ศูนย์ข่าวศรีราชา- นายก ส.ส่งเสริมการเลี้ยงไก่ฯ เชื่อการส่งออกเนื้อไก่ไทยไปยังประเทศอังกฤษจะไม่ได้รับผลกระทบ ไม่ว่าผลการลงประชามติของชาวอังกฤษ เรื่องการจะออก หรืออยู่กับกลุ่มสหภาพยุโรปจะออกมาเป็นเช่นไร เพราะความต้องการบริโภคเนื้อไก่จากไทยยังมีอยู่สูง หวั่นเพียงหากอังกฤษถอนตัวออกจริงจะทำให้ค่าเงินปอนด์แกว่งตัวจนะกระทบต่อธุรกิจส่งออกทั่วโลก
นางฉวีวรรณ คำภา นายกสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ให้ความเห็นเกี่ยวการออกเสียงประชามิตของชาวอังกฤษ เรื่องการจะถอนตัวออกจากกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป หรือยูโรโซนหรือจะยังอยู่ต่อไปว่า ไม่ว่า สุดท้ายแล้วผลโหวตจะออกมาเป็นเช่นไร ธุรกิจส่งออกเนื้อไก่ของผู้ประกอบการไทยย่อมไม่รับผลกระทบ เพราะความต้องการบริโภคเนื้อไก่จากไทยยังมีอยู่สูงทั้งในประเทศอังกฤษ และประเทศกลุ่มสหภาพยุโรป โดยเฉพาะเครือฉวีวรรณ กรุ๊ป ที่ยังมีการส่งออกเนื้อไก่ไปยังประเทศอังกฤษมากที่สุด
“ไม่ว่าผลการโหวตจะออกมาเป็นเช่นไร เราก็ยังมั่นใจว่าการส่งออกเนื้อไก่จากไทยไปยังประเทศอังกฤษจะยังคงเป็นเช่นเดิม เพราะความต้องการบริโภคที่ยังมีอยู่สูง แต่สิ่งที่ผู้ประกอบการอดที่จะวิตกกังวลไม่ได้ก็คือ หากสุดท้ายแล้วอังกฤษ ถอนตัวออกจากกลุ่มสหภาพยุโรปจะเกิดความสับสน และกังวลเกี่ยวกับค่าเงินปอนด์ที่อาจแกว่งตัวจนสร้างความปั่นป่วนให้แก่ธุรกิจส่งออกทั่วโลกได้”
นางฉวีวรรณ ยังเผยอีกว่า จากเป้าหมายการส่งออกเนื้อไก่ไทยไปยังต่างประเทศกว่า 7 แสนตัน พบว่า เป็นการส่งเนื้อไก่ไปยังประเทศกลุ่มสหภาพยุโรปมากถึง 49% โดยแบ่งเป็นส่วนแบ่งการส่งออกไปยังประเทศอังกฤษถึง 10% ของจำนวนการส่งออกไปยังกลุ่มสหภาพยุโรปทั้งหมด ซึ่งในแง่การดำเนินธุรกิจแล้วผู้ประกอบการย่อมต้องการให้ประเทศอังกฤษอยู่ในกลุ่มสหภาพยุโรปต่อไป เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความผันผวนของค่าเงินที่อาจต้องใช้เวลานานหลายเดือนจนกว่าจะเข้าที่
“ในส่วนของผู้ประกอบการอาหารยังไม่มีความกังวลว่าสุดท้ายแล้วอังกฤษจะอยู่หรือไปจากกลุ่มสหภาพยุโรป เพราะแนวโน้มการส่งออกเนื้อไก่จากไทยไปยังประเทศอังกฤษแต่ละปียังมีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และคนอังกฤษก็ยังนิยมบริโภคสินค้าที่ปรุงสำเร็จแล้วจากไทย ซึ่งเราก็เข้าใจว่าประชาชนอังกฤษบางส่วนมีความวิตกกังวลว่าหากอังกฤษยังอยู่ในกลุ่มยูโรโซน จะต้องเจอปัญหาการอพยพเข้ามาของกลุ่มผู้ลี้ภัย ที่ขณะนี้เป็นปัญหาใหญ่ของหลายประเทศ นอกจากนั้นอังกฤษยังต้องคำนึงถึงเรื่องสนธิสัญญาต่างๆ ที่ทำให้อังกฤษไม่สามารถดำเนินกิจกรรมใดๆ ได้อย่างอิสระ” นางฉวีวรรณ กล่าว
