นครปฐม - สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคล เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มอบป้ายโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา หมู่บ้านรักษาศีล 5 ที่จังหวัดนครปฐม
วันนี้ (27 มิ.ย.) ที่บริเวณลานหน้าพระร่วงโรจนฤทธิ์ องค์พระปฐมเจดีย์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคล เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 70 ปี 9 มิถุนายน 2559 และเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลทรงเจริญพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา 12 สิงหาคม 2559
โดยสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช พร้อมด้วยคณะสงฆ์ภาค 15 จำนวน 2,500 รูป นำสวดเจริญพระพุทธมนต์ ซึ่งมีรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการทุกภาคส่วน นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวจังหวัดนครปฐม ร่วมพิธีเป็นจำนวนมากเพื่อเป็นการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์
อีกทั้งสร้างขวัญ และกำลังใจให้พุทธศาสนิกชนที่เป็นพสกนิกรอยู่ภายใต้พระโพธิสมภาร ได้แสดงออกถึงความจงรักภักดี ให้สังคมเกิดความสงบร่มเย็น และสันติสุข ด้วยการนำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนามาประพฤติปฏิบัติในวิถีชีวิต ประชาชนมีความสามัคคีปรองดอง ด้วยการทำกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาร่วมกัน โดยมีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งชาติ
โอกาสนี้ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นประธานประทานป้ายโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา หมู่บ้านรักษาศีล 5 แก่กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค 15 ประกอบด้วย จังหวัดราชบุรี สมุทรสงคราม เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ รวมทั้งสิ้น 140 คน
ซึ่งโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา หมู่บ้านรักษาศีล 5 เป็นนโยบายของมหาเถรสมาคม อันมีเจ้าประคุณสมเด็จมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช มีความมุ่งหมายในอันที่จะส่งเสริมความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติให้เกิดความสงบ สันติสุข มีความสมานสามัคคีกลมเกลียวกัน ซึ่งสอดคล้องต่อเจตนารมณ์ของรัฐบาล ที่กำลังรณรงค์สร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ โดยให้พุทธศาสนิกชนได้น้อมนำเอาหลักศีล 5 มาประพฤติปฏิบัติในการดำเนินชีวิตประจำวัน