ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - พบที่ดิน “เวิลด์พีซ วัลเล่ย์” ธรรมกายเขาใหญ่ ไร้เอกสารสิทธิงอกอีก 500 ไร่ หลัง ล่าสุด ส.ป.ก.ลงรังวัดแนวรั้วรอบเวิลด์พีซ พบมีพื้นที่จริงรวมอื้อกว่า 900 ไร่ ผู้ว่าฯ โคราชสั่งตรวจสอบด่วน ส่วนที่ดิน 186 ไร่ไร้เอกสารสิทธิตรวจพบล็อตแรกชี้ผิด กม.ให้ยึดคืนรัฐ ด้าน ตร.เดินหน้ารวบรวมหลักฐานก่อนสรุปแจ้งข้อหาหนัก 5 คดี พร้อมสั่งอายัดอาคารทุกหลังและระงับการก่อสร้างไว้หมดแล้ว
วันนี้ (11 ก.ค.) นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึงกรณีการตรวจสอบศูนย์ปฏิบัติธรรมเวิลด์พีซ วัลเล่ย์ สาขาวัดพระธรรมกาย ของมูลนิธิตะวันธรรม ตั้งอยู่ในท้องที่บ้านหนองจอก ม.6 ต.โป่งตาลอง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ว่าขณะนี้สำนักงานที่ดินจังหวัดนครราชสีมาได้ตรวจสอบที่ดินของ เวิลด์พีซฯ ไปแล้วจำนวน 480 ไร่ และมีความชัดเจนแล้วว่าที่ดินดังกล่าวแบ่งเป็นมีเอกสารสิทธิโฉนดที่ดิน และ น.ส.3 ก.จำนวน กว่า 200 ไร่
ส่วนที่เหลืออีก 186 ไร่ นั้นไม่มีเอกสารสิทธิ และได้รับการยืนยันจากนิคมสร้างตนเองลำตะคองแล้วว่าเป็นที่ดินของนิคมสร้างตนลำตะคอง และไม่ได้มีการออกเอกสารสิทธิหรือออกหนังสือใดๆ ในพื้นที่ดังกล่าว ฉะนั้นถือว่าเป็นการครอบครองโดยผิดกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดทางสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา (ส.ป.ก.) ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบพื้นที่รอบแนวรั้วของศูนย์ปฏิบัติธรรมเวิลด์พีซ วัลเล่ย์ดังกล่าว แล้วพบว่าที่ดินที่อยู่ในแนวรั้วไม่ใช่เนื้อที่แค่ 480 ไร่ แต่ความจริงแล้วมีอยู่มากกว่า 900 ไร่ หรืองอกเพิ่มมาอีก 500 ไร่ ตนได้สั่งการให้ ส.ป.ก.และที่ดินจังหวัดนครราชสีมา รวมถึงนิคมสร้างตนเองลำตะคองไปตรวจสอบที่ดินอีกกว่า 500 กว่าไร่ดังกล่าวว่ามีเอกสารสิทธิหรือไม่ คาดว่าพรุ่งนี้ (12 ก.ค.) จะมีความชัดเจนว่าที่ดินจำนวนดังกล่าวมีเอกสารสิทธิหรือไม่ อย่างไร
นายวิเชียรกล่าวอีกว่า ในส่วนของอาคารสิ่งปลูกสร้างในศูนย์ปฏิบัติธรรมเวิลด์พีซ วัลเล่ย์ เบื้องต้นตรวจสอบพบว่า อบต.โป่งตาลอง ได้อนุญาตให้มีการปลูกสร้างโดยถูกกฎหมาย แต่ได้ให้ไปตรวจสอบอย่างละเอียดว่าจุดที่ก่อสร้างตรงกับเอกสารที่ขอนุญาตหรือไม่ หรือไปก่อสร้างในพื้นที่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ คาดว่าพรุ่งนี้จะมีความชัดเจนในทุกเรื่องที่กล่าวมาข้างต้น
ต่อข้อถามว่า ที่ดินจำนวน 500 ไร่ ที่ตรวจพบเพิ่มเติมจากเดิมนั้นมีสิ่งปลูกสร้างหรือไม่ นายวิเชียรกล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าส่วนหนึ่งอยู่ในพื้นที่ ส.ป.ก. ที่เหลือน่าจะอยู่ในพื้นที่ของนิคมสร้างตนเองลำตะคอง แต่จะมีการออกเอกสารสิทธิจากหน่วยงานใดหรือไม่นั้นได้ให้ไปตรวจสอบอยู่ แต่ยังไม่พบมีการก่อสร้างอาคารแต่อย่างใด
สำหรับพื้นที่ที่ตรวจสอบแล้วไม่มีเอกสารสิทธิจำนวน 183 ไร่ในรอบแรกนั้นจะได้ให้สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.ฐากูร นัทธีศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา เปิดเผยถึงการดำเนินคดีกับศูนย์ปฏิบัติธรรมเวิล์ดพีซ วัลเล่ย์ ว่าขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานให้หนักแน่น โดยจากการประชุมชุดสืบสวนซึ่งมีการแต่งตั้งคณะทำงานทั้งระดับท้องที่ ระดับตำรวจภูธรจังหวัด และตำรวจภูธรภาค 3 เข้ามาเป็นชุดทำงานได้ตั้งประเด็นการสอบสวนไว้ 5 คดี คือ 1. การก่อสร้างอาคารในพื้นที่ที่ไม่ได้รับอนุญาต 2. การก่อสร้างอาคารทับลำรางและทางสาธารณะ 3. การเจาะบ่อบาดาลโดยไม่ได้รับอนุญาต 4. แจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงาน ทั้งกรณีการขออนุญาตก่อสร้างอาคารและขอนุญาตใช้ไฟฟ้า
ส่วนคดีที่ 5 เป็นคดีเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ และการบุกรุกที่ดินของรัฐนั้น ทางกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) รับไปดำเนินคดีเองทั้งหมด ขณะนี้รอผลสรุปการตรวจสอบอย่างเป็นทางการจากหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ทั้ง ส.ป.ก., ที่ดินจังหวัด, นิคมสร้างตนเองลำตะคอง, ป่าไม้, องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานอื่นๆ เพื่อจะได้แยกให้ชัดเจนแต่ละประเด็นหรือแต่ละคดีซึ่งเรื่องนี้มีความเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน ฉะนั้นคงต้องรอความชัดเจนอีกครั้งและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะแจ้งความร้องทุกข์และแจ้งข้อหาดำเนินคดีต่อไป
“ส่วนการก่อสร้างอาคารต่างๆ ภายในบริเวณศูนย์ปฏิบัติธรรมเวิลด์พีซ วัลเล่ย์ ขณะนี้ได้มีการอายัดอาคาร และสั่งระงับการก่อสร้างอาคารทั้งหมดไว้เรียบร้อยแล้ว เพื่อรอการตรวจสอบจากทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง คาดว่าหากทุกหน่วยงานชัดเจนจะมีการแจ้งข้อหาดำเนินคดีตามกฎหมายในเร็วๆ นี้” พล.ต.ต.ฐากูรกล่าวในตอนท้าย