สุรินทร์- คนใจโหด มีดกรีดรอบคอสุนัขเป็นแผลฉกรรจ์ลึกหวิดขาด หนีมาขุดหลุมเป็นโพรงดินหลบซ่อนตัวอยู่ใต้กองไม้ เจ้าของตามหา 3 วันมาพบ ขณะบาดแผลที่ลำคอเริ่มเน่า อาการน่าเป็นห่วง ประสานนำส่งทีมสัตวแพทย์ปศุสัตว์สุรินทร์ให้การรักษาอย่างเร่งด่วน ยังต้องเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด
วันนี้ (29 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายเอกวัฒน์ นิลม่วง อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 83 หมู่ 18 บ้านโคกสวาย คุ้มหินปูน ต.ท่าสว่าง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ว่า มีสุนัขเพศผู้อายุ 1 ปีเศษ เป็นสุนัขพันธุ์ไทยพื้นบ้าน ชื่อ “ไอ้เตี้ย” ได้หายออกจากบ้านไป 3 วัน และตามหาจนพบมาขุดดินเป็นโพรงหลบซ่อนตัวอยู่ใต้กองไม้ใกล้กับบ้าน เมื่อใช้ไฟฉายส่องที่บริเวณลำคอมีรอยบาดแผลขนาดใหญ่รอบลำคอของสุนัข และเรียกให้ออกจากโพรงดินที่หลบซ่อนตัวแต่ไม่ยอมออกมา
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยังบ้านเลขที่ดังกล่าว และได้ช่วย นายเอกวัฒน์ นิลม่วง เพื่อนำสุนัขออกมาจากหลุมดิน โดยได้ใช้จอบ และเสียม ขุดดินเปิดทางให้กว้าง เพื่อให้นำสุนัขออกมาได้และนำตัวไปรักษา โดยใช้เวลา 20 นาทีจึงสามารถขุดเปิดปากหลุมให้กว้างได้ ก่อนเรียกชื่อสุนัข “ไอ้เตี้ย” สักพัก ลุกขึ้นวิ่งออกมาจากหลุมดิน และด้วยความเจ็บปวดสุนัขได้วิ่งวนรอบบ้านไปมา อยู่ถึง 3 รอบ ก่อนที่ นายเอกวัฒน์ เจ้าของจะสามารถจับตัวสุนัขไว้ได้
ตรวจสอบบริเวณรอบลำคอสุนัข พบว่า มีรอยกรีดที่ลำคอเป็นแผลฉกรรจ์ขนาดใหญ่และลึกรอบทั้งลำคอ สุนัขมีอาการเจ็บปวดและร้องด้วยความเจ็บปวดเป็นระยะๆ รวมทั้งเริ่มมีกลิ่นเน่าที่บริเวณบาดแผล อาการน่าเป็นห่วง ต้องได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว ผู้สื่อข่าวจึงได้ประสานงานไปยัง นายเทิดศักดิ์ ดีเสมอ นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ ปศุสัตว์จังหวัดสุรินทร์ เพื่อนำสุนัขที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสไปทำการรักษา ซึ่งนายสัตวแพทย์ เทิดศักดิ์ ดีเสมอ พร้อมด้วยสัตวแพทย์ ประจำสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสุรินทร์ ได้เตรียมอุปกรณ์ เครื่องมือ เพื่อให้การรักษาอย่างเร่งด่วน
โดยทีมสัตวแพทย์ ได้ตรวจสอบแผลแผลอย่างละเอียด พร้อมทั้งสอบถาม น.ส.นวล นิลวัฒน์ ผู้ที่นำสุนัข “ไอ้เตี้ย” มารักษาถึงบาดแผลที่เกิดขึ้น ซึ่ง น.ส.นวล ยืนยันว่า สุนัขตัวนี้ไม่มีการใช้บ่วงหรือเชือกคล้องคอสุนัขมาตั้งแต่เล็กแล้ว แต่ก่อนเกิดเหตุ เจ้าเตี้ยได้หายออกจากบ้านไป 3 วัน และกลับมาบ้านด้วยสภาพมีบาดแผลฉกรรจ์รอบลำคอ ไม่ทราบว่าไปถูกใครใช้มีดกรีดที่ลำคอมา และเจ็บปวด จนต้องขุดดินเป็นหลุมลงไปหลบอยู่ เพราะความกลัวจะถูกทำร้ายอีก พร้อมทั้งเพื่อหลบแมลงวันที่บินตอมบาดแผลสร้างความรำคาญ เจ้าหน้าที่สัตวแพทย์ ได้ทำการล้างแผล ให้ยาสลบ และขูดเนื้อส่วนที่เน่าออกให้เป็นเนื้อสด แล้วทำการเย็บบาดแผล และให้ยาปฏิชีวนะ ในการรักษา ซึ่งสัตวแพทย์ต้องเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิดเพื่อรอยติดตามอาการต่อไปอีก
