MGR Online - ตำรวจภูธรภาค 1 แถลงข่าวโชว์ผลงานกวาดล้างอาชญากรรมการ 3 คดี รวบผู้ต้องหา 5 รายนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
วันนี้ (13 ก.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ห้องประชุมเอราวัณ ชั้น 3 กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สุศักดิ์ ปรักกมะกุล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.วสันต์ บุญเจริญ รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.จักรกฤช วีระเดช ผกก.สภ.วิหารแดง พ.ต.อ.ธีรภพ รุมแสง ผกก.สาขลา แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดีสำคัญ 3 คดี มีผู้ต้องหา 5 ราย
คดีแรก ตำรวจ สภ.วิหารแดง จ.สระบุรี จับกุม น.ส.นัตฐิยา หรือจิ๊บ ทองสุวรรณ อายุ 29 ปี, นายเอกสิทธิ์ หรือเอก ศรีหาญ อายุ 30 ปี, นายสายัณห์ หรือบัง ดวงแก้ว อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาคดีนำศพนายสิงห์หา เหล็กสลุง อำพรางทิ้งคลองส่งน้ำระพีพัฒน์ ม.4 ต.หนองหมู อ.วิหารแดง จ.สระบุรี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 ก.ค. 59 ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดย พล.ต.ท.ชัยวัฒน์กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบศพชายไทยไม่ทราบชื่อบริเวณคลองส่งน้ำระพีพัฒน์ สภาพถูกมัดมือมัดเท้า ผ้ามัดคลุมศีรษะ ท่อนล่างไม่สวมกางเกง มีบาดแผลถูกตีที่ศีรษะ เสียชีวิตมาประมาณ 3 วัน คาดสาเหตุเกิดจากการประสงค์ต่อทรัพย์คือรถยนต์แท็กซี่ของผู้เสียชีวิต ต่อมาวันที่ 12 ก.ค. สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสระบุรี ขณะหลบหนีไปอยู่ในเขตพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จากการสืบสวนขยายผลผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าเมื่อวันที่ 8 ก.ค.ได้ร่วมกันหลอกนายสิงห์หา เพ็งสลุง ผู้เสียชีวิต ซึ่งเคยมีความสัมพันธ์กับ น.ส.นัตฐิยา เพื่อจะชิงทรัพย์รถยนต์แท็กซี่ในวันดังกล่าว โดย น.ส.นัตฐิยาได้นัดนายสิงห์หามามีความสัมพันธ์กันที่ห้องพักหมายเลข 138 โรงแรมแห่งหนึ่งใน อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ก่อนที่ น.ส.นัตฐิยาจะแอบวางยาแก้แพ้ผสมไปในเบียร์ให้นายสิงห์หาดื่มจนเกิดอาการครึ่งหลับครึ่งตื่น และได้ส่งข้อความผ่านแอปพลิเคชันไลน์ให้กับพวกที่รออยู่ให้เข้ามาในห้องแล้วใช้ท่อเหล็กตีนายสิงห์หาจนถึงแก่ความตาย ก่อนที่จะนำศพใส่รถแท็กซี่สีเขียว-เหลือง ทะเบียน มช 8507 กทม. รถของผู้ตาย แล้วนำศพไปทิ้งอำพรางไว้ที่คลองส่งน้ำระพีพัฒน์ และหลบหนีไป จึงได้ประสานตำรวจท่องเที่ยวจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้
คดีที่ 2 สภ.รัตนาธิเบศน์ จ.นนทบุรี สามารถจับกุม นายอรรถพล หรือพล ฮวบดีบอน อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 382/2559 ลงวันที่ 12 ก.ค. 59 ข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย พล.ต.ท.ชัยวัฒน์กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 ก.ค. 59 เวลาประมาณ 21.30 น. ขณะที่นางกระแต (นามสมมติ) อายุ 61 ปี (ผู้เสียหาย) นั่งดื่มสุรากับนายอรรถพล บริเวณชุมชนใต้ทางด่วนใกล้วัดบัวขวัญ ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี ต่อมานายอรรถพลใช้กำลังทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บบริเวณท้อง และข่มขืนกระทำชำเราก่อนจะหลบหนีไป ภายหลังเจ้าหน้าที่ทราบว่านายอรรถพลหลบหนีไปอยู่กับนายชาคริต ฮวบดีบอน อายุ 37 ปี พี่ชายที่ร้านขายทรายและหิน บริเวณถนนบางกรวย-นนทบุรี ต.บางพลับ อ.ปาดเกร็ด จ.นนทบุรี จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ พบนายอรรถพลผู้ต้องหาตามหมายจับ จึงทำการจับกุมตัวมาดำเนินคดี
จากการสอบสวนนายอรรถพลให้การว่า ไม่ได้ข่มขืน ผู้เสียหายสมยอมเอง และรู้จักกับผู้เสียหายและตั้งวงดื่มสุรากับมาประมาณ 1 ปี โดยก่อนเกิดเหตุนั้นตนนั่งดื่มสุรากับผู้เสียหายและเพื่อนอีก 2 คน และจากการสอบสวนเพื่อนที่ดื่มสุราด้วยในวันเกิดเหตุให้การว่าเห็นนายพลและนางกระแต (นามสมมติ) เข้าไปในมุ้งกัน 2 คน ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้เก็บดีเอ็นเอของผู้ต้องหาไปตรวจสอบเทียบเคียงกับคดีที่เกิดขึ้นใน จ.ราชบุรีทั้งหมด เนื่องจากผู้ต้องหามีประวัติลักทรัพย์ที่บ้านแพ้ว จ.ราชบุรี
คดีที่ 3 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สาขา จ.สมุทรปราการ สามารถจับกุม นายสมรักษ์ ปั้นทอง อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 93 หมู่ 4 ต.บ้านคลองสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ จ 506/2559 ลงวันที่ 12 ก.ค. 59 ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
พล.ต.ท.ชัยวัฒน์กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 ก.ค. 59 เวลาประมาณ 09.30 น. ได้รับแจ้งพบศพหญิงไทย บริเวณบ่อเลี้ยงปลากะพง หมู่ 4 ต.บ้านคลองสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบศพนางอรสา พุ่มสาลี อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่2/2 หมู่4 ต.บ้านคลองสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ มีอาชีพเลี้ยงปลากะพง พักอาศัยอยู่กับนายอานนท์ พุ่มสาลี อายุ 43 ปี สามี โดยบ่อปลาห่างจากที่พักประมาณ 300 เมตร ต่อมาวันเดียวกันเวลาประมาณ 10.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวนายสมรักษ์ ได้บริเวณริมถนนคลองสวนบ้านล่าง หมู่ 3 ต.บ้านคลองสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ พร้อมด้วยของกลางใบกระท่อมจำนวน 12 ใบจึงทำการจับกุมตัวพร้อมแจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (พืชกระท่อม) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพยานและรวบรวมพยานหลักฐานระบุว่า นายสมรักษ์ลงมือฆ่านางอรสาจริง จึงขอหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ จ 506/2559 ลงวันที่ 12 ก.ค. 59 ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และในวันที่ 13 ก.ค. 59 จะนำผู้ต้องหาส่งฟ้องศาลฐานมีและเสพพืชใบกระท่อมต่อไป