ชุดพญาเสือเดินหน้ายึดคืนผืนป่าอุทยานเขาใหญ่-ดงพญาเย็น

ปราจีนบุรี - ชุดพญาเสือ ยังคงเดินหน้าปฏิบัติการทวงคืนผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ ในปราจีนบุรี เพิ่มขึ้นอีก 3 ราย เบื้องต้น เข้าพูดคุย ขอคืนพื้นที่ ถ้ามีหลักฐานการครอบครองสามารถนำมาพิสูจน์ตามกระบวนการตามกฎหมาย แต่เท่าที่ตรวจสอบพบมีการเปลี่ยนมือแล้วทั้งนั้น

วันนี้ (6 ก.ค.) นายชัยวัฒน์ ลิขิตอักษร ผอ.ส่วนต้นน้ำ สำนักอนุรักษ์ฯ ที่ 1 (ปราจีนบุรี) หัวหน้าชุดพญาเสือ นายธนโรจน์ โพธิสาโร ผอ.สำนักงานบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 ปราจีนบุรี นายวิชัย พรลีแสงสุวรรณ์ ผอ.ส่วนอุทยานฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อุทยานแห่งชาติทับลาน เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่ปกครอง และตำรวจในพื้นที่อำเภอนาดี พร้อมกำลังเข้าร่วมประชุมชี้แจงเรื่องแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ช่วงอำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี

จากการตรวจสอบแผนที่ถ่ายทางอากาศพบว่า เดิมมีถนนสายกบินทร์บุรี-ปักธงชัย อยู่ด้านขวาของถนนสาย 304 กบินทร์บุรี-นครราชสีมา เป็นพื้นที่ในความรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่กว่า 800 ไร่ และในพื้นที่นี้พบว่า มีนายทุนบุกรุกประกอบธุรกิจรีสอร์ต จำนวน 3 ราย เพื่อความชัดเจนว่าผู้ประกอบการทั้ง 3 รายมีการบุกรุกจริงหรือไม่ กำลังเจ้าหน้าที่ทั้งหมดจะต้องเดินทางไปในพื้นที่เพื่อใช้เครื่องมือหาพิกัดจากดาวเทียมที่มีความละเอียด และความแม่นยำสูง

ต่อมา ชุดพญาเสือได้นำกำลังเดินทางไปตรวจสอบผู้ประกอบการร้านอาหาร และรีสอร์ตทั้ง 3 แห่ง ประกอบด้วย ร้านไก่ย่างเลิศทิพย์ เลขที่ 456 หมู่ที่ 4 ตำบลบุพราหมณ์ อำเภอนาดี มีพื้นที่ครอบครอง 18 ไร่ เป็นร้านอาหาร และที่พัก โดยมี นางเลิศทิพย์ แทบไทสงค์ อายุ 49 ปี เป็นเจ้าของ จุดที่ 2 ร่มเย็นทับลานรีสอร์ท เลขที่ 315 หมู่ที่ 4 ตำบลบุพราหมณ์ มีพื้นที่ 39 ไร่ ประกอบด้วย ร้านกาแฟ ร้านอาหาร และบ้านพัก มีนายคณิต อินวะษา อายุ 59 ปี เป็นผู้ดูแล และจุดที่ 3 ร้านอาหารเรือนขวัญเลขที่ 102/45 หมู่ที่ 4 ตำบลบุพราหมณ์ มีพื้นที่ 11 ไร่ ประกอบด้วย ร้านอาหาร และบ้านพัก มี นายกิตติพณ หงส์ทอง อายุ 35 ปี เป็นผู้ดูแล

พร้อมชี้แจงภารกิจในการเดินทางว่า จากการตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศปี 2498 พบว่า พื้นที่ดังกล่าวยังเป็นป่าสมบูรณ์ และอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ หากผู้ประกอบการมีเอกสารสิทธิถูกต้องให้นำมาชี้แจงต่อเจ้าหน้าที่ และจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ผู้ประกอบการทั้ง 3 แห่งมีเอกสารสิทธิเป็น ส.ค. ได้ทำการซื้อ และเปลี่ยนมือจากเจ้าของเดิม ซึ่งถือว่าไม่ถูกต้อง ทางด้านผู้ประกอบการได้ชี้แจงต่อเจ้าหน้าที่แนวทางเดียวกันว่า พื้นที่ที่ครอบครองได้มีการพิสูจน์สิทธิมาแล้ว โดยทางเจ้าหน้าที่ได้มีการพูดคุยกับผู้ประกอบการว่า หากยอมรับว่าตนเองได้บุกรุกเขตอุทยานฯ ครอบครองโดยไม่ได้เจตนาก็ส่งคืนเป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน พร้อมกันนี้ ชุดพญาเสือ ได้ให้ผู้ประกอบการนำชี้พื้นที่ครอบครองเพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่นำเครื่องมือพิกัดจากดาวเทียมในการประกอบหลักฐานเพื่อดำเนินคดีหากผู้ประกอบการไม่มีเอกสารที่ถูกต้อง

ด้าน นายชัยวัฒน์ ลิขิตอักษร หัวหน้าชุดพญาเสือ กล่าวว่า วันนี้ได้สนธิกำลังยึดคืนผืนป่าในพื้นที่ถนนสาย 304 ซึ่งเป็นรอยต่อระหว่างอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กับอุทยานแห่งชาติทับลาน ภารกิจวันนี้เราพิสูจน์ชัดเจนโดยใช้ระบบ GPS ดาวเทียม และมีการแปลภาพถ่ายว่าเส้นถนน และแนวเขตของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มีเส้นเดียว พื้นที่แถวนี้สันนิษฐานว่า อาจจะเป็นพื้นที่ของทับลาน รวมทั้งพื้นที่ป่าสงวน วันนี้เราแปลภาพถ่ายออกมาชัดเจนแล้วว่าเป็นพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีร้านไก่ย่างเลิศทิพย์ เราได้เข้าไปดำเนินการเจรจา และเข้าไปวัดสิ่งปลูกสร้างทุกรายการ มีพื้นที่ที่เจ้าของแจ้งไว้ 18 ไร่ แต่เราตรวจสอบพบมีพื้นที่ด้านข้างจึงต้องตรวจสอบซ้ำอีกครั้งหนึ่ง จุดที่ 2 ร่มเย็นทับลาน มีพื้นที่ 39 ไร่ มีสิ่งปลูกสร้างโฮมสเตย์ มีเรือนพักที่บริการ รวมทั้งร้านอาหาร และร้านกาแฟ

จุดที่ 3 ร้านเรือนขวัญ ตรวจสอบพบว่า มีการเปลี่ยนมือ เนื้อที่ 11 ไร่ ทั้ง 3 จุด รวมเนื้อที่ 68 ไร่ เป็นพื้นที่ที่เราทวงคืนมาได้ในช่วงเช้า ในส่วนของร้านไก่ย่างเลิศทิพย์ อยู่ในขั้นเจรจาว่าเขาจะยอมรื้อถอนเอง หรือจะให้ทางอุทยานฯ แจ้งความดำเนินคดี ในส่วนพื้นที่ต่างๆ บริเวณจุดนี้ที่มีการครอบครอง ปัญหาของที่นี่คือ การซื้อขายเปลี่ยนมือ เพราะฉะนั้นผู้ที่ครอบครองอยู่กันดั้งเดิม คนยากคนจนไม่ต้องตกใจ อันนี้ยังครอบครองได้อยู่ แต่ผู้ที่มีการซื้อขายเปลี่ยนมือทางรัฐมีนโยบายทวงคืนผืนป่า ทางเราต้องยึดคืนทุกแปลง