เชียงราย - เวทีเจรจาระหว่างมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย-เถ้าแก่หอพักจบด้วยดี อธิการบดีฯ ยันยังไม่มีการก่อสร้างหอฯ-ศูนย์การค้าในมหาวิทยาลัยฯ ตอนนี้เป็นแค่แนวคิด ไม่มีงบ
วันนี้ (22 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า หลังผู้ประกอบการหอพักหน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย (มร.ชร.) ชุมนุมประท้วงต่อต้านโครงการก่อสร้างหอพัก ศูนย์การค้า ร้านค้า ฯลฯ มูลค่า 8,900 ล้านบาท ภายในมหาวิทยาลัยฯ ช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งทางทหาร มทบ.37 ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ได้ขอให้ผู้ชุมนุมส่งตัวแทน 10 คนเข้าเจรจาหาทางออกกับ ผศ.ดร.ทศพล อารีนิจ อธิการบดี และผู้บริหารมหาวิทยาลัยฯ แทนจนมีข้อยุติได้แล้ว
ผู้บริหารมหาวิทยาลัยฯ ได้ชี้แจงโดยสรุปว่า โครงการดังกล่าวเป็นแนวคิดในการสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่จำเป็นต่อการศึกษา เพราะอาคารหลายแห่งผ่านการใช้งานมานานกว่า 40 ปีแล้ว แต่เนื่องจากต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก จึงเปิดโอกาสให้เอกชนเข้าร่วมทุน แต่ยังมีขั้นตอนอีกมาก รวมทั้งต้องประเมินความคิดเห็นจากประชาชนด้วย จึงยังไม่มีการดำเนินการก่อสร้างใดๆ
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวเรื่องจะมีกลุ่มทุน คือ บริษัทซีพีออลล์ เข้าร่วมทุนดำเนินการนั้น ถือเป็นความคลาดเคลื่อน เพราะมีเพียงการบันทึกความเข้าใจทางวิชาการร่วมกับมหาวิทยาลัยฯ เท่านั้น ไม่ได้เชื่อมโยงกับโครงการนี้เลย
ผศ.ดร.ทศพลกล่าวว่า ที่ผ่านมาการพัฒนาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานภายในมหาวิทยาลัยประสบปัญหาเรื่องงบประมาณ เพราะแต่ละปีจะของบประมาณนำมาก่อสร้างได้คราวละประมาณ 100 ล้านบาทเท่านั้น โดยปีนี้ได้รับงบเพียง 65 ล้านบาท และต้องขอล่วงหน้าหลายปี ทั้งๆ ที่โดยความเป็นจริงแล้วมหาวิทยาลัยต้องการงบพัฒนาราว 3,000 ล้านบาท แต่ถ้าจะใช้งบจากค่าลงทะเบียนของนักศึกษาก็คงไม่พอ
ดังนั้น เมื่อกฎหมายเปิดช่องให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมพัฒนาด้านการศึกษาได้ จึงได้วางแผนดำเนินการกัน แต่ขณะนี้ก็มีเพียงแค่ความร่วมมือกันทางวิชาการเท่านั้น ไม่มีการลงทุนก่อสร้างใดๆ ตามที่เป็นกระแส จึงเกรงว่าความเข้าใจผิดดังกล่าวจะกระทบต่อความร่วมมือทางการศึกษาระหว่างมหาวิทยาลัยกับภาคเอกชนต่างๆ ที่จะต้องมีมากขึ้นในอนาคตได้ จึงไม่อยากให้มีการออกมาทำกิจกรรมในลักษณะนี้อีก
ด้านนายพิวรรณ สุริยะจันทราทอง ตัวแทนผู้ชุมนุม กล่าวว่า ภาคประชาชนเห็นด้วยในการพัฒนาภาคการศึกษาของมหาวิทยาลัยฯ และเมื่อทราบว่าไม่ได้มีโครงการสร้างศูนย์การค้า หรือหอพักขนาดใหญ่ภายในมหาวิทยาลัยฯ ก็รู้สึกสบายใจ และเข้าใจมากขึ้น แต่ถ้าจะดำเนินการในอนาคตก็ขอให้คำนึงถึงผลกระทบที่จะมีต่อประชาชนในท้องถิ่นด้วย