ศูนย์ข่าวศรีราชา - นักดนตรีมืออาชีพยุคดนตรีเมืองพัทยารุ่งเรือง โอดวงการนักดนตรีขณะนี้สุดระทม เศรษฐกิจวูบมากสุดในรอบ 20 ปี เผยอดีตเคยได้ทิปเป็นหมื่น เดี๋ยวนี้นักท่องเที่ยวหายทำรายได้หด แนะต้องรู้จักปรับตัว
MGR360 ได้พูดคุยกับกลุ่มนักดนตรีมืออาชีพที่หากินในเมืองพัทยามาอย่างยาวนาน ตั้งยุคเพลงเพื่อชีวิตและสากลรุ่งเรืองเมื่อประมาณ 30 ปีก่อนจนมาถึงดนตรียุคนี้ ที่ออกมาเปิดเผยความจริงในปัจจุบันที่เศรษฐกิจโลกส่งผลกระทบมาสู่เมืองพัทยา ทำให้รูปแบบ และการทำมาหากินของนักดนตรีมืออาชีพต้องปรับเปลี่ยนเพื่อความอยู่รอด
โดย นายวาที สุทธิดี นักดนตรีที่มีประสบการณ์ในเมืองท่องเที่ยวระดับโลกยาวนานกว่า 30 ปี กล่าวว่า หลังจากเรียบจบทำงานแล้วได้มีโอกาสมาเล่นดนตรีที่เมืองพัทยา ในขณะนั้นวงการดนตรีถือว่าบูมเป็นอย่างมาก ร้านรวงต่างใช้บริการนักดนตรีประเภทเต็มวงเพื่อเรียกแขก เรียกความคึกคัก ประกอบกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่มีมากทำให้รายได้ขณะนั้นค่อนข้างดี โดยเฉพาะทิปที่เคยได้มากที่สุดกว่า 1 หมื่นบาท จากการเล่นดนตรีในวันเดียว
ขณะนั้นผู้ประกอบการจะเน้นนักดนตรีเสียงคุณภาพ และการเล่นเต็มวงอย่างมาตรฐาน ยุคเพลงช่วง 30 ปีก่อนจะโดดเด่นในเพลงเพื่อชีวิต และเพลงสากล ทั้งบาร์เบียร์ และโรงแรมต่างว่าจ้างนักดนตรีที่สามารถเล่นเพลงเพื่อชีวิต และสากลได้มาร่วมขับกล่อมสร้างสีสันสร้างรายได้อย่างงดงาม แต่หลังจากนั้นประมาณ 10 ปีต่อมา ตลาดการฟังเพลงเริ่มมีความเปลี่ยนแปลง มีความหลากหลายมากขึ้น และปริมาณนักดนตรีเริ่มมีมากขึ้นตามไปด้วย ดนตรีเต็มวงก็เริ่มไม่ถูกเรียกใช้บริการ นักดนตรีในปัจจุบันจึงต้องมีการปรับตัวเพื่อเอาตัวให้รอด
ขณะที่ นายรณชัย เรืองศรี นักดนตรีมากประสบการณ์ในเมืองพัทยาอีกคน กล่าวว่า ปัจจุบันนี้นักดนตรีสามารถแจ้งเกิดได้อย่างรวดเร็ว แค่กีตาร์ชิ้นเดียวก็สามารถออกงานได้ ทำให้กลุ่มนักดนตรีเต็มวงค่อยๆ ลดน้อยหายไป และด้วยผู้ประกอบการร้านค้ารูปแบบต่างๆ เกิดขึ้นอย่างดาษดื่น รวมถึงสภาพเศรษฐกิจต่างๆ ที่ถดถอย ทำให้เศรษฐกิจของนักดนตรีก็ถดถอยตามไปด้วยเช่นกัน ปัจจุบัน รูปแบบการท่องเที่ยวเปลี่ยนไป มีความหลากหลาย ทำให้เศรษฐกิจของนักดนตรีเมืองพัทยาวูบลง ถือได้ว่าชะงักที่สุดที่สุดในรอบ 20 ปี
ด้าน นายเอกพงศ์ คำพิลา นักดนตรีที่คร่ำหวอดในเมืองพัทยามานานถึง 15 ปี บอกด้วยว่าเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้รายได้ที่เคยได้ของนักดนตรีหายไปอย่างมาก นักดนตรีทำงานกันมากขึ้น ต้องหาร้าน หางาน ประสานเครือข่ายทั้งใน และนอกพื้นที่ เราทำงานกันมากขึ้น แต่รายได้กลับลดน้อยลง ตรงนี้นักดนตรีต้องมีการปรับตัว รวมถึงฝึกซ้อมให้มากขึ้น ที่สำคัญคือ ต้องสร้างเครือข่ายเพื่อนฝูงนักดนตรีให้มากขึ้นเพื่อบอกข่าวสารแจ้งงานกันในหมู่นักดนตรีต่อไป
