นครพนม- วอนผู้ใจบุญช่วย นร.หญิง ม.4 ป่วยมะเร็งเนื้อเยื่อก้อนโตหนัก 1 กก. นอนรอวันตาย ทรมานจนน้ำตาไหล
วันนี้ (2 ก.ค.) ผู้สื่อข่าว จ.นครพนม รับแจ้งจาก นายมงคล แสนสุภา อายุ 60 ปี นายก อบต.มหาชัย อ.ปลาปาก จ.นครพนม ว่า มีนักเรียนหญิงวัย 18 ปี ป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้าย ต้องออกจากโรงเรียนกลางคัน นอนทุกข์ทรมานน้ำตาไหลพรากอาบแก้มด้วยความเจ็บปวด หลังมารดาเสียชีวิต ส่วนบิดาก็ไปมีภรรยาใหม่ มีป้าเลี้ยงดูป้อนข้าวป้อนน้ำ
ขณะที่พี่สาวต้องลาออกจากงานมาดูแล ครอบครัวมีฐานะยากจน ไม่มีเงินเดินทางไปรักษา อยากขอความเมตตาต่อผู้ใจบุญได้ช่วยเหลือชีวิตเด็กหญิงที่น่าสงสารคนนี้ด้วย
จึงเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 73 บ้านมหาชัย หมู่ 2 ต.มหาชัย อ.ปลาปาก เยื้องกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ต.มหาชัย พบเป็นบ้านไม้ติดพื้นชั้นเดียว ฐานะยากจน พบ น.ส.ศศินา พิมพ์แพง วัย 18 ปี นักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนมหาชัยวิทยาคม นอนร้องไห้น้ำตาอาบแก้มทรมานด้วยแผลปูดบวมจากโรคมะเร็งร้ายก้อนโตที่ลุกลามบนหัวไหล่ขวามีน้ำหนักมากกว่า 1 กิโลกรัม
โดยมี นางทองใส พิมพ์แพง อายุ 60 ปี และ น.ส.ฐิติมา พิมพ์แพง อายุ 26 ปี ผู้เป็นป้า และพี่สาวคอยดูแล พบมีบาดแผลปูดบวม เริ่มมีน้ำหนองไหลเยิ้มส่งกลิ่นเหม็นคาว
น.ส.ฐิติมา พี่สาว น.ส.ศศินา ผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายกล่าวว่า น้องสาวตนป่วยด้วยโรคมะเร็งซาร์โคม่า เมื่อเดือน เม.ย.2559 ที่ผ่านมา โรคนี้แพทย์ระบุว่า เป็นมะเร็งก้อนเนื้อเยื้อที่มีขนาดใหญ่มาก เคยไปรักษาที่ รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น แพทย์บอกว่าไม่สามารถผ่าตัดได้ แต่ถ้าผ่าตัดได้ไตอาจจะหายไป 1 ข้างเพราะอยู่ใกล้เส้นเลือดใหญ่ แต่ถ้าผ่าตัดแล้วไม่มีปอดคงไม่มีชีวิตอยู่ได้ ตนจึงต้องลาออกจากงานที่โรงงานแห่งหนึ่งในนิคมแหลมฉบัง จ.ชลบุรี มาดูแลน้องสาว ช่วยป้าอีกแรง
ก่อนหน้านี้เมื่อ 12 ปีที่แล้ว นางถนอม ปัตตานี อายุ 37 ปี มารดาตน และน้องสาวก็เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งลำไส้มาแล้ว ขณะที่ น.ส.ศศินา น้องสาวซึ่งป่วยมีอายุได้ 6 ขวบ ทำให้ต้องกำพร้ามารดาแต่วัยเด็ก ส่วนบิดาตนก็ไปมีภรรยาคนใหม่
นางทองใส ผู้เป็นป้าของ น.ส.ศศินา กล่าวว่า หลานต้องเจ็บปวดทรมานจากแผลก้อนเนื้อเยื่อบนหัวไหลอักเสบ มีหนองไหลเยิ้ม บางครั้งช่วงที่เลือดไหลเยอะจนหลานช็อก อีกทั้งตนเห็นหลานเจ็บปวดน้ำตาไหลก็อดสงสารต้องร้องไห้ตาม อยากให้มีผู้ใจบุญวอนช่วยรักษาชีวิต หรืออยากให้หมอโรงพยาบาลใหญ่ที่มีแพทย์เก่งๆ ได้ผ่าตัดช่วยรักษาเอาบุญด้วย เพราะครอบครัวไม่มีรายได้นอกจากเบี้ยยังชีพ
ส่วน นายสมใจ พิมพ์แพง ผู้เป็นบิดา น.ส.ศศินา ก็มีแค่อาชีพรับจ้างก่อสร้างทั่วไป มีรายได้ไม่แน่นอน ไม่มีปัญหาหาเงินนำตัวบุตรสาวไปรักษาพยาบาลที่ รพ.นครพนม ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายค่าเหมารถ ค่าทำแพทย์ครั้งละ 2,000 บาทในแต่ละสัปดาห์
น.ส.ศศินา หรือน้องหนูนา ผู้ป่วยโรคมะเร็งกล่าวทั้งน้ำตาว่า ช่วงที่เจ็บปวดทรมานด้วยบาดแผล และน้ำหนักมะเร็งร้ายก้อนโตที่หนักกว่า 1 กิโลกรัม ไม่สามารถนอนพลิกได้ ปวดแขนข้างขวาซึ่งไม่สามารถใช้งานได้ มีป้า และพี่สาวคอยช่วยประคองเวลาปวดปัสสาวะ ป้อนน้ำป้อนข้าว แพทย์บอกแก่ตนว่าหากผ่าตัดให้หายได้อาจต้องใส่เครื่องหายใจไปตลอดชีวิต วอนให้ผู้ใจบุญช่วยส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ ที่มีหมอ และแพทย์เฉพาะทางเก่งๆ ด้วย เพราะทนทุกข์ทรมานเหลือเกิน
ขณะที่ น.ส.จีราวรรณ าขะจันทร์ อายุ 33 ปี ครูโรงเรียนมหาชัยวิทยาคม กล่าวว่า เบื้องต้นใน 1-2 วันนี้จะนำเรื่องปรึกษาผู้อำนวยการโรงเรียน ก่อนทำหนังสือเวียนแจ้งให้ครูทราบเพื่อช่วยเหลือบริจาคเป็นค่ารักษาพยาบาล น.ส.ศศินา ตามกำลังคนละเล็กละน้อย
หลังไปเยี่ยมแล้วสงสารน้องหนูนา ที่มีอาการวิกฤตเข้าขั้นโคม่า อีกทั้งพบว่ามีน้ำหนองไหลเยิ้มออกตมาลอดเวลา อาจติดเชื้อถึงขึ้นเสียชีวิตได้หากไม่รีบหาทางรักษาโดยด่วน
ด้าน นายมงคล นายก อบต.มหาชัย กล่าวว่า อบต.ช่วยเหลือเบื้องต้นได้ในกรณีการนำรถกู้ชีพนำตัว น.ส.ศศินา ส่งรักษาทำแผลในแต่ละสัปดาห์ที่ รพ.นครพนม ได้เป็นครั้งคราว หากจะไปไกลกว่านี้รถมีสภาพเก่าแล้วก็ไม่อาจวิ่งไปไกลได้ สงสาร น.ส.ศศินา ที่เป็นเพื่อนของบุตรสาวตน ก่อนนี้เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว เคยทำหนังสือถึงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พมจ.) นครพนม ให้ช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้นแก่น้องหนูนา แต่เรื่องก็เงียบหายไป
จึงขอวิงวอนให้ผู้ใจบุญที่มีกำลังทรัพย์ช่วยเป็นค่าผ้าก๊อตทำแผล ยาฆ่าเชื้อ ยาแก้ปวด เวชภัณฑ์อื่นๆ ที่จำเป็น หรือจะเป็นเครื่องยังชีพมามา ปลากระป๋อง ข้าวสารอาหารแห้ง
สำหรับผู้ใจบุญ และผู้มีจิตศรัทธาสามารถติดต่อไปที่เบอร์ตน โทร.06-1473-8522 หากเป็นเงินบริจาคสามารถโอนเข้าบัญชีเลขที่ 4911129845 ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาแหลมฉบัง ชื่อบัญชี น.ส.ฐิติมา พิมพ์แพง ซึ่งเป็นบัญชีพี่สาวขอ งน.ส.ศศินา โดยตรง