ผู้จัดการรายวัน 360 - งามหน้า!! สื่อนอกประโคมข่าวกลุ่มคนไทยรุมสกรัม พ่อ-แม่-ลูก นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่หัวหินช่วงสงกรานต์ เหตุโมโหเดินชนแขน เผยพ่อ-แม่อายุเฉียด 70 วิจารณ์กระหึ่มภาพลักษณ์เมืองท่องเที่ยวเละ ย้ำภาพเมืองไทยสุดอันตราย ย้อนถึงคดีเกาะเต่า ตร.รวบได้ครบ 4 โจ๋ตีนโหด รับสภาพอ้างเมาเต็มคราบ
วานนี้ (28 เม.ย.) มีรายงานข่าวว่า สำนักข่าวชื่อดังในประเทศอังกฤษ อาทิ เทเลกราฟ และ เดลิเมล์ และอีกหลายแห่งได้เผยแพร่คลิปวีดีโอจากกล้องวงจรปิด ซึ่งระบุว่าถ่ายจากย่านสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งใน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นภาพกลุ่มชายฉกรรจ์ราว 4 คนรุมทำร้ายครอบครัวนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 3 คน จนล้มลงไปนอนหมดสติลงบนพื้นถนน ท่ามกลางผู้คนที่กำลังเล่นสงกรานต์อย่างสนุกสนาน เมื่อช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา
** แค่เดินชนโดนทำร้ายจนสลบ
จากการตรวจสอบพบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อในซอยบิณฑบาตร เขตเทศบาลเมืองหัวหิน เมื่อวันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ 3 คน คือ นายลูอิส โอเว่น อายุ 68 ปี กับภรรยานางโรสแมรี่ เฮ โอเว่น อายุ 68 ปี และลูกชาย โอเว่น อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นพ่อ แม่ ลูกกัน และได้เดินทางมาท่วงเที่ยวเทศกาลสงกรานต์ในประเทศไทย ก่อนเกิดเกตุนายลูอิส จอน โอเว่นได้เดินไปชนถูกแขนชายคนหนึ่งซึ่งอยู่ในอาการมึนเมา ทำให้ชายคนดังกล่าวพร้อมพวกรวม 4 คน ไม่พอใจ และก่อเหตุทำร้ายร่างกายจนชาวอังกฤษทั้ง 3 คนหมดสติบนพื้นถนน โดยผู้ที่เห็นเหตุการณ์ไม่ได้ห้ามปราม แต่ก็ได้มีการช่วยนำส่งโรงพยาบาลในภายหลัง
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมคนร้ายได้เบื้องต้น 2 ราย ซึ่งได้รับสารภาพและกล่าวขอโทษครอบครัวชาวอังกฤษและเสียใจที่ทำไปโดยขาดสติ เพราะดื่มสุรา
รายงานข่าวดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ในสังคมออนไลน์อย่างกว้างขวาง โดยในต่างประเทศได้มีการแสดงความเห็นในทำนองว่า ประเทศไทยเป็นสถานที่ๆต้องมีความระมัดระวังในการเดินทางมาท่องเที่ยว บางรายถึงขนาดยกให้เหตุการณ์นี้เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ทำให้ประเทศไทยเสียชื่อเสียงอีกครั้งเกี่ยวกับการก่ออาชญากรรม หลังจากก่อนหน้านี้ก็มักมีข่าวนักท่องเที่ยวถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตในประเทศไทยบ่อยครั้ง โดยเฉพาะกรณีที่เกิดขึ้นที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี
** รวบครบ 4 โก๋หัวหินตื๊บฝรั่ง
ด้าน พ.ต.อ.ไชยกร ศรีหล้าเดโช ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธร (สภ.) หัวหิน เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้ง 4 รายแล้ว ประกอบด้วย นายสุภัททา หรือ หม่อง ใบทอง อายุ 32 ปี นายยิ่งใหญ่ หรือ เอ็ม แสงคำอินทร์ อายุ 32 ปี นายศิวะ หรือเหน่ง นกศรี อายุ 20 ปี ส่วนอีกรายถูกจับกุมได้แล้วเช่นกันแต่ยังไม่เปิดเผยชื่อ ทั้งนี้ กลุ่มผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เหตุทะเลาะวิวาท เริ่มมาจากการที่ นายลูอิส จอน นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษผู้เป็นลูกชายเดินไปชนแขน นายสุภัททา ซึ่งอยู่ในอาการมึนเมาจนเซถลาทำให้เกิดความไม่พอใจ จึงผลักหน้าอกนายลูอิส จอน จนล้มคว่ำไป เมื่อนายลูอิสกับนางโรสแมรี่ พ่อและแม่เห็นเหตุการณ์ จึงตรงเข้าช่วยเหลือ ขวางไม่ให้ทำร้ายลูกชาย นายสุภัททาไม่ฟังเสียง กลับเรียกพวกรวม 4 คน มารุมทำร้ายชกต่อยนักท่องเที่ยวทั้ง 3 คน จนได้รับบาดเจ็บ ล้มลงไปนอนกับพื้น ก่อนที่ทั้งหมดจะวิ่งหลบหนีไป
พ.ต.อ.ไชยกร เปิดเผยด้วยว่า ขณะนี้ นายลูอิส จอน ได้เดินทางกลับต่างประเทศไปแล้ว เนื่องจากกระบวนการตรวจร่างกายและให้ปากคำเรียบร้อยแล้ว ส่วน นายลูอิส และนางโรสแมรี่ เฮ ภรรยา มีกำหนดการเดินทางกลับประเทศอังกฤษในวันที่ 3 พ.ค.นี้ ซึ่งนางโรสแมรี่ เฮ ยังมีอาการปวดศีรษะอยู่ และยังต้องให้แพทย์ตรวจรักษาอากาศบาดเจ็บต่อเนื่อง โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปสอบปากคำไว้ก่อนแล้ว เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาผู้ก่อเหตุทั้ง 4 ราย ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัส
“เหตุการณ์เกิดขึ้นกระทบต่อภาพลักษณ์เมืองท่องเที่ยว แต่หลังจากเกิดเรื่องทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้ทำงานอย่างหนักกระทั่งนำไปสู่การจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาได้ทั้งหมดอย่างรวดเร็ว” พ.ต.อ.ไชยกร กล่าว
วานนี้ (28 เม.ย.) มีรายงานข่าวว่า สำนักข่าวชื่อดังในประเทศอังกฤษ อาทิ เทเลกราฟ และ เดลิเมล์ และอีกหลายแห่งได้เผยแพร่คลิปวีดีโอจากกล้องวงจรปิด ซึ่งระบุว่าถ่ายจากย่านสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งใน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นภาพกลุ่มชายฉกรรจ์ราว 4 คนรุมทำร้ายครอบครัวนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 3 คน จนล้มลงไปนอนหมดสติลงบนพื้นถนน ท่ามกลางผู้คนที่กำลังเล่นสงกรานต์อย่างสนุกสนาน เมื่อช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา
** แค่เดินชนโดนทำร้ายจนสลบ
จากการตรวจสอบพบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อในซอยบิณฑบาตร เขตเทศบาลเมืองหัวหิน เมื่อวันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ 3 คน คือ นายลูอิส โอเว่น อายุ 68 ปี กับภรรยานางโรสแมรี่ เฮ โอเว่น อายุ 68 ปี และลูกชาย โอเว่น อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นพ่อ แม่ ลูกกัน และได้เดินทางมาท่วงเที่ยวเทศกาลสงกรานต์ในประเทศไทย ก่อนเกิดเกตุนายลูอิส จอน โอเว่นได้เดินไปชนถูกแขนชายคนหนึ่งซึ่งอยู่ในอาการมึนเมา ทำให้ชายคนดังกล่าวพร้อมพวกรวม 4 คน ไม่พอใจ และก่อเหตุทำร้ายร่างกายจนชาวอังกฤษทั้ง 3 คนหมดสติบนพื้นถนน โดยผู้ที่เห็นเหตุการณ์ไม่ได้ห้ามปราม แต่ก็ได้มีการช่วยนำส่งโรงพยาบาลในภายหลัง
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมคนร้ายได้เบื้องต้น 2 ราย ซึ่งได้รับสารภาพและกล่าวขอโทษครอบครัวชาวอังกฤษและเสียใจที่ทำไปโดยขาดสติ เพราะดื่มสุรา
รายงานข่าวดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ในสังคมออนไลน์อย่างกว้างขวาง โดยในต่างประเทศได้มีการแสดงความเห็นในทำนองว่า ประเทศไทยเป็นสถานที่ๆต้องมีความระมัดระวังในการเดินทางมาท่องเที่ยว บางรายถึงขนาดยกให้เหตุการณ์นี้เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ทำให้ประเทศไทยเสียชื่อเสียงอีกครั้งเกี่ยวกับการก่ออาชญากรรม หลังจากก่อนหน้านี้ก็มักมีข่าวนักท่องเที่ยวถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตในประเทศไทยบ่อยครั้ง โดยเฉพาะกรณีที่เกิดขึ้นที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี
** รวบครบ 4 โก๋หัวหินตื๊บฝรั่ง
ด้าน พ.ต.อ.ไชยกร ศรีหล้าเดโช ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธร (สภ.) หัวหิน เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้ง 4 รายแล้ว ประกอบด้วย นายสุภัททา หรือ หม่อง ใบทอง อายุ 32 ปี นายยิ่งใหญ่ หรือ เอ็ม แสงคำอินทร์ อายุ 32 ปี นายศิวะ หรือเหน่ง นกศรี อายุ 20 ปี ส่วนอีกรายถูกจับกุมได้แล้วเช่นกันแต่ยังไม่เปิดเผยชื่อ ทั้งนี้ กลุ่มผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เหตุทะเลาะวิวาท เริ่มมาจากการที่ นายลูอิส จอน นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษผู้เป็นลูกชายเดินไปชนแขน นายสุภัททา ซึ่งอยู่ในอาการมึนเมาจนเซถลาทำให้เกิดความไม่พอใจ จึงผลักหน้าอกนายลูอิส จอน จนล้มคว่ำไป เมื่อนายลูอิสกับนางโรสแมรี่ พ่อและแม่เห็นเหตุการณ์ จึงตรงเข้าช่วยเหลือ ขวางไม่ให้ทำร้ายลูกชาย นายสุภัททาไม่ฟังเสียง กลับเรียกพวกรวม 4 คน มารุมทำร้ายชกต่อยนักท่องเที่ยวทั้ง 3 คน จนได้รับบาดเจ็บ ล้มลงไปนอนกับพื้น ก่อนที่ทั้งหมดจะวิ่งหลบหนีไป
พ.ต.อ.ไชยกร เปิดเผยด้วยว่า ขณะนี้ นายลูอิส จอน ได้เดินทางกลับต่างประเทศไปแล้ว เนื่องจากกระบวนการตรวจร่างกายและให้ปากคำเรียบร้อยแล้ว ส่วน นายลูอิส และนางโรสแมรี่ เฮ ภรรยา มีกำหนดการเดินทางกลับประเทศอังกฤษในวันที่ 3 พ.ค.นี้ ซึ่งนางโรสแมรี่ เฮ ยังมีอาการปวดศีรษะอยู่ และยังต้องให้แพทย์ตรวจรักษาอากาศบาดเจ็บต่อเนื่อง โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปสอบปากคำไว้ก่อนแล้ว เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาผู้ก่อเหตุทั้ง 4 ราย ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัส
“เหตุการณ์เกิดขึ้นกระทบต่อภาพลักษณ์เมืองท่องเที่ยว แต่หลังจากเกิดเรื่องทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้ทำงานอย่างหนักกระทั่งนำไปสู่การจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาได้ทั้งหมดอย่างรวดเร็ว” พ.ต.อ.ไชยกร กล่าว