กำแพงเพชร - ผู้การ ตร.เมืองกล้วยไข่แจงยิบ คำสั่งเด้ง ผกก.ขาณุวรลักษบุรีเซ่นคดีเด็ก 8 ขวบฉีกบัญชีผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติฯ ยันชัดไม่รายงานผู้บังคับบัญชาทั้งที่มีการแจ้งความแล้ว รุ่งขึ้นตำรวจภาค 6 ถามมาถึงรู้ ด้าน ผอ.กกต.บอกจำเป็นต้องร้องทุกข์ก่อนโดน ม.157 แต่ยืนยันเด็กไม่เจตนา-อายุไม่ถึง กฎหมายเว้นโทษอยู่แล้ว
วันนี้ (21 ก.ค.) พล.ต.ต.ดำรงค์ เพ็ชรพงศ์ ผบก.ภ.กำแพงเพชร เปิดเผยว่า กรณีเกิดเหตุมีผู้ฉีกทำลายบัญชีผู้มีสิทธิลงคะแนนประชามติร่างรัฐธรรมนูญ หน่วยที่ 5 ภายในโรงเรียนวชิรสารศึกษา หมู่ที่ 5 บ้านเหนือ ต.สลกบาตร อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร เมื่อ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้มีคำสั่งย้าย พ.ต.อ.อิทธิ ชำนาญหมอ ผกก.สภ.ขาณุวรลักษบุรี ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 6 นั้น
เนื่องจากหลังเกิดเหตุ ผู้เสียหาย โดยเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลสลกบาตรได้เข้าแจ้งความบันทึกไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.ขาณุวรลักษบุรี และมีการสืบสวนสอบสวนแล้ว แต่ไม่มีการรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นในพื้นที่
จนกระทั่งวันต่อมา (17 ก.ค.) เวลา 20.00 น. ทางกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ได้สอบถามมาว่าเกิดเหตุอะไรขึ้นในพื้นที่ จึงได้มีการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ จนทราบเรื่องว่ามีเหตุบัญชีผู้ใช้สิทธิการลงคะแนนประชามติถูกฉีกทำลาย พร้อมกับได้ลงพื้นที่สอบถามเหตุการณ์ดังกล่าว
พล.ต.ต.ดำรงค์กล่าวต่อว่า ที่จริงแล้ว พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.ก็ได้ประชุม-สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในทุกพื้นที่แล้วว่า หากมีเหตุการณ์เกิดขึ้นในพื้นที่เกี่ยวกับการออกเสียงลงคะแนนประชามติจะต้องรายงานด่วนให้ผู้บังคับบัญชาทราบ รวมทั้งรัฐบาลก็ให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้มาก แต่กลับไม่มีการรายงานข้อมูลอย่างเคร่งครัด จนทำให้มีการสั่งย้าย พ.ต.อ.อิทธิดังกล่าวเมื่อ 09.00 น. วันที่ 18 ก.ค.
อย่างไรก็ตาม ในเวลาประมาณ 18.00 น. วันที่ 18 ก.ค. ก็ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ขาณุวรลักษบุรี ว่าทราบตัวผู้กระทำผิดฉีกบัญชีรายชื่อฯ ดังกล่าว โดยพบว่าเป็นเด็กหญิง อายุ 8 ขวบ ทั้ง 2 คน พร้อมกับได้มีการสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงชัดเจนแล้ว
ขณะที่ในทางคดี ทางคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดกำแพงเพชรได้แจ้งความร้องทุกข์แล้ว ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 2 เป็นเด็กและเยาวชน อายุไม่ถึง 10 ขวบ ไม่มีเจตนาที่จะกระทำผิด ทำไปเพราะความคึกคะนอง กฎหมายได้มีการละเว้นโทษ โดยตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชรได้ส่งรอง ผบก.ฝ่ายสอบสวนเข้าไปดูแลคดีนี้อย่างใกล้ชิดเพื่อให้เกิดความเรียบร้อย
พร้อมกันนั้น ตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชรได้มีการสั่งการกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกพื้นที่ให้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทุกพื้นที่เฝ้าระวังเกี่ยวกับเอกสาร หรือสถานที่ โดยให้มีการตรวจสอบดูความเรียบร้อย อย่าให้เกิดเหตุการณ์กระทำความผิดเกิดขึ้นอีก
ด้านนายสุรพงษ์ ธนสังข์นุชิต ผอ.กกต.กำแพงเพชร เปิดเผยว่า กรณีที่เกิดขึ้นจำเป็นต้องแจ้งความร้องทุกข์ ตามที่ได้รับมอบอำนาจจากคณะกรรมการการออกเสียงประจำเขตออกเสียงจังหวัดกำแพงเพชร ไม่เช่นนั้นก็จะเป็นการละเลยการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157
ส่วนกระแสสังคมที่มองว่าทาง กกต.จังหวัดกำแพงเพชรแจ้งความเด็กอายุ 8 ขวบ 2 คนนั้น นายสุรพงษ์ชี้แจงว่า เด็กทั้งสองไม่มีพฤติกรรม หรือถูกว่าจ้างให้มาทำลายเอกสารแต่อย่างใด แต่ทำเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพราะความไร้เดียงสาของเด็ก ซึ่งตามกฎหมายแล้วก็มีความผิด แต่ว่าไม่ต้องรับโทษ ซึ่งกรณีนี้ไม่อยากทำอะไรกับเด็ก หรือทำร้ายจิตใจเด็ก แต่กฎหมายระบุไว้ว่า เมื่อมีความผิดเกิดขึ้น และทรัพย์เป็นของทางราชการ หน่วยงานของรัฐเป็นเจ้าของทรัพย์ต้องดำเนินการร้องทุกข์ เพื่อให้มีการดำเนินการตามกฎหมาย
ขณะที่เรื่องของโทษนั้นขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนที่จะเสนอความเห็นว่าเห็นควรสั่งฟ้อง ไม่ฟ้อง และเสนอเรื่องไปยังอัยการ ถ้าอัยการเห็นว่าไม่มีเจตนา เป็นความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทางอัยการก็สั่งไม่ฟ้อง ก็ไม่ต้องรับโทษอยู่แล้ว
นายสุรพงษ์เปิดเผยว่า สำหรับความพร้อมในการออกเสียงลงคะแนนประชามติ 7 สิงหาฯ นั้น กกต.กำแพงเพชรได้เตรียมความพร้อมเกือบ 100% แล้ว โดยได้นำหีบบัตรลงคะแนนเลือกตั้งแบบหีบพลาสติก สามารถตรวจสอบ-มองเห็นภายในได้ มีความคงทนแข็งแรง สามารถใช้งานได้นานถึง 10 ปี สามารถป้องกันน้ำได้เป็นอย่างดี มีน้ำหนักที่เบา ส่งมอบให้แต่ละอำเภอนำไปใช้ในการลงคะแนนครั้งนี้ด้วย ซึ่งบางอำเภอก็จะใช้หีบบัตรแบบใหม่ทั้งหมด แต่บางอำเภอจะใช้ผสมกับหีบบัตรแบบเก่าด้วย
