บุรีรัมย์ - ผู้การตำรวจบุรีรัมย์ สั่งรื้อคดี “ไอ้อ๊อฟ” หื่นผู้ต้องหาดักถีบ จยย.ลากพยาบาลสาวไปข่มขืนทำร้ายร่างกาย และชิงทรัพย์ ขึ้นมาสอบสวนใหม่อีกครั้ง หลังผู้ปกครองพาบุตรสาวบุกร้องขอความเป็นธรรมถูกไอ้อ๊อฟข่มขืนเมื่อต้นปี 58 เบื้องต้น พบมีการแจ้งความจริงแต่ไกล่เกลี่ยชดใช้ค่าเสียหาย ทั้งที่เป็นคดีไม่สามารถยอมความได้เนื่องจากเป็นคดีอาญา พร้อมเตรียมตั้ง กก.สอบตำรวจปล่อยปละละเลย
วันนี้ (27 ก.ค.) ความคืบหน้ากรณีที่ นายปกครอง หรืออ๊อฟ ดินไธสง อายุ 24 ปี ชาว อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ก่อเหตุถีบรถจักรยานยนต์ผู้ช่วยพยาบาลสาว ขณะขับรถไปเข้าเวรที่โรงพยาบาล ก่อนใช้กำลังฉุดกระชากลากไปข่มขืนบริเวณป่ายูคาลิปตัสข้างทาง บ้านจิกใหญ่ ต.คูเมือง อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ กลางดึกวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา ทั้งได้ชิงทรัพย์ และทำร้ายร่างกายเหยื่อจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกนำส่งโรงพยาบาล ต่อมา นายปกครอง ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ และนำตัวส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น เพื่อสนองความต้องการของผู้กระทำ โดยใช้กำลังประทุษร้าย และลักทรัพย์ของผู้อื่นนั้น
ขณะนี้ นายปกครอง ผู้ต้องหาได้ถูกส่งตัวเข้าฝากขังผลัดแรกที่เรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์แล้ว ขณะที่ทางพนักงานสอบสวนกำลังเร่งรวบรวมหลักฐาน และสอบปากคำพยานแวดล้อมเพื่อสรุปสำนวนส่งอัยการจังหวัดพิจารณาสั่งฟ้อง
ล่าสุด ได้มีผู้ปกครองของ ด.ญ.อายุ 14 ปี พาบุตรสาวเข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) บุรีรัมย์ ว่า บุตรสาวของตัวเองซึ่งขณะนั้นเรียนอยู่ชั้น ป.6 ได้ถูก นายปกครอง หรืออ๊อฟ บังคับข่มขืนกระทำชำเรา โดยหลังเกิดเหตุได้พาบุตรสาวเข้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.คูเมือง แล้ว เมื่อเดือนมกราคม ปี 2558 แต่มีการไกล่เกลี่ยชดใช้ค่าเสียหายกันเท่านั้น ไม่ได้มีการดำเนินคดีต่อ นายปกครอง ตามกฎหมาย ซึ่งสอดคล้องต่อคำให้การของผู้ต้องหาด้วย
หลังจาก พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ ได้รับการร้องเรียนจากผู้ปกครองของเด็กหญิงที่ตกเป็นเหยื่ออีกราย จึงได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.สุรพล มุ่งมา รอง ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ ได้รื้อคดีดังกล่าวกลับมาสืบสวนสอบสวนใหม่อีกครั้ง โดยเบื้องต้น จากการตรวจสอบเอกสารพบว่ามีการแจ้งความคดีดังกล่าวจริงเมื่อเดือนมกราคม 2558 แต่ไม่ปรากฏว่ามีการดำเนินคดีต่อผู้ถูกกล่าวหา ทราบเพียงว่ามีการไกล่เกลี่ยชดใช้ค่าเสียหายกันเท่านั้น ทั้งที่คดีดังกล่าวเป็นคดีอาญาไม่สามารถยอมความได้ จึงได้สั่งแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนคดีดังกล่าวใหม่อีกครั้ง หากพบว่า นายปกครอง หรืออ๊อฟ มีพฤติการณ์กระทำผิดจริงตามที่ถูกผู้เสียหายแจ้งความร้องทุกข์จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเสนอต่อศาลให้พิจารณาเพิ่มโทษอีก พร้อมทั้งจะสอบสวนด้วยว่าทำไมพนักงานสอบสวนจึงไม่ดำเนินการในคดีดังกล่าว
