ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ตำรวจโคราชรวบโจ๋สุดแสบตระเวนลักทรัพย์หอพักทั่วเมืองโคราช ได้พร้อมของกลางโน้ตบุ๊ก 7 เครื่อง เผยลักทรัพย์เป็นอาชีพ กลางคืนอาศัยซุกหัวนอนตามร้านเกม กลางวันออกหาเหยื่อ สารภาพทำมานานกว่า 1 เดือน หาเงินเที่ยวเตร่
เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (27 มิ.ย.) ที่หน้า สภ.เมืองนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา พ.ต.ท.ภัทราวุธ สีหะ รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ตามหอพัก ได้ผู้ต้องหา 1 ราย คือ นายวีระศักดิ์ หรืออ้าว ดำดิน อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 185 ม.7 ต.ธาตุทอง อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง กระเป๋าสะพายสีดำ 1 ใบ โน้ตบุ๊ก 7 เครื่อง เหล็กสกัด 20 นิ้ว 1 ตัว ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อเหตุ
เจ้าหน้าที่แจ้งกล่าวหาว่าลักทรัพย์ในเคหสถาน ทำอันตรายสิ่งกีดกั้นคุ้มกันหรือทรัพย์ หรือรับของโจร โดยมีผู้เสียหายซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาเดินทางมาชี้ตัวนายวีระศักดิ์ผู้ต้องหาจำนวนมาก
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. เวลาประมาณ 11.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุสุรนารี แจ้งว่าที่หอพักจิตนา ตั้งอยู่เลขที่ 525/2 ถ.กีฬากลาง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา มีเหตุลักทรัพย์ภายในห้องพักจึงเดินทางไปตรวจสอบหอพักดังกล่าว พบ น.ส.พลอยไพลิน ก้านกลาง อายุ 18 ปี ผู้เสียหาย แจ้งว่าห้องพักของตนถูกงัดและมีทรัพย์สินหายไป และได้แจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.เมืองนครราชสีมา เจ้าหน้าที่จึงทำการสอบสวนหาข่าวพร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่สามารถจับภาพคนร้ายไว้ได้
ต่อมาเมื่อวานนี้ (26 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่า ผู้ต้องหาเดินอยู่บริเวณถนนช้างเผือก จึงร่วมกันเดินทางไปตรวจสอบเมื่อไปถึงพบนายวีระศักดิ์ ผู้ต้องหายืนอยู่หน้าร้านก๋วยเตี๋ยว ส.สุนทร จึงแสดงตัวเข้าทำการจับกุมตัว และตรวจค้นพบทรัพย์สินที่ขโมยมา สอบถามนายวีระศักดิ์ให้การรับสารภาพว่าได้ลักมาจากหอพักจิตนาโดยใช้เหล็กสกัดทำลายกุญแจห้องพักแล้วงัดเข้าไปลักทรัพย์สินภายในห้องพัก
นายวีระศักดิ์ให้การว่า ตระเวนลักทรัพย์ตามหอพักในเขตตัวเมืองนครราสีมามานานกว่า 1 เดือน โดยจะปฏิบัติการในช่วงกลางวันตั้งแต่ 09.00 น.เพราะไม่มีคนอยู่หอพัก โดยใช้เหล็กสกัดกุญแจให้หลุดออกและเข้าไปลักทรัพย์ทั้งเงินสด โทรศัพท์มือถือ รวมถึงโน้ตบุ๊กและทรัพย์สินอื่นๆ ที่สามารถนำไปได้ และช่วงกลางคืนจะอาศัยนอนอยู่ตามร้านเกม โดยทรัพย์สินที่ได้มานำไปขายให้ร้านรับซื้อโน้ตบุ๊กราคาเครื่องละประมาณ 3,500 บาท ก่อนนำเงินไปเที่ยวเตร่และใช้จ่าย ก่อนมาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้