พระนครศรีอยุธยา - ผู้ว่าฯ พระนครศรีอยุธยา เปิดร้านค้าชุมชนประชารัฐฯและเป็นประธานลงนามข้อตกลงรับซื้อผลผลิต “เมลอน” บรรยากาศสุดฮือฮาเปิดประมูล "เมลอนลูกแรก" ของเมืองกรุงเก่าราคาสูงถึง 35,000 บาท ลูกที่สอง 22,500 บาท และลูกที่สาม 15,000 บาท
เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (22 มิ.ย.) ที่บริเวณแปลงเมล่อน หมู่ 2 ต.นาคู อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา นายประยูร รัตนเสนีย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานเปิดร้านค้าชุมชนประชารัฐและตัดเมลอนลูกแรก รวมถึงการเป็นประธานลงนามข้อตกลง รับซื้อผลผลิต “เมลอน” ภายหลังจากเมล่อนที่กลุ่มเกษตรกรตำบลนาคู ได้ร่วมกันปลูกสร้างรายได้ในช่วงวิกฤตภัยแล้ง ขณะนี้ได้เจริญเติบโตจนถึงช่วงเก็บเกี่ยวได้แล้ว
นายประยูร รัตนเสนีย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ตามที่กลุ่มเกษตรกรตำบลนาคู อ.ผักไห่ ได้รับอนุมัติงบประมาณตามแผนพัฒนาอาชีพเกษตรกรตามความต้องการของชุมชนเพื่อบรรเทาภัยแล้ง ปี 2558/2559 กรณีการปลูกพืชใช้น้ำน้อย (ระยะที่ 2) ภายใต้มาตรการที่ 4 เป็นเงินจำนวน 1,090,200 บาท
กลุ่มเกษตรกรดังกล่าวได้ร่วมกันดำเนินการปลูกเมลอน บนพื้นที่กว่า 10 ไร่ ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2559 เป็นต้นมา และในวันนี้ได้ครบกำหนดเก็บเกี่ยวผลผลแล้ว จึงได้มาร่วมกันเก็บผลผลิตเมลอน เพื่อเป็นปฐมฤกษ์และเป็นขวัญกำลังใจให้แก่เกษตรกรที่ได้ช่วยกันดูแลผลผลิตร่วมกันตลอดมา พร้อมทั้งเปิดร้านค้าชุมชน ที่ทุกภาคส่วนได้ร่วมกันจัดตั้งขึ้น เพื่อเป็นศูนย์รวมในการดำเนินงานและเป็นศูนย์จำหน่ายสินค้าของพี่น้องเกษตรกรในชุมชนอีกด้วย
ทั้งนี้ การปลูกพืชใช้น้ำน้อย ด้วยการปลูกเมลอนของกลุ่มเกษตรกรตำบลนาคู ถือว่าประสบผลสำเร็จเป็นอย่างมาก เนื่องจากเมลอนบนพื้นที่กว่า 10 ไร่นี้ สามมารถให้ผลผลิตที่สมบูรณ์และมีคุณภาพมากถึง 3,200 ผลต่อไร่ ซึ่งผลผลิตเมลอนเหล่านี้ ทางสหกรณ์การเกษตรผักไห่ ได้รับประกันผลผลิตและตกลงรับซื้อจากเกษตรกรในราคากิโลกรัมละ 50 บาท จากราคาปกติที่ขายทั่วไปในราคากิโลกรัมละ 60 บาท เมื่อจำหน่ายทั้งหมดแล้วจะสามารถสร้างรายได้ให้เกษตรกรมีรายได้เลี้ยงครอบครัว นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างคนในชุมชนอีกด้วย ซึ่งก็จะเป็นต้นแบบที่ดีให้กับกลุ่มเกษตรกรอื่นๆได้อีกด้วย
ในโอกาสเดียวกันนี้ ภายในงานยังมีสีสันเรียกเสียงฮือฮา ได้มีการนำเมลอน 3 ผลแรกที่เก็บเกี่ยวมาจากแปลง โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นคนตัดเก็บเองด้วยกับมือมาให้ผู้ร่วมงานได้ร่วมประมูลเป็นสิริมงคล ซึ่งบรรยากาศการประมูลเป็นไปด้วยความคึกคักสนุกสนาน สุดท้ายผู้ที่ชนะในการประมูลได้เมลอนลูกแรกไปครอง คือ นายเกรียงศักดิ์ พิมพ์พันธ์ดี นายกเทศบาลตำบลลาดชะโด โดยชนะการประมูลด้วยมูลค่าสูงถึง 35,000 บาท
ส่วนอีก 2 ผลที่เหลือมีผู้ประมูลไปในราคาผลละ 22,500 บาท และ 15,000 บาทตามลำดับ ทำให้มียอดเงินในการประมูลผลเมลอนในครั้งนี้รวมกันถึง 72,500 บาท ทั้งนี้ เงินรายได้จากการประมูลทั้งหมด จะถูกบริจาคเข้าสภากาชาด เพื่อนำไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนต่อไป