) 3.นายจิรศักดิ์ จารุจรรยาวงศ์ อายุ 33 ปี (เผ่าลีซอ) และ 4.นางเอ ไม่มีนามสกุล อายุ 42 ปี สัญชาติพม่า แสดงท่าทางมีพิรุธ จึงเชิญตัวทั้ง 4 คนลงจากรถ และขอทำการตรวจค้นอย่างละเอียด
เมื่อทั้ง 4 คน เปิดเสื้อให้เจ้าหน้าที่ตรวจพบทั้ง 4 คน มีการใช้เทปพันติดรอบเอว เมื่อแกะออกดูพบยาบ้า และยาไอซ์ซุกซ่อนอยู่ใต้ผ้าเทปดังกล่าว รวมยาบ้า จำนวน 20,000 เม็ด และยาไอซ์ จำนวน 3.24 กิโลกรัม
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 4 คน รับสารภาพว่า ได้รับการติดต่อว่าจ้างทางโทรศัพท์จากชายไม่ทราบชื่อ และนามสกุลจ้างให้พวกตนขนยาบ้า และยาไอซ์เข้าพื้นที่ชั้นใน โดยได้รับค่าจ้างโอนเข้าบัญชีก่อนคนละ 10,000 บาท โดยให้ไปรับกระเป๋าสีดำบรรจุยาเสพติดของกลางวางอยู่ตรงเสาไฟฟ้า และรับตั๋วโดยสาร แล้วนั่งรถบัสเดินทางจากเชียงใหม่ไปสถานีหมอชิต
จากนั้นจะมีคนโทรศัพท์มาติดต่อนัดหมายอีกครั้ง แต่ยังเดินทางไปไม่ถึงจุดหมายก็มาถูกเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจที่ด่านตรวจสบปราบ อ.สบปราบ จ.ลำปาง จับกุมได้เสียก่อน
หลังจากนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวทั้ง 4 คน ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อขยายผล และติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
