ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ส.ป.ก.โคราช พร้อมลุยยึดคืนที่ ส.ป.ก.แปลงใหญ่เกิน 500 ไร่ไม่ถูก กม.ตามคำสั่ง คสช. งัด ม.44 เชือด เผยตรวจพบโคราชมีอื้อกว่า 1.13 แสนไร่ มากที่สุดในประเทศ กระจายอยู่ใน 18 อำเภอ ส่วนกรณีดื้อแพ่งไม่ออกตามคำสั่งศาลมี 3 ราย รวม 1,600 ไร่ อยู่ใน อ.ปากช่อง เผยสัปดาห์หน้าเรียกประชุม ส.ป.ก.ทั่วประเทศ ชี้แจงการดำเนินการที่ชัดเจน
วันนี้ (8 ก.ค.) นายชำนาญ กลิ่นจันทร์ ปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า หลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีคำสั่งที่ 39/2559 ลงวันที่ 5 ก.ค. 2559 เรื่อง “มาตรการในการแก้ไขปัญหาการครอบครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมโดยมิชอบด้วยกฎหมาย” โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ. 2559 เพื่อดำเนินการต่อผู้ที่อยู่ในพื้นที่ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) โดยไม่ยอมเข้าสู่กระบวนการปฏิรูปที่ดิน หรือบางรายได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว แต่ไม่ยอมส่งมอบพื้นที่คืนเพื่อให้ ส.ป.ก.ดำเนินการจัดที่ดินตามกฎหมาย นอกจากนี้ บางกลุ่มเข้าครอบครองโดยอ้างการซื้อจากเกษตรกรที่เปลี่ยนอาชีพ ส่งผลต่อความมั่นคงของทรัพยากรธรรมชาติและส่งผลเสียหายต่อเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม
โดยมีเป้าหมาย 3 กลุ่ม คือ 1.ที่ดินที่ยังไม่เข้าสู่กระบวนปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมที่มีเนื้อที่ตั้งแต่ 500 ไร่ขึ้นไป 2. ที่ดินที่จัดให้เกษตรกรแล้วและให้เกษตรกรสิ้นสิทธิ์เข้าทำประโยชน์และมีผู้เข้าครอบครองโดยบุคคลที่ไม่ใช่ผู้ได้รับการจัดที่ดินตั้งแต่ 100 ไร่ขึ้นไป และ 3. ที่ดินที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ส่งมอบให้ ส.ป.ก. เนื้อที่ตั้งแต่ 500 ไร่ขึ้นไป โดยพื้นที่ข้อ 1 และข้อ 2 ให้เป็นไปตามที่ ส.ป.ก.ประกาศกำหนดนั้น
ล่าสุดขณะนี้กำลังรอคำสั่งการจากสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ที่เลขาธิการ ส.ป.ก.จะสั่งการลงมาอีกครั้ง ซึ่งสัปดาห์หน้านี้ ส.ป.ก.ส่วนกลางได้เรียกประชุม ส.ป.ก.ทั่วประเทศที่พัทยา จ.ชลบุรี เพื่อชี้แจงการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน คาดว่าหลังการประชุมจะมีความชัดเจนในเรื่องการทำงานของแต่ละพื้นที่
ทั้งนี้ จากการสำรวจพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดินของ จ.นครราชสีมา ซึ่งเข้าข่ายตามหลักเกณฑ์ที่ คสช.กำหนดให้เรียกคืนจากผู้ครองครองเนื้อที่ตั้งแต่ 500 ไร่ขึ้นไปนั้น พบว่า จ.นครราชสีมา มีพื้นที่อยู่ 134 แปลงซึ่งยังไม่ได้จัดสรรอย่างถูกต้อง รวมเนื้อที่กว่า 113,000 ไร่ กระจายอยู่ในพื้นที่ 18 อำเภอที่มีเขตปฏิรูปที่ดิน
สำหรับพื้นที่ที่มีจำนวนมากที่สุด คือ อ.ชุมพวง มีที่ดินแปลงใหญ่เกินกว่า 500 ไร่ จำนวน 23 แปลง รวมประมาณกว่า 17,000 ไร่ รองลงมา อ.เสิงสาง มีจำนวน 13 แปลง รวมกว่า 13,200 ไร่, อ.สีคิ้ว จำนวน 14 แปลง รวมกว่า 11,700 ไร่ ส่วนอำเภออื่นๆ ลดหลั่นกันไปตั้งแต่ 6,000-7,000 ไร่ จนถึงกว่า 9,000 ไร่ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวนี้อาจมีเจ้าของ 1 รายหรือหลายรายก็เป็นได้ หรืออาจถือหลักฐานที่ดินอย่างอื่นไว้ เพราะในช่วงที่มีการสำรวจบุคคลเหล่านี้อาจไม่ได้มาแสดงตัวหรือไม่ได้มาชี้แนวเขต
นายชำนาญกล่าวต่อว่า การดำเนินการจากนี้ จะต้องรอทาง ส.ป.ก.ส่วนกลาง ส่งแผนที่ชี้จุดที่จะให้ ส.ป.ก.จังหวัดเข้าไปดำเนินการในพื้นที่ที่มีปัญหา จากนั้นทาง ส.ป.ก.จะส่งหนังสือประกาศให้เจ้าของพื้นที่มาแสดงตนภายใน 15 วัน เพื่อนำหลักฐานมาแสดง ซึ่งประกาศจะติดไว้ที่ว่าการอำเภอ ที่ทำการกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) และ ศาลากลางหมู่บ้าน เป็นต้น จากนั้นเจ้าหน้าที่จะดำเนินการพิสูจน์สิทธิ์ หากผิดเงื่อนไขจะนำไปสู่การยึดคืนพื้นที่ หรือหากมีการครอบครองพื้นที่เกินกว่าที่กำหนด ก็จะถูกยึดคืนกลับมาตามกฎหมาย
ส่วนที่ดิน ส.ป.ก.ที่มีคำพิพากษาตัดสินถึงที่สุดแล้วนั้น จากการสำรวจขณะนี้ใน จ.นครราชสีมา มีจำนวน 3 แปลง รวมเนื้อที่ประมาณ 1,600 ไร่ อยู่ในพื้นที่ อ.ปากช่อง โดยมีผู้ครอบครอง 3 ราย สร้างที่พักอาศัย ทำแปลงเกษตร และสถานที่พักผ่อน หนึ่งในนั้นครอบครองแปลงใหญ่จำนวน 1,027 ราย ปัญหาตอนนี้คือทั้ง 3 ราย ไม่ยอมออกจากพื้นที่ตามคำสั่งศาลซึ่งต้องดำเนินการตามคำสั่งของ คสช. โดยอาศัยอำนาจมาตรา 44 ส่วนจะเข้าดำเนินการอย่างไรนั้นต้องมีการประชุมเตรียมการกันอีกครั้ง