อุบลราชธานี - บอร์ด อคส.บุกตรวจโรงมันเส้นตามโครงการแทรกแซงมันสำปะหลังปี 2554/55 ในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ รอบสองพบเหลือมันเพียง 263 ตันจากที่เก็บไว้กว่า 10,700 ตัน ทำให้รัฐเสียหายกว่า 77 ล้านบาท แจ้งกองปราบฯ ดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด คาดเจ้าของโรงมันหนีไปกบดานอยู่ลาว พร้อมจะขอรัฐบาลระบายมันเส้นที่เหลือในโครงการทั่วประเทศกว่า 3 แสนตัน เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายจากโครงการนี้
รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ หจก.ข้าวหอมอุบล จำกัด ตั้งอยู่บ้านนาโพธิ์น้อย ต.แก้งกอก อ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลราชธานี พล.ต.ต.ไกรบุญ ทรวดทรง ประธานคณะกรรมการองค์การคลังสินค้า (อคส.) พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม กรมการค้าภายในจังหวัดอุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ สภ.ศรีเมืองใหม่ และหน่วยพัฒนาการเคลื่อน 51 นำรถไถและรถตักดินเข้าไถกองแกลบที่อยู่ในถุงบิ๊กแบ็ก เพื่อตรวจสอบว่ายังมีมันเส้นหลงเหลือตกค้างอยู่อีกหรือไม่ พบมีเพียงแกลบอย่างเดียว ทำให้สรุปจากการตรวจสอบมันเส้นตามโครงการแทรกแซงมันสำปะหลังปี 2554/55 ในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่มีมันเส้นเก็บไว้ในโกดังแห่งนี้ น้ำหนักรวม 10,743 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 77 ล้านบาท คงเหลือมันเส้นจริงเพียง 263 ตัน ที่ก่อนหน้านี้ เมื่อเข้ามาตรวจสอบเมื่อวันที่ 23 มิ.ย. คาดจะมีมันเหลืออยู่ประมาณ 1,900 ตัน กลับกลายเป็นแกลบทั้งหมด ทำให้รัฐได้รับความเสียหายเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์
ขณะเดียวกัน ได้เข้าตรวจสอบโครงเหล็กและแผงลวดซึ่งเชื่อว่าถูกใช้เป็นนั่งร้านทำครอบกองมันเส้นที่เก็บไว้ เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ อคส.ที่มาตรวจกองมันว่ายังมีมันเก็บไว้ในโกดังดังกล่าว ทั้งที่ใต้กองมันมีแต่ความว่างเปล่าและถุงบิ๊กแบ็กที่ใส่แกลบมาวางไว้ตบตาเจ้าหน้าที่ จึงสั่งให้พนักงานสอบสวนเก็บโครงเหล็กที่ถูกทิ้งไว้หลังโกดังประกอบเป็นหลักฐานเอาผิดกับคนที่ยักยอกมันเส้นทั้งหมดไป
พล.ต.ต.ไกรบุญ ทรวดทรง ประธานคณะกรรมการองค์การคลังสินค้า (อคส.) กล่าวว่า การตรวจสอบโกดังเก็บมันเส้นสำปะหลัง เนื่องจากเมื่อวันที่ 20 มิ.ย. เจ้าหน้าที่ อคส.จังหวัดอุบลราชธานี พบมีมันทะลักล้นออกมาหน้าประตูโกดังจนผิดปกติ จึงแจ้งเรื่องให้ อคส.ส่วนกลางทราบและลงตรวจสอบวันที่ 23 มิ.ย.ก็พบสภาพโกดังมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม จึงส่งเจ้าหน้าที่เข้ารื้อค้นกองมันเส้นจนพบมีมันหายไปจากที่จัดเก็บจำนวนมาก แสดงให้เห็นถึงเจตนาที่จะยักยอกมันสำปะหลังที่เก็บไว้ในโกดัง ทั้งก่อนหน้านี้และหลังเข้ามาทำการตรวจสอบเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.จึงได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้เกี่ยวข้องในการดูแลรักษามันเส้นที่หายไปทั้งหมดกับกองบังคับการตำรวจปราบปราม
ส่วนขั้นตอนต่อไปก็จะทำการเปิดประมูลมันเส้นที่เหลือทั้ง 263 ตัน ซึ่งเป็นมันอยู่ในข่ายเสื่อมสภาพให้นำไปใช้ประโยชน์ด้านพลังงาน นอกจากนี้ยังจะขออนุญาตรัฐบาลทำการระบายมันสำประหลังในโครงการเดียวกันที่จัดเก็บไว้ตามโกดังต่างๆ ทั่วประเทศอีกกว่า 3 แสนตัน เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับรัฐต่อไปด้วย
ด้าน พ.ต.อ.สานิตย์ ไชยสถิต ผกก.สภ.ศรีเมืองใหม่ กล่าวว่า สำหรับนายวิบูลย์ หรือชื่อเดิมมนัส จำปาทอง เจ้าของ หจก.ข้าวหอมอุบล จำกัด เป็นนักธุรกิจมาจากจังหวัดอำนาจเจริญ และยังมีธุรกิจทำโรงมันสำปะหลังที่ประเทศลาว ได้หายตัวไปจากพื้นที่เมื่อประมาณ 6 เดือนก่อน หลังถูกออกหมายจับฐานฉ้อโกง เพราะสั่งจ่ายเช็คมูลค่ากว่า 1.8 ล้านบาทให้แก่บริษัทขายสินค้าเกษตรในกรุงเทพฯ คาดว่านายวิบูลย์คงหลบหนีอยู่ในประเทศลาว
