ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ภัยร้ายสังคม! ตำรวจโคราช รวบไอ้ตีนแมวขี้คุกตระเวนงัดบ้านเรือน ปชช. ลักทรัพย์สินหาเงินเที่ยวเตร่พร้อมของกลางเพียบ สารภาพเพิ่งพ้นโทษออกมาได้แค่ 2 เดือน ก่อเหตุแล้ว 14 ครั้ง เผยควบ จยย.ตระเวนดูบ้านที่มีกุญแจคล้องประตูหน้าบ้านไว้แสดงว่าเจ้าของไม่อยู่ แล้วลงมือก่อเหตุทันทีในช่วงกลางวัน
วันนี้ (31 ส.ค.) ที่บริเวณด้านหน้า สภ.เมืองนครราชสีมา พล.ต.ต.ฐากูร นัทธีศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปฏิยุทธ สิงห์สมโรจน์ ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.เมืองนครราชสีมา ร่วมกันแถลงผลการจับกุมคนร้ายก่อเหตุลักทรัพย์ในเคหสถานมาอย่างโชกโชน ได้ผู้ต้องหา 1 ราย คือ นายเปนเอก หรือนายพรศักดิ์ หรือเอ็กซ์ โพธิ์แก้ว อายุ 39 ปี พร้อมของกลาง 8 รายการ ประกอบด้วย เครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง กล้องถ่ายรูป 1 ตัว กล้องส่องทางไกล 1 ตัว ต่างหูสีทองล้อมเพชร 3 ชิ้น กำไลข้อมือสีทองล้อมเพชร 1 ชิ้น ไขควงปากแบน เสื้อยืดแขนสั้น รถจักรยายยนต์ที่ใช้ก่อเหตุอีก 1 คัน
ขณะแถลงข่าวต่อสื่อมวชนได้มีเจ้าทุกข์ผู้เสียหายทั้งข้าราชการ ประชาชนเดินทางมาดูทรัพย์สินและตัวนายเปนเอก ผู้ต้องหาเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเกิดเหตุลักทรัพย์ในเคหสถานขึ้นบ่อยครั้งในพื้นที่ อ.เมืองนครราชสีมา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงออกสืบสวน และตรวจสอบประวัติอาชญากรรมคนร้ายที่มีพฤตการณ์ลักทรัพย์ในเคหสถานจนพบว่า ผู้ต้องหามีประวัติคดีลักทรัพย์ลักทรัพย์ในเคหสถาน และเพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อเดือน พ.ค.2558 และยังมีพฤตการณ์ลักทรัพย์ ปัจจุบันพักอยู่หอพักทวีลักษณ์ ถ.ราชนิกูล ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา จึงร่วมกันไปตรวจสอบ พบตัว นายเปนเอก ผู้ต้องหา และของกลางในห้องพักจำนวนหลายรายการ
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ของกลางดังกล่าวลักมาเมื่อวันที่ 28 ส.ค. ที่บ้านเลขที่ 392 หมู่ 10 ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา เจ้าหน้าที่จึงได้ติดต่อ นางศศิมาภรณ์ อรุณ ผู้เสียหาย มาตรวจสอบของกลางยืนยันว่าเป็นทรัพย์สินของตนจริงที่ถูกคนร้ายงัดประตู และหน้าต่างเข้าไปลักทรัพย์จริง เจ้าหน้าที่จึงจับกุม นายเปนเอก ผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดี
นอกจากนี้ ได้ทำการขยายผลทราบว่า ผู้ต้องหาได้ก่อเหตุในบ้านพักของประชาชนในช่วงเวลากลางวัน และขับขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนไปตามหมู่บ้านในพื้นที่ อ.เมือง นครราชสีมา แล้วสังเกตว่าบ้านหลังใดที่มีกุญแจล็อกคล้องประตูด้านหน้าไว้แสดงว่าเจ้าของไม่อยู่ จึงลงมือเข้าไปงัดประตูหรือหน้าต่างเข้าไปลักทรัพย์สิน และผู้ต้องหายังยอมรับว่า หลังพ้นโทษออกมาเมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ได้ก่อเหตุลักทรัพย์มาแล้วประมาณ 14 ครั้ง เมื่อได้ทรัพย์สินมาจะนำไปใช้จ่ายเที่ยวเตร่ เงินหมดก็จะออกตระเวนลักทรัพย์ต่อไป ซึ่งหากประชาชนคนใดถูกคนร้ายงัดบ้านเข้าไปลักทรัพย์สินสามารถมาดูตัวเพื่อแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมได้ ที่ สภ.เมืองนครราชสีมา
