ศูนย์ข่าวศรีราชา - การรถไฟฯ พร้อมบริษัทฯ ร่วมตรวจเช็กความพร้อมตู้โดยสารรถไฟรุ่นใหม่ 39 คัน ที่มาถึงท่าเรือแหลมฉบังล็อตแรก จากทั้งสิ้น 115 คัน ก่อนมีพิธีส่งมอบอย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้
จากนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ให้การรถไฟแห่งประเทศไทย ดำเนินการปรับปรุงการให้บริการเดินรถ พร้อมจัดหารถโดยสารใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และอำนวยความสะดวกในการให้บริการแก่ประชาชน
ขณะนี้รถโดยสารรอบแรกมาถึงท่าเรือแหลมฉบังแล้วทั้งสิ้น 39 คัน จากทั้งสิ้น 115 คัน โดยได้ขนย้ายมาจากท่าเรือซี และนำมาไว้ที่รางรถไฟบริเวณท่าซี (C) เพื่อประกอบเป็นรถโดยสารได้ 3 ขบวนๆ ละ 13 คัน โดยแต่ละขบวนแบ่งเป็นรถปรับอากาศนั่ง และนอนชั้นที่ 1 (บนอ.ป.) 1 คัน รถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่ 2 (บนท.ป.) 10 คัน (รวมรถสำหรับผู้พิการ 1 คัน) รถโบกี้ขายอาหารปรับอากาศ (บกข.ป.) 1 คัน และรถกำลังไฟฟ้า (Power Car) 1 คัน รวมเป็น 13 คัน
ล่าสุด วันนี้ (30 มิ.ย.) นายสมพร บุญนวล วิศวกรอำนวยการฝ่ายช่างกล การรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สำหรับในวันนี้จะทยอยทำการตรวจเช็ก และประกอบรถโดยสารรุ่นใหม่แก่บริษัทฯ วันละ 1 ขบวนๆ ละ 13 คัน โดยจะต้องใช้ระยะเวลาตรวจเช็ก 3 วัน เพื่อให้ครบทั้งสิ้น 39 คัน จากนั้นจะนำรถโดยสารขบวนแรกที่ประกอบแล้วเสร็จไปไว้ที่สถานีศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
โดยหลังจากนั้นจะต้องให้บริษัทคู่สัญญาทำการทดสอบระบบ ก่อนทำพิธีส่งมอบให้การรถไฟฯ อย่างเป็นทางการอีกครั้งในเร็วๆ นี้ ซึ่งหลังจากมีการรับมอบรถโดยสารชุดแรกเสร็จ การรถไฟฯ จะทยอยรับมอบรถโดยสารชุดต่อไปอย่างต่อเนื่องจนครบ 115 คัน ภายในเดือนกันยายน 2559
สำหรับรถโดยสารชุดใหม่ทั้งหมด การรถไฟฯ จะนำไปเปิดให้บริการจัดเป็นขบวนรถด่วนพิเศษในเส้นทางที่มีศักยภาพ 4 เส้นทาง ระหว่างสถานีกรุงเทพ-เชียงใหม่, สถานีกรุงเทพ-อุบลราชธานี, สถานีกรุงเทพ-หนองคาย และสถานีกรุงเทพ-หาดใหญ่ ไป-กลับ วันละ 2 ขบวนต่อเส้นทาง รวม 8 ขบวน โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ครบทั้ง 4 เส้นทางได้ในปีงบประมาณ 2560
อนึ่ง การจัดหารถโดยสารรุ่นใหม่สำหรับบริการเชิงพาณิชย์ทั้งหมด 115 คัน มีรถที่มาใหม่ประกอบด้วย รถพ่วงเป็นรถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่1 (บนอ.ป.) 8 คัน รถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่ 2 (บนท.ป.) 80 คัน ในจำนวนนี้มีรถสำหรับผู้พิการ 8 คัน รถโบกี้ขายอาหารปรับอากาศ (บกข.ป.) 8 คัน และรถกำลังไฟฟ้า(Power Car) 8 คัน และในจำนวนทั้งหมดแบ่งเป็นรถสำหรับใช้งาน 104 คัน ส่วนอีก 11 คัน ใช้เป็นรถสำรอง รวมทั้งสิ้น 115 คัน
