ประจวบคีรีขันธ์ - ผบก.ประจวบคีรีขันธ์ นำกำลังตำรวจภูธร ตำรวจท่องเที่ยว และฝ่ายปกครองออกตรวจตราย่านบาร์เบียร์ซอยบิณบาตร หัวหิน ซึ่งเป็นแหล่งที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมานั่งดื่มกินหาความสุข เพื่อสร้างความชื่อมั่นให้แก่ชาวต่างชาติ หลังเกิดเหตุการณ์รุมทำร้ายนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษเมื่อวันสงกรานต์ที่ผ่านมา จนมีการเผยแพร่คลิปกล้องวงจรปิดในต่างประเทศ สร้างผลกระทบด้านการท่องเที่ยว
วันนี้ (30 เม.ย.) พล.ต.ต.กษณะ แจ่มสว่าง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ไชยกร ศรีหล้าเดโช ผกก.สภ.หัวหิน ได้ทำการชี้แจงพูดคุยต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร ตำรวจท่องเที่ยว ผ่ายปกครอง และทหารว่า หลังจากสำนักข่าวอังกฤษในต่างประเทศได้เผยแพร่คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดจากซอยบิณบาตร อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นภาพกลุ่มชายชาวไทยรุมทำร้ายครอบครัวนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ 3 คน จนล้มลงไปนอนหมดสติลงบนพื้นถนนในคืนวันสงกรานต์ที่ผ่านมา โดยนักท่องเที่ยวทั้ง 3 คน ที่เป็นพ่อ แม่ ลูกกันชาวอังกฤษ นายลูอิส โอเว่น อายุ 68 ปี กับภรรยานางโรสแมรี่ เฮ โอเว่น อายุ 68 ปี และลูกชาย นายลูอิส จอน โอเว่น อายุ 43 ปี
โดยน ายลูอิส จอน โอเว่น ได้เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย และมาเล่นน้ำสงกรานต์ที่อำเภอหัวหิน จนถูกกลุ่มชาย 4 คน อยู่ในอาการมึนเมารุมทำร้ายภายในซอยบิณบาตร ย่านบาร์เบียร์ของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ท่ามกลางผู้คนที่กำลังเล่นสงกรานต์อย่างสนุกสนาน ส่งผลให้ทั้ง 3 คน ลงไปนอนหมดสติ กระทั่งมีผู้พบเห็นให้การช่วยเหลือพาส่งโรงพยาบาลกรุงเทพ หัวหิน ในเวลาต่อมา
ต่อมา ตำรวจ สภ.หัวหิน ได้จับกุมตัวผู้ลงมือก่อเหตุทำร้ายชาวอังกฤษได้ 3 รายก่อนหน้านี้ คือ นายสุภัททา ใบทอง อายุ 32 ปี นายยิ่งใหญ่ แสงคำอินทร์ อายุ 32 ปี นและายศิวะ หรือเหน่ง นกศรี อายุ 20 ปี และรายสุดท้าย คือ นายไชยา หรือบอย ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมก่อเหตุทำร้ายครอบครัวนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จริง เนื่องจากเข้าใจผิดคิดว่าเพื่อนถูกทำร้าย ประกอบกับมึนเมา เนื่องจากได้ดื่มเบียร์กับเพื่อนกลุ่มเดียวกันที่ถูกจับกุมไป และได้กล่าวขอโทษที่ทำร้ายนักท่องเที่ยว และทำให้ประเทศไทยเสียชื่อเสียง
เรื่องดังกล่าว พล.ต.ต.กษณะ แจ่มสว่าง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ยอมรับว่าส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว ที่สำคัญที่สุดในขณะนี้ต้องเร่งสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะในด้านความปลอดภัย ซึ่งที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ดำรวจก็ดำเนินการอยู่แล้ว แต่ขณะนี้ต้องเพิ่มมาตรการมากเพิ่มขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมา พล.ต.ต.กษณะ แจ่มสว่าง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ไชยกร ศรีหล้าเดโช ผกก.สภ.หัวหิน นำเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร ตำรวจท่องเที่ยว และผ่ายปกครอง แบ่งกำลังออกเดินเท้าตามแหล่งท่องเที่ยวย่านสถานบันเทิง โดยเฉพาะในซอยบิณบาตร อำเภอหัวหิน ซึ่งเป็นย่านนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมานั่งดื่มกินหาความสุข พร้อมทักทายนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยนักท่องเที่ยวบางกลุ่มต่างแสดงความพึงพอใจที่ตำรวจเข้ามาทักทาย และอธิบายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
โดยนักท่องเที่ยวบางรายบอกต่อตำรวจว่า อย่างไรก็ยังคงเดินทางมาประเทศไทย ถึงแม้จะเกิดเหตุการณ์ขึ้นก็ตาม แต่ก็เป็นเพียงคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษบางรายที่ยังมานั่งอยู่ตามบาร์ต่างจับมือทักทายกับตำรวจ และแสดงความยินดีที่ตำรวจจับตัวกลุ่มที่ลงมือทำร้ายได้เพื่อชาวอังกฤษด้วยกันได้
ด้าน นายวสันต์ กิตติกุล นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันตก กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นย่อมต้องส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทยอยู่แล้ว เพราะหัวหิน ชะอำ เป็นที่รู้จักของกลุ่มนักท่องเที่ยวยุโรป และกลุ่มสแกนดิเนเวีย 2 กลุ่มนี้เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวทั้งหัวหิน ชะอำ ดังนั้น สิ่งที่เกิดขึ้น หน่วยงานอย่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ต้องเร่งโปรโมตทำการประชาสัมพันธ์ ห้ภาพลักษณ์ที่ดีต่อการท่องเที่ยวทั้ง 2 พื้นที่กลับคืนมา รวมทั้งภาคเอกชน และหน่วยงานภาครัฐด้วยเช่นกัน
ทางด้านพนักงานสอบสวน สภ.หัวหิน กล่าวว่า ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนกำลังทำการสอบพยานที่เห็นเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุเพื่อประกอบสำนวนคดีเพิ่มเติม โดยพุ่งเป้าไปที่เจ้าของร้านบาร์เบียร์ในบริเวณดังกล่าว ส่วน 2 สามีภรรยาชาวอังกฤษขณะนี้ยังคงเก็บตัวเงียบอยู่ในห้องพัก และไม่ต้องการให้ผู้ใดเข้าไปยุ่งเกี่ยว และมีกำหนดเดินทางกลับประเทศอังกฤษในวันที่ 3 พฤษภาคมนี้ โดยที่ภรรยาที่ถูกทำร้ายจะต้องไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ หัวหิน เพื่อตรวจดูอาการอีกครั้ง