ลำพูน - ฮือฮากันทั้งบาง หลังแม่ฒ่าชาวไทยใหญ่ ป้าเมีย ผญบ.ในเมืองลำพูน ป่วยหนัก ลูกหลานขอหมอเอามาตายที่บ้าน ก่อนถอดเครื่องช่วยหายใจ-สิ้นลมไปแล้ว 6 ชม. จนวิ่งไปจองศาลาวัด เตรียมนำร่างลงโลงแล้ว กลับฟื้นขึ้นมาหน้าตาเฉย แถมร้องขอกินน้ำชา อาการป่วยหายเป็นปลิดทิ้ง ด้าน สสจ.ยันเป็นไปได้ยาก อาจแค่หลับลึก-ช็อกชั่วขณะ
วันนี้ (7 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระยะที่ผ่านมามีชาวบ้านลือกันถึงเรื่องราวแม่เฒ่าไทยใหญ่ แม่ยายผู้ใหญ่บ้านสันคะยอม ต.ป่าสัก จ.ลำพูน ตายแล้วฟื้น จึงเดินทางไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงพบนายทองผล ซุนสัก อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50/2 หมู่ที่ 1 บ้านสันคะยอม ต.ป่าสัก อ.เมืองลำพูน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 บอกว่า นางส่า ลุงคำ อายุ 65 ปี ชาวไทยใหญ่จากเมืองลาเฉียว ประเทศพม่า ป้าเมีย หรือพี่สาวแม่ยายของตนซึ่งได้พักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังติดกันภายในสวนลำไยพร้อมกับลูกหลานมานานกว่า 2 ปีแล้ว ส่วนเรื่องที่นางส่าตายแล้วฟื้นนั้นเป็นเรื่องจริง โดยช่วงสายของวันที่ 17 มิ.ย. 59 ที่ผ่านมา นางส่าได้ป่วยด้วยอาการของโรคน้ำท่วมปอด จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ประจำรถกู้ชีพเทศบาลป่าสัก คือ นายณรงค์ แสนสิทธิ์, นายเทียนชัย ตรีวราภัทร และนายผัดแก้ว ปัญญาจันทร์ มาช่วยนำตัวนางส่าส่งตัวไปรักษาอาการที่ รพ.ป่าซาง เนื่องจากหัวใจเต้นแรงผิดปกติ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้ใช้เครื่องช่วยหายใจและกระตุ้นหัวใจ
หลังจากนั้นนางส่าก็ได้นอนรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ป่าซาง เป็นเวลา 8 วัน แต่อาการไม่ดีขึ้น มีแต่ทรงกับทรุด ทางญาติพี่น้องและลูกหลานทราบจากหมอว่านางส่าอาการหนักมาก ค่ำวันที่ 25 มิถุนายน เวลาประมาณ 18.00 น.จึงขออนุญาตแพทย์ที่ทำการรักษาขอนำนางส่าไปพักฟื้นที่บ้าน หรือขอเอาไปตายที่บ้าน
เมื่อมาถึงบ้านช่วงค่ำก็ได้ทำการถอดเครื่องช่วยหายใจ หลังจากนั้นนางส่าก็ค่อยๆ สิ้นลมหายใจ หัวใจหยุดเต้น ชีพจรไม่ทำงาน มือ-หน้าดำคล้ำ ลูกหลานจึงนำหมอนที่หนุนหัวออกแล้วนำน้ำขมิ้นส้มป่อยมาขอขมาศพนางส่า ท่ามกลางเสียงร่ำไห้ของลูกหลานที่เสียใจต่อการจากไปของนางส่า
นายทองผลกล่าวต่อไปอีกว่า ต่อมาได้มีการเตรียมจัดงานศพ ส่วนตนก็เดินทางไปที่วัดใกล้บ้านคือวัดสันคะยอม กลางดึก เพื่อติดต่อประสานงานกับทางวัดจะนำศพนางส่ามาไว้ที่ศาลาวัด เตรียมสวดพระอภิธรรมตามประเพณีต่อไป เมื่อประสานงานเสร็จก็กลับมาบ้านเพื่อเตรียมนำโลงมาใส่ศพ แต่ก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นจนลูกหลานนางส่าเองก็พากันแปลกใจและตกใจปนกับความดีใจ ที่จู่ๆ นางส่าได้ลุกขึ้นมานั่งแล้วพูดเป็นภาษาไทยใหญ่บอกว่า “หิวน้ำ หิวข้าว ขอกินน้ำชาหน่อย” ลูกหลานก็ทำอะไรไม่ถูกคิดว่าผีแม่มาหลอก บ้างก็คิดว่าแม่ฟื้นมาได้อย่างไร หลังจากหายตกใจก็เข้าไปจับชีพจร และคลำหัวใจนางส่าก็พบว่าชีพจรและหัวใจเต้นปกติ จึงพากันเฮลั่นบ้านด้วยความตื่นเต้นดีใจ หลังแม่ตายไปแล้ว 6 ชั่วโมงแล้วฟื้นมาใหม่
ด้านนางส่า แม่เฒ่าไทยใหญ่ ผู้สร้างความฮือฮาตายแล้วฟื้นเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนเองก็งงเหมือนกันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น รู้แต่ว่าตนไม่สบายหนักมากและคิดว่าคงตายแน่ๆ หลังจากมาถึงบ้านก็ไม่รู้สึกตัว รู้แต่ว่ากำลังจะหลับไป
เมื่อสอบถามว่า หลังจากหลับไปได้ฝันหรือไปพบใครหรือไม่ อย่างไร นางส่ากล่าวกล่าวด้วยรอยยิ้มและอารมณ์ดีเป็นพิเศษว่าไม่เลย ไม่รู้เรื่องอะไร รู้สึกแต่ว่าตนหลับไปนานมาก แล้วรู้สึกหิวน้ำชาและข้าว เมื่อตื่นขึ้นมาพบว่าลูกหลานแวดล้อม พร้อมเตรียมจัดงานศพตนเอง ตอนนี้ผ่านมาหลายวันตนก็ยังไม่เจ็บป่วยจากอาการของโรคเดิมๆ ที่เคยเป็นมา ก็แปลกใจนิดๆ
ขณะที่ นพ.ปัจจุบัน เหมหงษา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำพูน กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวในทางการแพทย์นั้นเป็นไปได้ยาก เพราะการเสียชีวิตเพียงแค่หัวใจหยุดเต้น ชีพจรหยุดการทำงานเพียงไม่กี่นาทีก็ต้องเสียชีวิตแล้ว โอกาสรอดนั้นยากมาก กรณีของนางส่านี้ต้องวิเคราะห์ตรวจสอบทางการแพทย์เท่านั้นจึงจะยืนยันได้ และอาจจะเพียงแค่หลับลึก หรือไม่ก็ช็อกไปชั่วระยะหนึ่งเท่านั้น